รีวิว ESCAPE PLAN 2: HADES คุณหลอกดาว!
นอกจากใบหน้าอันหล่อเหลาของนักแสดงชาวจีนอย่างหวง เสี่ยวหมิง แล้ว เราจะพบว่าหนังอย่าง ESCAPE PLAN 2: HADES น่าจะจัดว่ามันเป็นหนังภาคต่อที่ค่อนข้างเลวร้ายและตื้นเขินไปซะหมด แม้ฉากแอ็คชั่นที่ดูประเดประดังใส่คนดูทุก 10 ถึง 15 นาที แต่ฉากเหล่านี้กลับไม่มีความหมายอันใด เมื่อเราไม่ได้มีโอกาสทำความรู้จักตัวละครซักเท่าไหร่ และแรงจูงใจของตัวละครในหนังเรื่องนี้ก็ดูสับสนไปหมด
หลังจากเหตุการณ์ในหนัง ESCAPE PLAN เรย์ เบรสลิน (ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน) ที่แหกคุกเดอะทูมออกมาได้สำเร็จ คราวนี้เขากลับมาทำในสิ่งที่ถูกที่ควร โดยตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญชั้นสูง พ่อมดแห่งเทคโนโลยี อย่าง ฮัช (เคอติส แจ็คสัน) มาดามวินิจฉัย Jules St. John (ลิเดีย ฮูล) ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ ชู (หวง เสี่ยวหมิง) ผู้หมวดที่เรย์ไว้วางใจ อบิเกล โรส (ไจมี่ คิง) และพนักงานใหม่อย่าง ลุค วอล์คเคน (เจสสี่ เมอคาร์ฟ) และ แจสเปอร์ คิมบรอล (เวส แชทแทม) ภายใต้ชื่อทีมเบรสลิน ซีเคียวริตี้
แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งลูกพี่ลูกน้องของชู ชื่อ ยูแชง (ถัง เฉิน) ผู้มีอิทธิพลในวงการการสื่อสารดาวเทียม ชักชวนชูมาทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้ สุดท้ายทั้งสองถูกจับตัวไปในคุกลับที่ชื่อว่า เฮดีส สถานที่กักขังนักโทษซึ่งมีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นทั้งนักธุรกิจ สายลับ อาชญากร หรือนักการเมือง ซึ่งทุกคนถูกบังคับให้ต่อสู้กันในสนามประลองไฟฟ้าที่เปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ เรย์พยายามทุกวิถีทางเพื่อจะช่วยเหลือลูกทีมของเขาออกมาจากคุก ครั้งนี้เขาต้องขอความช่วยเหลือจาก เทรนต์ เดอร์โรซา (เดวิด เบาทิสตา) ทหารรับจ้างร่างใหญ่ เพื่อนเก่าเพื่อนเก่าแก่
ความตลกของหนังภาคนี้คือให้ตายเถอะ ตัวร้ายจะออกแบบคุกไฮเทคมาไว้เพื่อรีดเค้นความลับจากนักโทษที่มีผลประโยชน์ทางธุรกิจ มันออกจะดูเป็นแนวคิดประหลาดแบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำหรือเปล่า หรือไม่เราก็วิเคราะห์ได้ว่าเขาน่าจะเป็นคนโรคจิตประมาณหนึ่ง แต่คิดหาเหตุผลไปก็เท่านั้น เพราะตรรกะตัวละครในหนังเรื่องนี้ดูป่วงและงงไปหมด แถมหน้าหล่อๆของเสี่ยวหมิงหรือผองเพื่อน ก็ดูไม่ค่อยน่าจะฉลาด (ฉลาดเท่าที่บทเขียนไว้) ซักเท่าไหร่ สรุปง่ายคือตลอดเวลาที่เราดูหนังเรื่องนี้จะเต็มไปด้วยข้อกังขาตลอดเวลา
บทภาพยนตร์ที่เหมือนจะคูล พยายามเท่ และทำตัวฉลาด แต่เปล่าเลยผลลัพธ์ของหนังออกมากลับตาลปัตรไปหมด เพราะมันดูไม่น่าเชื่อ น่าเบื่อ และงี่เง่ามากๆ ช่วงเวลาที่ตัวร้ายพยายามอธิบายเหตุผลและความลับของแผนการยิ่งดูเป็นฉากที่น่าหัวเราะเยาะ และน่าสมเพชเวทนาตัวเองซะเหลือเกินว่าเรากำลังนั่งทนดูหนังเรื่องนี้มาเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงได้ยังไงกัน
บางทีสิ่งที่เลวร้ายกว่าการติดคุกแบบตัวละครในเรื่อง อาจจะหมายถึงการต้องทนนั่งดูหนังห่วยๆ ที่มีชื่อดาราซิลเวสเตอร์ สตอลโลนพะไว้ เป็นดารานำทั้งที่จริงแล้วเป็นแค่ดาราตัวประกอบในหนังภาคต่อที่ไม่รู้จะสร้างขึ้นมาทำไมนอกจากหากินกับชื่อหนังและชื่อดาราก็เท่านั้น!