รีวิว Ant-Man and the Wasp สายใยแห่งครอบครัว

รีวิว Ant-Man and the Wasp สายใยแห่งครอบครัว

รีวิว Ant-Man and the Wasp สายใยแห่งครอบครัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

 

 

มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องและจุดสำคัญของภาพยนตร์

 

 

Ant-Man and the Wasp เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ พะยี่ห้อค่ายมาร์เวลเอาไว้หรา แถมยังมีประเด็นกวักมือเรียกคนดู จากปมที่ค้างคาต่อเนื่องมาจากหนัง Avengers: Infinity War ที่ว่าพวกเขาหายไปไหน ทำไมถึงไม่ไปปรากฏตัวอยู่ในเหตุการณ์ธานอสบุกโลก เอามาไว้เป็นข้อแม้ที่ว่า ทำไมคนดูทั่วไปถึง “จำเป็น” ต้องดูหนังเรื่องนี้    

 

แต่จะว่าไป “ปม” ที่ถูกทิ้งค้างไว้ใน Avengers: Infinity War ก็แทบจะไม่ได้รับการคลี่คลายสักเท่าไหร่ในหนังเรื่องนี้อีกเช่นเดียวกัน เพียงแค่เราจะได้รับรู้ข้อมูลแค่เพียงว่าไม่กี่วันก่อนเหตุการณ์ธานอสบุกโลก แอนท์แมน (พอล รัดด์) และโฮป แวน ไดน์ (อีแวนเจอลีน ลิลลี่) กำลังทำอะไรอยู่

 

 

ฉากแรกเปิดเรื่องของหนังภาคนี้เห็นได้ชัดเลยว่าหนังพยายามจะพูดถึงความสัมพันธ์ภายในครอบครัวแวนไดน์ รวมไปถึงย้อนให้เราได้เห็นถึงภารกิจสมัยที่แฮงค์ พิม (ไมเคิล ดักลาส) ยังคงเป็นแอนท์แมน และปฏิบัติภารกิจเป็นคู่หูกับภรรยาของเขาอย่างเจเน็ต แวน ไดน์ (มิชเชล ไฟเฟอร์) แต่ในภารกิจปลดชนวนระเบิดทำให้เจเน็ตตัดสินใจที่จะต้องย่อส่วนตัวเองให้เล็กไปถึงระดับควอนตัมเพื่อทำให้ทุกอย่างลุล่วงไปได้ แต่นั่นหมายความว่าร่างของเธอจะต้องหลงไปติดอยู่ในมิติควอนตัมตลอดกาล

 

เป็นเวลากว่า 30 ปีที่เจเน็ต แวน ไดน์เข้าใจว่าเธอได้หายสาบสูญไปจากโลกมนุษย์ จนกระทั่งวันหนึ่งสก็อตต์ แลงก์เกิดฝันประหลาดราวกับเขาหลุดไปในมิติควอนตัมอีกครั้งและเห็นร่างของตัวเองกลายเป็นเจเน็ต แวน ไดน์ เขาตกใจตื่นขึ้นและตัดสินใจโทรหาแฮงค์ พิม เพื่อเล่าเรื่องประหลาดดังกล่าว แต่ไม่นานนักโฮปก็ปรากฏตัวขึ้นละลักพาตัวสก็อตต์ที่โดนทัณฑ์บนและถูก FBI กักตัวไว้ในบริเวณบ้านไปยังห้องแล็ปเคลื่อนที่ได้ เพื่อค้นหาความจริงที่ว่าบางทีเจเน็ต อาจจะยังคงมีชีวิตและกำลังส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือผ่านสก็อตต์ก็เป็นได้

 

 

สิ่งที่คนดูจะได้เห็นจากหนังภาคนี้คือการเชิดชูสายสัมพันธ์ความรักภายในครอบครัวทั้งการรอคอย “แม่” ของโฮป แวน ไดน์ และการพาค้นรักกลับมาของแฮงค์ พิม หรือสายใยระหว่างลูกสาวและพ่อของสก็อตต์และแคสซี่ (แอ็บบี้ ไรเดอร์ ฟอร์สสัน) เราจะได้เห็นว่าการรอคอยคนในครอบครัวที่พัดพรากจากกันเป็นเวลาเนิ่นนานทำให้มันกลายเป็น “ภารกิจหลัก” ที่ขับเคลื่อนเรื่องราวของหนังภาคนี้ไปโดยปริยาย

 

การปรากฏตัวของโกสต์ (ฮันนาห์ จอห์น-คาเมน) เด็กสาววัยรุ่นที่เป็นผลลัพธ์จากการทดลองเรื่องมิติควอนตัมที่ผิดพลาดทำให้ร่างกายของเธอพร้อมจะแตกสลายในทุกวินาที และเธอเชื่อว่าการสกัดพลังจากมิติควอนตัมหรือพลังงานชีวิตของเจเน็ตอาจจะเป็นทางรอดของเธอ ก็ทำให้เราเห็นว่าการมีชีวิตรอดโดยปราศจากครอบครัวนั้น อาจจะทำให้เธอเจ็บปวดมากกว่าการโดน S.H.I.E.L.D หลอกใช้และให้ความหวังว่าจะเยียวยารักษาเธอให้กลับมาเป็นปกติด้วยซ้ำไป แรงขับดังกล่าวนี่เองที่ทำให้โกสต์จำเป็นต้อง “ร้าย” เพื่อจะเอาชีวิตรอด  

 

 

ถึงแม้ว่าแก่นหลักของหนังภาคนี้อาจจะพูดเรื่องการรวมพลังกันของคนในครอบครัว แต่เราก็อดรู้สึกไม่ได้ว่า เหตุการณ์หลายอย่างใน Ant-Man and the Wasp  ไม่ได้ทำให้เราทำความเข้าใจกับ “จักรวาลมาร์เวล” เพิ่มขึ้นสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมิติควอนตัม (ที่ยกมาพูดลอยๆและไมได้รับการอธิบายอย่างที่ควรจะเป็น) ความน่าเชื่อถือระหว่างเหตุการณ์ 3 วันก่อนธานอสบุกโลก (อาศรม ของ ด็อกเตอร์ สแตรงค์ในประเทศอเมริกาโดนถล่มจากศัตรูนอกโลกแต่ไม่ปรากฏข่าวทางทีวี?) หรือกระทั่งเหตุการณ์ชุลมุนทั้งหลายในเรื่องก็ดูแยกออกมาเป็นเอกเทศจากจักรวาลภาพใหญ่ของมาร์เวลจนเรารู้สึกว่า “ทีมเขียนบทของมาร์เวล” แอบเอาเปรียบคนดูในการกั๊กข้อมูลของหนังเพื่อนำไปสู่หนังเรื่องถัดไปของค่ายนี้ซะมากกว่า

 

ไม่รู้ว่าคุณผู้อ่านคิดเหมือนเราหรือเปล่านะครับ ^-^

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook