รีวิว Billionaire Boys Club จุดจบของคนโกง

รีวิว Billionaire Boys Club จุดจบของคนโกง

รีวิว Billionaire Boys Club จุดจบของคนโกง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

 

การหยิบเอาบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์ นำมาดัดแปลง แต่งเติม เป็นอีกหนึ่งวิธีการยอดฮิตของการสร้างภาพยนตร์ฮอลลีวูด เช่นเดียวกันกับ Billionaire Boys Club ที่หยิบเอาเรื่องราวของโจ ฮันท์ (แองเซล เอลก็อต) และ ดีน คาร์นี (ทารอน อีเกอร์ตัน) ที่ตัดสินใจเปิดบริษัทแชร์ลูกโซ่ขนาดยักษ์จนเกิดคดีสะเทือนขวัญเมื่อช่วงฤดูร้อน 1984 ในประเทศอเมริกาจนสะเทือนไปทั้งวงการธุรกิจ

 

จะเห็นได้ว่าเส้นทางของตัวละครหนุ่มในเรื่อง เป็นภาพตัวแทนของความทะเยอทะยานและอยากประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว การที่โจมีพรสวรรค์ในเรื่องคณิตศาสตร์และบัญชี ขณะที่ดีนนั้นมีเส้นสายและคนรู้จักมากมายอยู่ในแวดวงธุรกิจของแอลเอ ทำให้พวกเขาลองชักชวนบรรดาเพื่อนสนิทวัยเรียนจาก Harvard School for Boys ให้มาลงทุนกับ Billionaire Boys Club (BBC) บริษัทที่ทั้งสองจัดตั้งขึ้นมา

 

 

ความสำเร็จก้าวแรกเพียงแค่ชั่วข้ามคืน โจและดีนกลายเป็นคนดังในแวดวงสังคมไฮโซแอลเอ ชื่อเสียง เงินทอง ผู้หญิง ถาโถมเข้าหาทั้งสองแบบไม่ทันตั้งตัว โดยที่เขาลืมฉุกคิดไปว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นเป็นการต้มตุ๋นและเอาเงินที่ไม่มีอยู่จริงมาใช้ และในอีกไม่นานหายนะทางการเงินกำลังจะจู่โจมทั้งสองในแบบที่พวกเขาคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

 

ถึงจะหยิบเอาเรื่องจริงในประวัติศาสตร์มาทำเป็นหนัง แต่สิ่งที่ Billionaire Boys Club ในเวอร์ชั่นปี 2018 ค่อนข้างขาดแคลนและแห้งแล้งไปหน่อยก็คือเส้นเรื่องที่เร้าใจ รวมไปถึงสถานการณ์ต่างๆ ในเรื่องที่ค่อนข้างราบเรียบ ทั้งที่มันเป็นเรื่องราวของแวดวงการเงิน การทรยศหักหลัง จนลามไปสู่เรื่องของการฆาตกรรมเพื่ออำพรางคดี แต่ส่วนใดส่วนหนึ่งของประเด็นเหล่านี้ก็ไม่ได้ถูกเน้นย้ำและนำเสนอให้เป็นประเด็นหลัก

 

 

จริงอยู่ที่เส้นเรื่องของหนังอาจจะโฟกัสไปที่สองตัวละครอย่างโจ ฮันท์และดีน แต่เอาเข้าใจจริงแล้ว การแสดงของทารอน อีเกอร์ตันในบทดีน กลับกลายเป็นตัวละครที่น่าสนใจกว่าโจ ไปโดยปริยาย เพราะตัวละครนี้เหมือนเป็นคนเจ้าแผนการ พยายามหาทางหนีทีไล่อยู่ตลอดเวลา และไม่น่าแปลกใจเลยว่าในตอนท้าย เขานี่แหละคือคนที่พลิกสถานการณ์ทั้งหมดจากหน้ามือเป็นหลังมือในทันที

 

อีกหนึ่งนักแสดงที่น่าจะเพิ่มรสชาติให้กับหนังเรื่องนี้ก็คือ เควิน สเปซีย์ ผู้รับบทรอน เลวิน นักลงทุนขาใหญ่ประจำเบฟเวอรี่ ฮิลล์ ที่มีความเจ้าเล่ห์และเก๋าเกมมากพอในแวดวงการเงิน การแสดงของเควิน ช่วยเพิ่มมิติให้กับหนังเรื่องนี้มากทีเดียว เมื่อเทียบกับทีมนักแสดงวัยรุ่นที่ฝีมือค่อนข้างจะธรรมดา (และบทหนังก็ไม่ได้ส่งให้พวกเขาเฉิดฉายอย่างที่ควรจะเป็นด้วยนั่นแหละ)

 

เหนืออื่นใด ถึงแม้ว่าหนังที่พูดถึงเรื่องการหักหลังในแวดวงธุรกิจนั้นมักจะมอบบทเรียนราคาแพงให้กับบรรดาตัวละคร แต่ท้ายที่สุดสิ่งที่ Billionaire Boys Club กล่าวถึงบทสรุปของตัวละครในเรื่องกลับไม่ค่อยสามารถสร้างอารมณ์ร่วมหรือความน่าเห็นอกเห็นใจให้กับผู้ชมได้สักเท่าไหร่ นั่นก็เพราะหนังค่อนข้าง “พร่อง” ในเรื่องการสร้างเสน่ห์ให้กับตัวละครเอกไปอย่างน่าเสียดาย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook