ดีซีจัดหนัก! ปล่อยตัวอย่าง Aquaman และ Shazam!
เทศกาล San Diego Comic-Con 2018 คือเทศกาลปล่อยของจากบรรดาสตูดิโอภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ในอเมริกา โดยเฉพาะบรรดาหนังบล็อกบัสเตอร์ หนังภาคต่อ หนังแฟรนชายส์และหนังซูเปอร์ฮีโร่ คราวนี้เป็นคิวของค่ายดีซี ภายใต้ชายคาสตูดิโออย่างวอร์เนอร์ บราเธอร์ ซึ่งไม่รอช้าปล่อยตัวอย่างภาพยนตร์ถึงสองเรื่องรวด อย่าง Aquaman และ Shazam
สำหรับ Aquaman ที่เพิ่งปล่อยโปสเตอร์อย่างเป็นทางการออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ในงาน San Diego Comic-Con 2018 ก็ได้ฤกษ์ที่จะปล่อยตัวอย่างแรกออกมาสู่สายตาชาวโลกซะที โดยหนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับ เจมส์ วาน (ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์แห่งจักรวาลผีสาง The Conjuring) โดยบอกเล่าเรื่องราวของการชิงดีชิงเด่นระหว่างพี่น้องที่มีความขัดแย้งกันระหว่าง "อาร์เธอร์ เคอร์รี่" หรือ "อควาแมน" (เจสัน โมมัว) กับ "ออร์ม" หรือ "โอเชี่ยน มาสเตอร์" พี่ชายตัวร้ายของเขา (แพทริค วิลสัน) จนนำไปสู่สงครามใต้ทะเลลึก
สิ่งที่ผู้กำกับอย่างเจมส์ วานได้เปิดเผยว่า นี่เป็นการกระโดดข้ามแนวการกำกับภาพยนตร์จากแนวถนัดของเขาอีกครั้งหลังจากที่เขาเคยทำหนังสยองขวัญอย่าง The Conjuring และได้รับโอกาสให้ไปกำกับหนังแฟรนชายส์รถซิ่งอย่าง Furious 7 ครั้งนี้เขาต้องมากำกับหนังซูเปอร์ฮีโร่แฟนตาซี แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับมองว่าวิธีการสร้างเรื่องราวของเขาคือการสร้างคาแรกเตอร์ของตัวละครให้กลายเป็นที่รักและเป็นที่จดจำของผู้ชม ไม่ต่างจากการสร้างหนังสยองขวัญ (ที่ประสบความสำเร็จ) นั่นคือการทำให้คนดูแคร์ตัวละครบนจอและทำให้อยากจะติดตามเอาใจช่วยพวกเขาไปจนตลอดรอดฝั่ง
ไม่เพียงแต่เรื่องการสร้างคาแรกเตอร์ Aquaman ยังเน้นในส่วนของพาร์ทเรื่องรักโรแมนติกอีกต่างหาก ถึงแม้ว่าบรรดาผู้ชมจะตั้งหน้าตั้งตารอว่าความรักระหว่างอควาแมนและเมร่า (แอมเบอร์ เฮิร์ท) นั้นจะเป็นยังไง แต่หนังเรื่องนี้จะพาคนดูไปสัมผัส “รักแรก” ของทอม เคอรี่และพระราชินีแห่งแอตแลนนา(นิโคล คิดแมน) และเรียนรู้เหตุผลว่าทำไมพระราชินีถึงมีความรู้สึกนึกคิดที่แตกต่างไปจากอาณาจักรใต้ทะเลลึก จนนำไปสู่ความรักระหว่างมนุษย์และชาวสมุทรก่อนจะให้กำเนิดอาเธอร์ (อควาแมน) ขึ้นมา ซึ่งจากความรักในส่วนของตัวละครพ่อแม่จะทำให้คนดูได้เข้าใจถึงความเป็นมาของตัวละครอควาแมนได้มากขึ้น ว่าทำไมพัฒนาการของตัวละครนี้ถึงเป็นเช่นนั้น
นอกจากนี้ใน Aquaman คนดูจะได้ลงไปสัมผัสกับอาณาจักรใต้ท้องทะเลอย่างแอตแลนติส อันเป็นดินแดนที่ซ่อนตัวอยู่โดยที่ไม่ให้ชาวโลกได้รับรู้ผ่านเทคโนโลยีเรืองแสงชีวภาพ ที่มีกำแพงบาเรีย ป้องกันการถูกตรวจจับจากเรดาร์ของมนุษย์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กับกำแพงบาเรียของอาณาจักรวากานดาใน Black Panther นั่นเอง
ใครที่สนใจก็เตรียมรอกันไปดูในโรงหนังวันที่ 13 ธันวาคม 2561 ที่จะถึงนี้ได้เลย
นอกจาก Aquaman แล้วอีกหนึ่งฮีโร่ที่เรียกได้ว่าน่าจับตามองไม่แพ้กันก็คือ Shazam! ฮีโร่สายฮาที่จะมาเรียกเสียงหัวเราะ และทำให้จักรวาลฮีโร่ฝั่งดีซีไม่อึมครึมและจริงจังจนเกินไป เราขอแนะนำให้รู้จักกับบิลลี่ แบทสัน (แอชเชอร์ แองเจล) เด็กกำพร้าวัย 14 ปีที่ต้องเอาตัวรอดในเมืองใหญ่นั้น ดึงออกมาโดยการตะโกนคำว่า Shazam! แล้วจากนั้นเขาก็จะกลายมาเป็นซูเปอร์ฮีโร่วัยผู้ใหญ่ ชาแซม (แซ็คคารี่ เลวี่) ซึ่งพลังพิเศษนี้ได้รับการสืบทอดมาจากพ่อมดชราคนหนึ่ง เขายังคงความเป็นเด็กน้อยด้วยหัวใจที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายดั่งพระเจ้า
ชาแซมจะได้สนุกสนานไปกับตัวของเขาในเวอร์ชั่นผู้ใหญ่ ด้วยการทำในสิ่งที่วัยรุ่นคนไหน ๆ ก็อยากจะทำด้วยพลังพิเศษต่าง ๆ แค่สนุกไปกับพวกมัน! เขาบินได้ไหม เขามีความสามารถในการใช้สายตาเอ็กซ์-เรย์แบบซูเปอร์แมนหรือเปล่า เขาสามารถปล่อยลำแสงออกมาจากมือได้ไหม เขาจะก้าวข้ามบทเรียนทางสังคมของตัวเองยังไง ชาแซมมุ่งมั่นที่จะทดสอบขีดความสามารถของเขา ด้วยความบ้าระห่ำอันแสนสุขของเด็กน้อยคนหนึ่ง แต่เขาก็ต้องการที่จะเชี่ยวชาญการใช้พลังเหล่านี้ได้โดยเร็วเพื่อที่จะไปต่อกรกับพลังอำนาจอันร้ายกาจที่ถูกควบคุมโดย ดร. แธดิอุส ซิวานา (มาร์ค สตรอง)
เป็นที่แน่นอนว่าเรื่องราวของชาแซมนั้นยังคงดำรงอยู่ภายใต้จักรวาลเดียวกับฮีโร่ดีซีคนอื่นๆ แต่โทนเรื่องของชาแซมจะเน้นไปในแนวความรักความอบอุ่นแบบหนังครอบครัวแบบเดียวกับหนังที่ตัวละครเด็กจะต้องไปอยู่ในร่างของผู้ใหญ่อย่างหนังเรื่อง Big ที่นำแสดงโดยทอม แฮงก์ หรือทีวีซีรีส์มาร์เวลอย่าง Marvel’s Luke Cage
จากบทภาพยนตร์ของเฮนรี่ เกย์เดน โดยผู้กำกับ เดวิด เอฟ. แซนเบิร์ก (จากหนังสยองขวัญ Light out) เสริมทัพนักแสดงที่มาถ่ายทอดเรื่องราวต้นกำเนิด ไม่ว่าจะเป็น ซาแซม (รับบทโดย แซ็คคารี่ เลวี่) ซูเปอร์ฮีโร่แห่ง DC ตัวเอกของเรื่อง พร้อมกับ บิลลี่ แบทสัน (รับบทโดย แอชเชอร์ แองเจล) และดร.แธดิอุส ซิวานา (รับบทโดย มาร์ค สตรอง)
แต่สำหรับคนที่อยากดู Shazam! นั้นอาจจะต้องอดใจรอนานหน่อยเพราะหนังวางคิวเข้าฉายเอาไว้ในเดือนเมษายน ปี 2019