เจาะใจ "ตูน บอดี้สแลม" ย้อน 55 วันกับเรื่องที่ไม่มีใครเคยได้ยินแบบหมดเปลือก
รายการ เจาะใจ สัปดาห์นี้พบกับ ตูน บอดี้สแลม (อาทิวราห์ คงมาลัย) กับการมาเยือนรายการอีกครั้ง หลังเสร็จสิ้นภารกิจการกุศลครั้งยิ่งใหญ่กับ "ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาล" โครงการที่รวมพลังคนไทยทั้งประเทศให้ทำความดีเพื่อส่วนรวมและทำให้การวิ่งเพื่อสุขภาพกลายเป็นกระแสฮอตฮิตขึ้นมาในสังคม
ครั้งนี้ตูนกลับมาย้อนรอยเบื้องหลังความสำเร็จ และเหตุการณ์สุดประทับใจที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 55 วันที่ผ่านมา ที่ถูกบันทึกและนำมาเผยแพร่ในรูปภาพยนตร์ชื่อเรื่อง 2215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว ด้วยความมุ่งมั่นที่จะกลับมาสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเราคนไทยลุกมาทำสิ่งดี ๆ เพื่อผู้อื่นอีกครั้ง
โดยตูน เล่าว่า "การวิ่งครั้งแรกเพื่อ รพ.บางสะพาน เป็นเวลา 10 วัน ผมเสียดายที่ไม่ได้เก็บบันทึกเรื่องราวเอาไว้ เพราะมันอาจเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่ได้ทำอะไรแบบนั้น ผมเลยคิดว่าพอจะวิ่งจากเบตงถึงแม่สาย ก็น่าจะเก็บบันทึกไว้ จะได้รู้ที่มาที่ไปก่อนจะวิ่ง หรือเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นระหว่างทาง ซึ่งฟุตเทจนี้น่าจะต่อยอดทำเรื่องดีๆ ได้อีก อาจเป็นภาพยนตร์หรือสารคดี เลยเข้าไปคุยกับ “พี่เก้ง-จิระ มะลิกุล” และทีม เขาก็เลยมอบหมายให้หนึ่งทีมมาตามติดตลอด ตั้งแต่ประชุมงาน ไปซ้อมวิ่ง วิ่งวันแรกจนถึงวิ่งวันสุดท้าย เราตั้งใจว่าเรื่องนี้จะฉายฟรีในโรงภาพยนตร์ เราอยากมอบหนังเรื่องนี้ให้คนไปดูกันฟรีๆ ถ้ามันจะเกิดความบันเทิงสนุกสนาน หรือเกิดแรงบันดาลใจให้ออกไปทำอะไรเพื่อตัวเอง เพื่อคนอื่นได้ก็ยิ่งดี เพราะโครงการนี้เป็นความมีส่วนร่วมของทุกคนที่ได้ออกมาให้กำลังใจกันตามข้างถนน ตลอด 55 วัน
บางคนออกมาให้ข้าวให้น้ำ หลายคนให้สตางค์ให้โรงพยาบาล ให้ทุกอย่างแล้ว หลายคนอยู่ในหนัง ไม่มีค่าตัว ทุกคนออกมาด้วยใจ เราคิดว่าหนังเรื่องนี้มันเป็นของทุกคน สุดท้ายถ้าใครมีแรงบันดาลใจ อยากจะออกไปบริจาคให้โรงพยาบาลไหนสักแห่งหนึ่ง ผมก็เลยคิดว่าอยากจะชักชวนทุกคนมาที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งตอนนี้กำลังสร้างตึกใหม่ ก็ต้องการแรงสนับสนุนจากพวกเราคนไทยอีกพอสมควร"
ทำไมถึงเลือกโครงการนี้ของศิริราช? "ช่วงต้นปีที่แล้วหลังจากที่ผมวิ่งบางสะพานเสร็จ ก็มีคุณหมอที่ศิริราชติดต่อมา บอกว่าอยากจะพานักเรียนแพทย์กลุ่มหนึ่งมาขอกำลังใจจากผม เพราะศิริราชจะทำโครงการที่คุณหมอและนักเรียนแพทย์วิ่งผลัดกันจากเชียงใหม่ลงมากรุงเทพฯ เพื่อระดมทุนสร้างอาคาร นวมินทรบพิตร 84 พรรษา ผมก็งงประมาณหนึ่ง สุดท้ายผมก็คุยและได้ทราบว่าการวิ่งระดมทุนลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อ 30 กว่าปีก่อน โดยคุณหมอนักเรียนแพทย์กลุ่มนี้เอง เป็นการวิ่งเพื่อสร้างตึกสยามินทร์ ที่ใช้อยู่ปัจจุบันนี้ เราก็เลยทั้งตกใจและเซอร์ไพรส์ เพราะคิดว่านักเรียนแพทย์ก็เรียนหนักมากอยู่แล้ว คุณหมอก็ต้องดูแลรักษาคนป่วยท่ามกลางข้อจำกัดต่าง ๆ อยู่แล้ว ยังมาวิ่งเพื่อหาเงินมาสร้างตึกดี ๆ ซื้อเครื่องมือดี ๆ เพื่อมารักษาพวกเราอีก เรียกว่าทำทุกมิติเลยเนอะ ก็เลยคิดว่าแล้วทำไมเราจะไม่ช่วยเขาบ้าง จึงถือโอกาสให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างประโยชน์ ชวนคนดูมาช่วยกันสร้างตึกนี้ให้สำเร็จ"
เล่าย้อนกลับไปตอนที่ “ตูน” วิ่ง เราได้เห็นข่าวว่าคุณบาดเจ็บหลายครั้ง แต่คุณก็ไม่หยุด? "ใช่ครับ คือผมตั้งใจไว้แล้วว่าอยากจะวิ่งให้ถึงจุดหมายภายในเวลาที่เรากำหนดไว้คือ 55 วัน มันเราจะไม่เหลาะแหละกับมัน จะเข้มงวดกับตัวเอง อาจจะตึงหน่อย แต่เราอยากจะเต็มที่กับมันสักครั้งหนึ่ง เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่ากำหนดไว้แล้วจะทำได้ไหม คงมีหลายคนสงสัยว่าเจ็บทำไมไม่พัก วันนี้คงได้คำตอบนะครับ (หัวเราะ)"
มีความรู้สึกที่ว่าวันนี้ไม่อยากออกไปวิ่งไหม? “มีครับ ทุกคนมันมีความขี้เกียจอยู่แล้ว มีเหนื่อยมีเจ็บ แต่พอเป้าหมายชัดเจนมันก็ลุกขึ้นมาเองครับ แต่ถ้าหลังจาก 55 วันจบแล้ว บางวันก็แพ้ตัวขี้เกียจเหมือนกัน คือผมก็เป็นคนปกติที่มีบิดพริ้ว มีทะเลาะกับตัวเอง เวลาจะตื่นก็คิดว่า เมื่อคืนเพิ่งขึ้นคอนเสริต์มาทำไมต้องจะตื่นไปวิ่งอีก มันก็จะมีตัวขาวตัวดำอยู่เหมือนทุกคน เพียงเราต้องเอาชนะน็อคตัวดำให้ได้ สิ่งที่ยากที่สุดในการออกไปวิ่งคือการตื่น และการลุกออกไปนะครับ"
งานนี้ “ตูน” ไม่ได้มาคนเดียว พา 2 หนุ่ม “ณฐพล บุญประกอบ” ผู้กำกับ และ “ยศวัศ สิทธิวงศ์” ผู้กำกับภาพ มาบอกเล่าประสบการณ์เบื้องหลังภาพยนตร์เรื่องนี้ ว่าต้องพบกับความยากลำบากและอุปสรรคมากแค่ไหน พร้อมทั้งเหตุการณ์ที่ประทับใจและยากจะลืม! ปิดท้ายร่วมพูดคุยกับ ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช หนึ่งในแรงบันดาลใจสำคัญทำให้เกิดโครงการอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราชขึ้น ที่มาให้รายละเอียดโครงการพร้อมเผยขั้นตอนการเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยโครงการนี้ได้
ติดตามชมเรื่องราวพร้อมกันได้ คืนวันเสาร์ที่ 25 ส.ค. นี้ เวลา 21.00 น. ทางช่อง 9 MCOT HD. ผู้สนใจชมภาพยนตร์ "2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว" สามารถชมที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และ โรงภาพยนตร์ในเครือ เอสเอฟ ซึ่งจะฉายให้ชมกันฟรีจำนวน 720,000 ที่นั่ง ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายนนี้เป็นต้นไป แบ่งเป็นจันทร์-ศุกร์ ฉายให้ชม 1 รอบ และ เสาร์-อาทิตย์ ฉายให้ชม 2 รอบ ทั้งนี้ผู้ชมและผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคได้ที่ กล่องรับบริจาคตรงเคาน์เตอร์โรงภาพยนตร์และสามารถโอนเงินผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ศิริราช เลขบัญชี 016-3-04556-7 กระแสรายวัน ชื่อบัญชี เพื่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วย อาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราช
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ