รีวิว Searching "ภัย" ใกล้ตัวจากโซเชียลมีเดีย
Searching เปิดเรื่องราวมาด้วยการใช้ “หน้าจอคอมพิวเตอร์” ทำให้เราเห็นถึงยุคสมัยได้อย่างน่าสนใจ เราจะได้เห็นยุควินโดว์ 2000 ที่ตัวละครเปิดหน้าต่างบราวเซอร์อินเตอร์เน็ต การใช้ฟังก์ชั่นต่างๆในคอมพิวเตอร์เพื่อ “บันทึกชีวิต” คล้ายกับการเขียนไดอารี่ ซึ่งหนังเล่าเรื่องราวผ่านสายตาของตัวละครอย่างเดวิด คิม (จอห์น โช) คุณพ่อที่มีลูกสาวอย่างมาร์โก้(มิเชลล์ ลา) ชีวิตแต่งงานดูเหมือนจะราบรื่นไปด้วยดี จนกระทั่งภรรยาของเขาป่วยเป็นโรคมะเร็งและต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จากวันและคืนล่วงเลยเป็นเดือน ท้ายที่สุดภรรยาของเขาก็เสียชีวิตลง
ตัดภาพเหตุการณ์มาปัจจุบัน เราจะได้เห็นการพูดคุยติดต่อสื่อสารระหว่างเดวิดและมาร์โก้ ผ่านอุปกรณ์สื่อสารอย่างโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ด้วยแอพพลิเคชั่นอย่าง Facetime ในการวิดีโอคอล เราจะได้เห็นว่าฝ่ายลูกสาวดูค่อนข้างจะบ่ายเบี่ยงและไม่ค่อยอยากจะมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อของตัวเองสักเท่าไหร่ ช่วงเวลาสั้นๆที่คนดูได้มีโอกาสรับรู้วิถีชีวิตของสองพ่อลูก กลายเป็นข้อมูลสำคัญที่ทำให้ผู้ชมจดจำและปะติดปะต่อเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปในอีกไม่ช้า
หลังจากที่คิมไม่สามารถติดต่อลูกสาวของตัวเองได้กว่า 36 ชั่วโมง เขาเริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น คิมเริ่มตามหาลูกสาวผ่านการสอบถามคนใกล้ตัว แต่เมื่อทุกอย่างไม่คืบหน้า เขาจึงตัดสินใจแจ้งตำรวจเพื่อค้นหาคนหาย นั่นยิ่งทำให้คิมค้นพบว่า บางทีข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของลูกสาวอาจจะเป็นเบาะแสสำคัญในการค้นหาตัวมาร์โก้ก็เป็นได้
อันที่จริงแล้ว Searching หยิบเอาเทคนิคการตัดต่อภาพยนตร์และนำเอาบรรดาอุปกรณ์สื่อสาร คอมพิวเตอร์และแอพพลิเคชั่นต่างๆ เอามาร้อยเรียงและบอกเล่าการสืบคดีค้นหาคนหายได้อย่างน่าสนใจ ชวนติดตาม หลายครั้งที่ “หน้าจอ” เหล่านี้บอกเล่าอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร ผ่านการเคลื่อนไหวเคอร์เซอร์เมาส์ ความรวดเร็วในการพิมพ์ การลบหน้าจออย่างรวดเร็ว ความลังเลในการตัดสินใจ เพราะหลายครั้งหนังก็ใช้สายตาของคนดู ให้เป็นเหมือนสายตาของเดวิด คิม ดังนั้นหนังเรื่องนี้จะให้ผู้ชมเป็นทั้งตัวละคร (บุคคลที่ 1) และผู้สังเกตการณ์ (บุคคลที่ 3) ไปพร้อมกัน
Searching เป็นหนังหักมุมพลิกความคาดหมายของผู้ชมอยู่ตลอดเวลา แต่แก่นหลักของหนังทั้งเรื่องนี้กลับอยู่ที่ความรักความห่วงใยของคนเป็นพ่อ ที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหาหนทางช่วยเหลือลูกสาว ไม่ว่าจะเป็นการสืบคดีด้วยตัวเอง หรือการเชื่อในสัญชาตญาณและความคุ้นเคยในอุปนิสัยของลูกสาว ในการเป็นเบาะแส ถึงแม้ว่าเดวิดอาจจะรู้สึกเหินห่างกับลูกสาวมาหลังจากที่ภรรยาจากไปก็ตาม แต่เขาก็ยังเชื่อว่าจริงๆแล้วสายสัมพันธ์ของครอบครัวนั้น ทำให้การตามหาตัวมาร์โก้ยังคงมีความหวังต่อไป จนกว่าเขาจะได้เห็นร่างของลูกตัวเอง
นอกจากนี้ Searching ยังเป็นหนังที่แสดงให้เห็นถึง “ภัย” จากการใช้โซเชียลมีเดียในการติดต่อสื่อสารกับบุคคลแปลกหน้า การไว้เนื้อเชื่อใจกับคนที่ไม่เคยมีโอกาสได้พบพานทำความรู้จักกันมาก่อนในชีวิตจริง ก่อนนำไปสู่การหลอกลวงและเกิดเหตุอันไม่คาดฝันขึ้นนั่นเอง