60 ปีแห่งการเติบโตของ "กายกรรมกวางเจา" สู่ความตื่นตาครั้งล่าสุด “เดชคัมภีร์เทวดา”

60 ปีแห่งการเติบโตของ "กายกรรมกวางเจา" สู่ความตื่นตาครั้งล่าสุด “เดชคัมภีร์เทวดา”

60 ปีแห่งการเติบโตของ "กายกรรมกวางเจา" สู่ความตื่นตาครั้งล่าสุด “เดชคัมภีร์เทวดา”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากนึกถึงคำว่า “กายกรรม” เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึงการแสดงอันน่าตื่นเต้น จากการโลดโผนโจนทะยานขึ้นเหนือฟ้า ตีลังกาม้วนตัว รวมถึงความแข็งแรงและยืดหยุ่นของร่างกายมนุษย์ ที่ทำเอาผู้ชมต้องตาค้างในทุกครั้งที่ได้ชม และในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ความน่าตื่นตาตื่นใจดังกล่าวก็จะกลับมาเยือนเมืองไทยอีกครั้งกับ “กายกรรมกวางเจา” กับการหยิบตำนานนิยายกำลังภายในฝีมือการประพันธ์ของ กิมย้ง อย่าง “เดชคัมภีร์เทวดา” มาดัดแปลงเป็นการแสดงกายกรรม

Sanook! TV/Movies ได้รับโอกาสให้มานั่งพูดคุยสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับบุคคลเบื้องหลังและเบื้องหน้าของกายกรรมชุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับอย่าง ซู จวน (Xu Juan – Vice General Manager and Director of Guangzhou Acrobatic Arts Theater) และ 2 นักแสดงหนุ่ม ถัง เจ๋อ (Tang Zhe) และ เซี่ย จงบิน (Xie Zhongbin) เมื่อครั้งที่พวกเขาเดินทางมาในงานแถลงข่าวเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ กับเรื่องราวเจาะลึกที่เราแทบจะไม่เคยล่วงรู้มาก่อน มาดูกันดีกว่าว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 60 ปีจากจุดเริ่มต้นจนถึงทุกวันนี้ของคณะกายกรรมกวางเจานั้นมีเรื่องราวอะไรน่าสนใจบ้าง รวมไปถึงเหตุผลที่คุณต้องไปดู เดชคัมภีร์เทวดา เวอร์ชั่นการแสดงกายกรรม ที่จะอลังการงานสร้างยิ่งกว่าเดิมหลายเท่ายิ่งนัก

 

หลายคนคงอยากทราบว่า “กายกรรมกวางเจา” มีจุดเริ่มต้นอย่างไร?

ซู จวน : ต้องบอกก่อนว่า ปีหน้าคณะกายกรรมกวางเจาจะมีการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีแล้ว เพราะบริษัท กวางเจา อะโครบาติก อาร์ทส์ เธียเตอร์ (Guangzhou Acrobatic Arts Theatre) ของเรา ซึ่งเป็นสถาบันศิลปะภาครัฐ ภายใต้การควบคุมของสำนักงานวัฒนธรรมและสื่อมวลชนของเทศบาลกวางเจา เช่น สื่อโทรทัศน์ หรือ สื่อสิ่งพิมพ์ เป็นต้น นั้นก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1959 แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาโรงละครของเราก็ได้สร้างสรรค์กายกรรมเรื่องต่างๆ มากมาย

ซู จวน (ผู้กำกับ)

จากจุดเริ่มต้นจนมาถึงวันนี้ พัฒนาการอันน่าตื่นเต้นของกายกรรมกวางเจาคืออะไร?

ซู จวน : อย่างแรกเลย กวางเจา อะโครบาติก อาร์ทส์ เธียเตอร์ เป็นคณะกายกรรมคณะแรกจากประเทศจีนที่ชนะรางวัลเหรียญทองจากการแข่งขันระดับนานาชาติ เราเคยได้รับรางวัลในการแข่งขันขนาดใหญ่มาแล้วกว่า 100 รางวัล ด้วยการแสดงที่มีความวิจิตรบรรจงมากกว่า 20 รูปแบบ อย่างงาน Festival Mondial du Cirque De Demain หรือ Monte Carlo International Circus Festival เราก็เคยคว้าเหรียญทองมาแล้ว รวมถึงรางวัล Golden Clown Award จากกายกรรมบนเส้นด้ายในงาน 32th Monte Carlo International Circus Festival อีกด้วย ซึ่งเราก็คอยปรับเปลี่ยนการแสดงให้เข้ากับยุคสมัยมาโดยตลอด รวมถึงเรื่องล่าสุดอย่าง เดชคัมภีร์เทวดา ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่โดยคณะของเราเอง ซึ่งเป็นการรวมศิลปะการต่อสู้เข้ากับความสามารถทางกายกรรมเป็นครั้งแรกในประเทศจีน

คิดว่าเสน่ห์ที่สร้างความโดดเด่นและแตกต่างให้คณะกายกรรมกวางเจาคืออะไร?

ซู จวน : ฉันมองว่า นอกเหนือจากการสืบทอดศิลปวัฒนธรรมกายกรรมของจีนแล้ว เรายังผสมผสานการเต้นรำร่วมสมัย ยิมนาสติกลีลา และการแสดงอันน่าทึ่งเข้าไว้ด้วยกัน ไม่เพียงแค่นั้น เรายังให้ความสำคัญอย่างมากกับการฝึกฝนเหล่านักแสดง เสน่ห์ทั้งหมดนี้ทำให้ กวางเจา อะโครบาติก อาร์ทส์ เธียเตอร์ เป็นแบรนด์ด้านวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงของเมืองกวางเจา

เซี่ย จงบิน : ความคิดสร้างสรรค์คือสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ครับ

ถัง เจ๋อ : ผมเห็นด้วยกับเขา (เซี่ย จงบิน) นะ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ผู้ชมในปัจจุบันต้องการการแสดงที่น่าตื่นเต้น การที่จะดึงความสนใจของพวกเขาได้มีหนทางเดียวคือ ต้องมีความคิดสร้างสรรค์

 

สำหรับการเดินทางมาเยือนเมืองไทยเป็นครั้งที่ 3 ของกายกรรมกวางเจา มีความแตกต่างจาก 2 ครั้งแรกอย่างไรบ้าง?

ซู จวน : ที่ชัดเจนที่สุดคือ 2 ครั้งแรกฉันเดินทางมาในฐานะผู้ออกแบบท่าเต้น แต่คราวนี้ฉันมาในตำแหน่งผู้กำกับ อีกอย่างคือฉันเห็นพัฒนาการอย่างมาในเรื่องระเบียบทางสังคม และความสะอาดของสิ่งแวดล้อมในเมืองไทย

ถัง เจ๋อ : ผมกับ เซี่ย จงบิน มาเมืองไทยเป็นครั้งแรกครับ ผมชอบกรุงเทพฯ นะ ชอบอาหารรสจัดๆ ของที่นี่

เซี่ย จงบิน : แต่เอาตรงๆ ผมก็ไม่ค่อยเห็นความแตกต่างระหว่างกรุงเทพฯ กับประเทศจีน หรือเมืองอื่นๆ ของจีนเท่าไหร่นะ (หัวเราะ)

และคราวนี้พวกคุณเลือกตำนานนิยายกำลังภายในเรื่องดังอย่าง “เดชคัมภีร์เทวดา” มาแสดง เหตุใดจึงเลือกเรื่องนี้?

ซู จวน : เดชคัมภีร์เทวดาเป็นนิยายที่มีโครงเรื่องเข้มข้นและระทึกใจมาก มันสามารถปรับเข้าสู่การแสดงกายกรรมได้อย่างสมบูรณ์แบบ แล้วฉันก็เป็นแฟนนิยายตัวยงของ กิมย้ง ซึ่งเป็นผู้ประพันธ์ด้วย ฉันเคยฝันว่าอยากจะลองวิ่งไต่กำแพงหรือเหินเวหาข้ามชายคาต่างๆ ตั้งแต่สมัยยังเด็ก (หัวเราะ)

ถัง เจ๋อ : ส่วนผมรู้สึกว่าสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติ และพลังงานด้านบวกจากเดชคัมภีร์เทวดานะ ซึ่งการที่ผมได้มารับบทจอมยุทธ เล่งฮู้ชง กับอีกหนึ่งบทบาทที่ได้แสดงเป็นด้านไม่ดีของ เยี่ยปู้เฉวิน ต้องยอมรับว่า เป็นสิ่งที่ยากที่สุด มันคือบทบาทที่ผสมผสานระหว่างกายกรรมกับการแสดงอันเร้าอารมณ์เข้าด้วยกัน

เซี่ย จงบิน : ส่วนผมรับบทเป็นด้านดีของ เยี่ยปู้เฉวิน ครับ และอีกบทคือเล่นเป็น เยิ่นหว่อสิง ผมกับ ถัง เจ๋อ จะเล่นมากกว่า 1 บท คือผมอาจจะไม่ได้เป็นแฟนนิยายของ กิมย้ง มากขนาดนั้น ชอบแนวทางแบบไซไฟมากกว่า (หัวเราะ)

(ซ้าย) เซี่ย จงบิน และ ถัง เจ๋อ นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ

ถ้าเกิดว่าในชีวิตจริงพวกคุณมีกำลังภายในขึ้นมา อยากมีความสามารถพิเศษแบบไหนกันบ้าง?

ถัง เจ๋อ : อยากดูดซับพลังงานของคนอื่นมาเป็นของตัวเองได้ (หัวเราะ) อะไรประมาณนั้น

เซี่ย จงบิน : ผมขอไม่มีดีกว่า เป็นคนธรรมดานี่แหละดีแล้ว (หัวเราะ)

สิ่งที่ยากที่สุดในการสร้างกายกรรมเรื่อง เดชคัมภีร์เทวดา คืออะไร?

ซู จวน : น่าจะเป็นช่วงเริ่มแรกเลยค่ะ เป็นช่วงการเขียนบท ซึ่งฉันพยายามจะนำส่วนประกอบบางอย่างใส่เข้าไปในเรื่อง เช่น ลักษณะของตัวละคร หรือความสามารถของนักกายกรรม สิ่งที่นักแสดงทำมากที่สุดในช่วงฝึกซ้อมคือ พยายามทำความเข้าใจความคิดและจิตใจของตัวละครที่พวกเขาได้รับบท รวมถึงพยายามหาวิธีที่จะแสดงสิ่งเหล่านั้นให้ถึงผู้ชมได้ด้วย

นักแสดงซ้อมกันหนักแค่ไหน?

ซู จวน : ก็ตั้งแต่ 08.00-17.30 น. ของทุกวัน อย่าง ถัง เจ๋อ นี่เขาเริ่มฝึกมาตั้งแต่อายุแค่ 5 ขวบ ส่วน เซี่ย จงบิน นี่ก็ 6 ขวบ เอาเข้าจริงการฝึกฝนกายกรรมมันค่อนข้างยากและน่าเบื่อนะ

ถัง เจ๋อ : ตอนเด็กๆ ผมเคยคิดจะเลิกเล่นกายกรรมด้วย คือพอต้องมาฝึก เราจะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ แล้วตอนนั้นผมก็คิดถึงบ้านมาก แต่ตอนนี้ผมเติบโตขึ้นแล้วล่ะ ก็เคยไม่มีความคิดเรื่องที่จะยอมแพ้อีก

ซู จวน : ถัง เจ๋อ ต้องใช้เวลาฝึกเป็น 10 ปีนะ กว่าจะได้ขึ้นเวทีจริงๆ

เคยมีอุบัติเหตุระหว่างการซ้อมบ้างไหม?

ซู จวน : แน่นอน การบาดเจ็บของนักกายกรรมถือเป็นเรื่องปกติ ทั้งมือ ข้อมือ และหัวเข่า นับว่าเป็นส่วนที่ถูกกระทบได้ง่ายที่สุด

เคล็ดลับในการนำเรื่องราวใน เดชคัมภีร์เทวดา มาผสมกับการแสดงกายกรรมให้น่าติดตามและลงตัวที่สุดคืออะไร?

ซู จวน : การสร้างสรรค์ศิลปะกายกรรมให้เข้ากับเนื้อเรื่องเป็นสิ่งที่เราพยายามค้นหาจุดลงตัว เพื่อทำให้สำเร็จตลอดมา ซึ่งนอกจากความสามารถทางกายกรรมแล้ว เรายังรวมการเต้น การเล่าเรื่องราว และการบรรยาย เพื่อที่จะช่วยให้นักแสดงได้กำหนดคาแรกเตอร์ของตนเอง รวมถึงทำให้โชว์นั้นมีความน่าสนใจด้วย

สำหรับชาวไทยที่ไม่เคยดูกายกรรมกวางเจามาก่อนเลย อยากให้คนกลุ่มนี้เตรียมตัวอย่างไรก่อนไปดู?

ซู จวน : ถ้าอยากทราบเรื่องราวของตัวละครต่างๆ อย่างรวดเร็ว ฉันแนะนำให้ชมภาพยนตร์ฮ่องกงเรื่อง The Legend of the Swordsman ภาคที่ หลิน ชิงเสีย เล่นมาก่อน และเราก็ไม่อยากให้คุณพลาดการแสดงกายกรรมชุดนี้ เพราะ เดชคัมภีร์เทวดา เป็นโชว์กายกรรมที่มีวิชวลเอฟเฟกต์โลดโผน น่าตื่นเต้น อยากให้ชาวไทยเดินทางมาดูกันเยอะๆ นะคะ

ใครที่ไม่เคยยลการแสดงกายกรรมกวางเจากับตาของตัวเอง Sanook! TV/Movies อยากให้คุณลองไปชมสักครั้งในชีวิต โดยการแสดงชุด เดชคัมภีร์เทวดา จะจัดแสดงระหว่างวันที่ 5-7 และ 9-14 ตุลาคม 2561 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี โชว์มีวันละ 2 รอบคือ 14.00 และ 19.00 น. บัตรราคา 1,500 / 1,200 / 900 / 700 บาท หาจับจองกันได้แล้วที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา ห้ามพลาดความตื่นตาตื่นใจนี้ด้วยประการทั้งปวง

 

>> เมื่อ “เดชคัมภีร์เทวดา” จะกลายเป็น “กายกรรมกวางเจา” สุดอลังการ ตุลาคมนี้

อัลบั้มภาพ 29 ภาพ

อัลบั้มภาพ 29 ภาพ ของ 60 ปีแห่งการเติบโตของ "กายกรรมกวางเจา" สู่ความตื่นตาครั้งล่าสุด “เดชคัมภีร์เทวดา”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook