รีวิว KIN โคตรปืนเอเลี่ยน
เมื่อถูกตามล่าอย่างบ้าเลือดจาก เทเลอร์ (เจมส์ ฟรังโก) หัวหน้าแก๊งอันธพาล ทำให้ อีไล (ไมลส์ ทรูอิต) และ จิมมี (แจ็ค เรย์นอร์) สองพี่น้องร่วมชะตากรรมจำต้องสู้โดยมีเพียง ปืนมหาประหลาด ที่มีเพียงอีไลเท่านั้นที่สามารถใช้งานได้ แต่แน่นอนว่าอาวุธทรงอาณุภาพย่อมมีเจ้าของตามล่าทวงคืนด้วยเช่นกัน
ตามเครดิตแลัว KIN ดัดแปลงมาจาก Bag Man (2014) หนังสั้นของ โจนาธาน และ จอช เบเกอร์ ที่ได้นักแสดงหนุ่มผิวสีสุดฮอต ไมเคิล บี จอร์แดน จาก Black Panther(2018) มาขอเป็นป๋าดันให้โปรเจคต์ของทั้งคู่ ซึ่งหนังยังคงไอเดียเด็กหนุ่มผิวสีที่ไปเจอปืนเลเซอร์มหากาฬไว้เหมือนเดิม แต่คราวนี้ได้มีการปูคาแรกเตอร์ของ อิไล ใหม่ให้กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกครอบครัวผิวขาวเก็บไปเลี้ยงและเพิ่มประเด็นความรักระหว่างพี่น้องเข้ามา แต่ปัญหาสำคัญของการดัดแปลงหนังสั้นมาสู่หนังยาวแทบทุกเรื่องคงหนีไม่พ้นการเพิ่มเรื่องราวที่เยอะเกินไปและพาเรื่องออกทะเลจนแทบวกกลับมาไม่ได้ ซึ่งกรณีของ KIN ถือว่าเป็นอย่างหลัง
ปัญหาสำคัญประการแรกคือหนังมีไอเดียดีๆมากมาย แต่เมื่อประกอบรวมกันแล้วกลับล้มเหลวในการโน้มน้ามชักจูงคนดู ตั้งแต่ประเด็นของกลุ่มคนที่มาทำปืนตกไว้บนโลก ที่ช่วงแรกๆเหมือนหนังตั้งใจจะเอามาเป็นบทสั่งสอนคนดูว่าเราไม่ควรไปเอาของของคนอื่นเพื่อให้คำพูดของพ่ออีไลดูหนักแน่น แต่ต่อมาบทหนังแทบจะทิ้งประเด็นนี้ไปเลยเพื่อจะได้เพิ่มฉากไล่ล่าของแก๊งอันธพาลจนเราไม่รู้ว่าความสำคัญของอาวุธชิ้นนี้คืออะไรกันแน่ และการที่มันมีอยู่แค่กระบอกเดียวก็พาลให้นึกไปว่าหนังคงยากจนมาก เพราะทั้งกองทัพมีปืนเลเซอร์แค่กระบอกเดียวเท่านั้น
ส่วนประเด็นครอบครัวที่จนแล้วจนรอดตั้งแต่ต้นจนจบ เราก็ไม่รู้สึกเชื่อมั่นในความรักของ จิมมี เลยสักนาทีที่เขาพยายามทำดีให้น้อง ยิ่งช่วงแรกหนังปูให้เห็นดรามาเรื่องการเป็นตัวซวยของครอบครัว หรือการรู้สึกว่า อีไล กำลังมาแทนที่เขาในครอบครัวก็ยิ่งดูเพิ่มความซับซ้อนโดยไม่จำเป็นไปซะงั้น แถมยังทำให้เราเชื่อในความรักที่พี่มีต่อน้องได้ยากขึ้นไปอี๊กกกกก แถมคนน้องอย่าง อีไล ก็เชื่อ จิมมี ง่ายเกิ๊น หลังผ่านเหตุการณ์สำคัญมา อีตา จิมมี กลับพา อีไล ไปทัวร์ยกแก๊งซะงั้น จากหน้ังไซไฟ หนังครอบครัว กลายเป็นหนังโรคทริปอีกแล้วค่ะคุณขา โอย…เพลีย
สิ่งที่เซอร์ไพรส์จริงๆกลับเป็นทัพนักแสดงที่มอบแอ็คติ้งดีๆให้แทบตลอดเรื่องนอกจาก ไมลส์ ทรูอิต และ แจ็ค เรย์นอร์ ในบทพี่น้องแล้ว ก็ยังมีเจมส์ ฟรังโก ในบท เทเลอร์ หัวหน้าแก๊งอันธพาลสุดโฉด ที่แอ็คติ้งแทบลอกมาจาก Future World ที่เพิ่งออกจากโรงไปไม่นาน หรือโซอี้ คราวิตซ์ ในบทนักเต้นจั้มบ๊ะเปี่ยมคุณธรรม แต่ต่อให้เล่นดีขนาดไหน ในเมื่อบทพังผลลัพธ์เลยไม่ได้ออกมาสวยงามเท่าใดนัก
พิจารณาจากแง่มุมต่างๆแล้วถือว่าพลาดทุกกลุ่มเป้าหมายจริงๆสำหรับ KIN ที่คอหนังแอ็คชั่นก็น่าจะมานั่งหาว ส่วนคอดราม่าไซไฟก็คงต้องละลาย ทัมใจ กินหลังดูจบเพราะเพลียกับตรรกะของหนัง ทั้งที่บทหนังมีประเด็นน่าสนใจมากมายแต่กลับผสมผสานออกมาได้ไม่กลมกล่อมเอาเสียเลย