7 หนังแป้กบนตารางหนังทำเงินในปี 2018 (ครึ่งปีแรก)

7 หนังแป้กบนตารางหนังทำเงินในปี 2018 (ครึ่งปีแรก)

7 หนังแป้กบนตารางหนังทำเงินในปี 2018 (ครึ่งปีแรก)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

 

ผ่านมา 9 เดือนพอดิบพอดีกับปี 2018 ในปีนี้เรียกได้ว่ามีหนังฮอลลีวูดหลายเรื่องที่ประสบความสำเร็จบนตารางหนังทำเงิน (ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและนอกประเทศ) แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหนังอีกหลายเรื่องเช่นกันที่ประสบความล้มเหลวและทำเงินไม่เข้าเป้าที่สตูดิโอได้ประมาณการเอาไว้ รวมไปถึงอีกหลายเรื่องก็จัดได้ว่าขาดทุนจนน่าเครียด มาดูกันดีกว่าว่ามีหนังเรื่องอะไรบ้างที่เข้าเกณฑ์หนังแป้กในปี 2018 (ครึ่งปีแรก) 

 

 

Solo: A Star Wars Story

 

ถึงแม้ว่า Solo: A Star Wars Story จะทำรายได้ทั่วโลกอยู่ที่ 392 ล้านเหรียญก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาจากแฟรนชายส์ Star Wars ด้วยกันเองแล้ว หนังจัดได้ว่าทำรายได้น่าผิดหวังเพราะทำเงินอยู่ในอันดับที่ 9 ของอันดับทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคำนวณแบบรวมอัตราเงินเฟ้อแล้ว Solo: A Star Wars Story คือหนังที่ทำเงินต่ำที่สุดในแฟรนชายส์นี้ (ไม่รวมหนัง Star Wars ที่นำกลับมาฉายซ้ำในรูปแบบต่างๆเช่น Special Edition หรือ 3D)

 

ปัจจัยประการแรกที่ทำให้หนัง Solo: A Star Wars Story ทำเงินน้อยกว่าที่ควรจะเป็นคือการโยกวันฉายมาเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม จากที่เดิมหนังแฟรนชายส์ Star Wars จะวางวันฉายไว้ช่วงวันคริสต์มาส เดือนธันวาคม ที่เป็นวันหยุดยาวของชาวอเมริกา ประการถัดมาคือหนังเข้าฉายหลังจาก Avengers: Infinity War ซึ่งกระแสหนังภาคนี้ก็แรงมากจนคนกลับไปดูซ้ำและโรงหนังต่างก็เทโรงให้ ยังไม่พอหนึ่งสัปดาห์ถัดมา Deadpool 2 ก็เข้ามาเบียดเอาโรงฉายไปอีก และประการสุดท้ายคือ Solo: A Star Wars Story เป็นหนังที่คุณภาพออกจะน่าผิดหวัง สืบเนื่องมาจากการถ่ายทำซ่อมและเปลี่ยนตัวผู้กำกับกลางคัน ทำให้หนังออกมาไม่เป็นเนื้อเดียวกัน และเห็นได้ชัดว่ามีปัญหาเยอะทีเดียว

 

 

A Wrinkle in Time

ไม่ใช่หนังไลฟ์แอ็คชั่นของดิสนีย์ทุกเรื่องจะประสบความสำเร็จเสมอไป A Wrinkle in Time จัดเป็นหนังแฟนตาซีฟอร์มยักษ์เรื่องล่าสุดที่ล้มเหลวตาม Tomorrowland และ John Carter ไปติดๆ หลังจากที่เปิดตัวมาอย่างน่าผิดหวังด้วยรายได้เพียง 33 ล้านเหรียญก่อนที่จะปิดการฉายในอเมริกาไปที่ 100 ล้านเหรียญ ส่วนรายได้นอกประเทศก็จัดได้ว่าน้อยจนน่าใจหายเพราะทำเงินไปแค่เพียง 32 ล้านเหรียญเท่านั้น ทำให้หนังทำเงินรวมทั้งสิ้น 132 ล้านเหรียญ จากต้นทุนในการสร้าง 103 ล้านเหรียญ ยังไม่รวมเงินค่าในการทำประชาสัมพันธ์ทั่วโลกและหักส่วนแบ่งรายได้ให้โรงภาพยนตร์อีก นั่นหมายความว่ารายได้สุทธิที่ค่ายหนังจะได้กลับคืนมาจึงเรียกได้ว่าติดลบ!

 

 

Annihilation

Annihilation เป็นหนังที่เปิดตัวค่อนข้างน่าผิดหวังด้วยรายได้แค่เพียง 11 ล้านเหรียญเท่านั้น สวนทางกับคำวิจารณ์ที่ต่างก็ยกให้ว่า นี่คือหนังที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของปี 2018 และเมื่อสิ้นสุดการฉายหนังทำเงินในอเมริกาอยู่ที่ 32 ล้านเหรียญเท่านั้น จากรายงานกล่าวว่าต้นทุนในการสร้างของหนังเรื่องนี้อยู่ที่  40 ล้านเหรียญ ส่วนในต่างประเทศนั้นทางสตูดิโออย่างพาราเมาท์ได้ทำสัญญาในการจัดจำหน่ายโดยการให้ค่ายสตรีมมิ่งอย่าง Netflix เป็นคนให้บริการฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงทำให้รายได้ของหนังยุติอยู่แค่ 32 ล้านเหรียญเท่านั้น

 

 

Death Wish

หลังจากที่ผันตัวไปเล่นหนังแนวอื่นอยู่นาน บรูซ วิลลิสก็กลับคืนจอในฐานะพระเอกหนังแอ็คชั่นอีกครั้งกับหนังรีเมค Death Wish แต่การกลับมาของบรูซไม่ได้ช่วยให้หนังทำรายได้ดีขึ้นแต่ประการใด เนื่องจากหนังเปิดตัวมาที่ 13 ล้านเหรียญ ก่อนปิดการฉายทั่วโลกด้วยรายได้ 34 ล้านเหรียญ แต่หนังใช้ต้นทุนในการสร้างถึง 30 ล้านเหรียญ

 

 

The Hurricane Heist

ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับร๊อบ โคเฮน ว่าด้วยการผสมผสานหนังจารกรรมเข้ากับหนังภัยพิบัติ ถึงแม้หนังจะไม่ได้เลวร้ายนัก แต่กลายเป็นว่าหนังทุนสร้าง 35 ล้านเหรียญเรื่องนี้กลับเปิดตัวในอเมริกาด้วยรายได้เพียง 3 ล้านเหรียญเท่านั้น ส่วนรายได้จากต่างประเทศนั้นให้รวมกว่า 20 ประเทศก็ยังไม่ครอบคลุมต้นทุนในการสร้างอยู่ดี จึงฟันธงได้เต็มๆว่าหนังเรื่องนี้จัดได้ว่าเจ๊งอย่างเป็นทางการ

 

 

Hotel Artemis

การที่หนังสักเรื่องรวมดาราระดับคุณภาพเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ได้หมายความว่าหนังเรื่องนั้นจะประสบความสำเร็จเสมอไป Hotel Artemis มีนักแสดงชื่อดังอาทิ โจดี้ ฟอสเตอร์, สเตอริ่ง เค บราวน์, โซเฟีย บูเทลล่า, เจฟฟ์ โกลด์บลัม, แซคคารี ควินโตและเดฟ บัลทิสต้า แต่เมื่อหนังได้รับคำวิจารณ์กลางๆค่อนไปทางลบ ทำให้หนังเปิดตัวด้วยรายได้ราว 3.2 ล้านเหรียญ ก่อนที่จะปิดการฉายในประเทศไปที่ 6 ล้านเหรียญ ส่วนนอกอเมริกาทำรายได้ไปที่ 5 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้สุทธิทั่วโลกอยู่ที่ 12 ล้านเหรียญ แต่หนังเรื่องนี้มีต้นทุนในการสร้างอยู่ที่ 15 ล้านเหรียญ จึงเรียกได้ว่าเป็นอีกเรื่องที่ทำเงินไม่คุ้มทุนสักเท่าไหร่

 

 

Early Man

แอนิเมชั่นประเภทสต๊อปโมชั่น ผู้สร้างเดียวกับ Wallace & Gromit และ Chicken Run แถมใช้นักพากย์เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงอย่าง ทอม ฮิดเดิลตันและไมซีย์ วิลเลียม แต่เครดิตเหล่านี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย กลายเป็นฝันร้ายของผู้สร้างเมื่อหนังเปิดตัวในอเมริกาต่ำเตี้ยด้วยเงิน 3 ล้านเหรียญ ก่อนที่จะปิดการฉายที่ 8 ล้านเหรียญอเมริกา โดย Early Man ใช้ต้นทุนในการสร้างที่ 50 ล้านเหรียญ แต่โชคยังดีที่หนังยังพอทำเงินบ้างนอกอเมริกาซึ่งสามารถทำเงินถึง 45 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้รวมของหนังเรื่องนี้ทั่วโลกอยู่ที่ 54 ล้านเหรียญ แต่เมื่อพิจารณาค่าทำประชาสัมพันธ์ การแบ่งเงินให้กับโรงหนังแล้ว ก็ยังถือว่าขาดทุนอยู่ดี

 

 

หนังเรื่องอื่นๆที่มีแนวโน้มว่าน่าจะขาดทุน (แต่เนื่องจากยังมีการฉายอยู่ในบางประเทศ จึงทำให้รายรับสุทธิยังไม่สามารถสรุปได้)

  • Alpha
  • The Predator
  • Mille 22
  • Adrift
  • KIN
  • The Darkest Minds

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook