Ghost Stories ว่าด้วย “ผี” ที่วิทยาศาสตร์หาคำตอบให้ไม่ได้

Ghost Stories ว่าด้วย “ผี” ที่วิทยาศาสตร์หาคำตอบให้ไม่ได้

Ghost Stories ว่าด้วย “ผี” ที่วิทยาศาสตร์หาคำตอบให้ไม่ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Ghost Stories คือหนังสยองขวัญสัญชาติอังกฤษว่าด้วยเรื่องราวลี้ลับเหนือธรรมชาติ ดัดแปลงมาจากละครเวทีในชื่อเดียวกัน หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย ได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ว่าเป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญที่ดูแล้วน่าขนลุกที่สุดเรื่องหนึ่งของปี ถ้าอย่างนั้นเราลองไปทำความรู้จักหนังเรื่องนี้ให้มากขึ้นกันดีกว่า

 

 

เรื่องราวสยองของคนไม่เชื่อเหตุการณ์ลี้ลับ

 

ศาสตราจารย์ฟิลลิป กู๊ดแมน (แอนดี้ ไนแมน) ผู้ไม่เคยเชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติแต่กลับต้องเผชิญกับเรื่องเร้นลับเสียเองเขาเคยทุ่มเทชีวิตเพื่อเปิดโปงเรื่องผีลวงโลกว่าทุกอย่างอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ผ่านทางรายการทีวีของเขา และความเชื่อของเขาก็ถึงคราวถูกทดสอบเมื่อเขาได้รับคลิปเสียงปริศนาที่บอกเล่าให้เขาล้มเลิกสิ่งที่กำลังทำอยู่ และย้ำว่า “สิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ไม่ได้แปลว่าไม่มีจริง” ศาตราจารย์กู๊ดแมน จึงต้องพิสูจน์คำพูดเหล่านั้นผ่านคดีลึกลับที่ยังไม่เคยมีใครหาที่มาได้ทั้งหมด 3 คดี ว่าด้วยเรื่องราวเหนือธรรมชาติของ ยามกะดึกโทนี่ แมธทิวส์  (พอล ไวท์เฮาส์)ที่เจอดีจากสิ่งเร้นลับขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ณ โรงพยาบาลจิตเวชร้างแห่งหนึ่ง

 

คดีที่ 2 เกี่ยวข้องกับหนุ่มดวงแข็งไซม่อน ริฟคินด์ (อเล็กซ์ ลอว์เธอร์) ผู้รอดจากอุบัติเหตุวิปโยคทางรถยนต์มาได้อย่าง แต่เขากลับรู้สึกว่ากำลังโดยบางสิ่งบางอย่างจ้องมองอยู่และตามติดเขาอยู่ตลอดเวลาทั้งที่อุบัติเหตุครั้งนั้นก็ผ่านมาแล้วเป็นเวลานาน ส่วนคดีที่ 3 เกี่ยวข้องกับอดีตนายธนาคารผู้มั่งคั่งไมค์ พริดเดิล (มาร์ติน ฟรีแมน) ถูกเยี่ยมเยียนโดย “ลูกที่ยังไม่เกิด” ของเขา โดยที่เขาเองก็ไม่ทราบว่าการปรากฏตัวเหล่านั้นมีจุดประสงค์ใดกันแน่ แต่ที่น่าสะพรึงที่สุดคือ เมื่อยิ่งสืบคดีลึกขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบว่าสามเหตุการณ์นี้จะเชื่อมโยงกับชีวิตของศาสตราจารย์กู๊ดแมนโดยตรง

 

 

จากละครเวทีชวนสะดุ้งสู่ภาพยนตร์สยองขวัญ

จากละครเวทีแนวลึกลับสยองขวัญผลงานการเขียนบทของ เจอรามี่ ไดสันและแอนดี้ ไนแมน เริ่มเปิดทำการแสดงครั้งแรก แสดง ณ โรงละครเมืองลิเวอร์พูลเมื่อปี 2010 ก่อนที่จะมาปักหลักแสดงอย่างต่อเนื่องที่โรงละคร รีลิค แฮมเมอร์สมิธ ในลอนดอนและย้ายไปแสดงที่ โรงละคร ดยุค ออฟ ยอร์คที่ย่านละครเวทีชื่อดังอย่างเวส เอนท์ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2010 จนถึงเดือนกรกฎาคมปี 2011

 

 

 

สำหรับการแสดงละครเวทีของ Ghost Stories นั้นมีความยาวทั้งสิ้น 80 นาที โดยไม่มีการพักครึ่ง โดยมีคำเตือนเรื่องความไม่เหมาะสมสำหรับผู้ชมที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ยิ่งไปกว่านั้นละครเวทีเรื่องนี้แทบจะไม่มีการเปิดเผยฉากหรือภาพการแสดงบนเวทีเลย ภาพโฆษณาละครเวทีเรื่องนี้จึงมีแต่ภาพผู้ชมที่แสดงปฏิกิริยาโต้ตอบจากความตกใจเป็นหลัก แถมโปรดักชั่นและทีมงานยังขอความร่วมมือของผู้ชมที่มีโอกาสได้ชมละครแล้ว ให้ช่วยเก็บความลับของละครเรื่องนี้เพื่ออรรถรสของผู้ชมละครเวทีคนอื่นๆอีกด้วย

 

 

เมื่อทีมละครเวทีผันตัวเองมาทำภาพยนตร์

 

ทั้งเจอรามี่ ไดสันและแอนดี้ ไนแมน ตัดสินใจจะดัดแปลงละครเวทีของพวกเขาให้กลายเป็นภาพยนตร์ โดยทั้งคู่ก็นั่งแท่นผู้กำกับภาพยนตร์ด้วยตัวเอง และแอนดี้ ไนแมนก็ยังร่วมแสดงหนังเรื่องนี้ในบทเดิมกับในเวอร์ชั่นละครเวที นั่นก็คือบทศาสตราจารย์ฟิลลิป กู๊ดแมน

 ทั้งสองเผยว่าไอเดียในการทำบทของ Ghost Stories คือการที่แอนดี้ ไนแมนได้ไอเดียมาจากละครเวทีเรื่อง The Vagina Monologues มาผสมกับเรื่องผีเข้าไป ขณะที่เจอรามี่ ไดสัน ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านผีสิงในสวนสนุก ที่เขาอยากจะพาผู้ชมให้มีอารมณ์ตื่นเต้นร่วมไปกับละครเวทีของพวกเขา อีกทั้งพล็อตเรื่องยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสยองขวัญยุค 60 ถึง 70 เช่น DR. Terror’s house of horrors และ From beyond the grave รวมถึงหนังคลาสสิคอย่าง Dead of night แต่ว่าความพิเศษของเวอร์ชั่นภาพยนตร์คือรายละเอียดในหนังจะมีความแตกต่างกับเวอร์ชั่นละครเวที

 

 

นักแสดงเบอร์ใหญ่ที่ร่วมประสบการณ์สยองขวัญ

มาร์ติน ฟรีแมน ผู้รับบท ไมค์ พริดเดิล นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จที่อยากจะมีลูกซักที แอนดี้ ไนแมน อยากได้ตัวนักแสดงรายนี้มาร่วมงานมากๆ เพราะเขามีความสามารถในการแสดงทั้งบทดราม่าไปจนถึงบทตลกขบขัน ปัญหาเดียวก็คือมาร์ติน ดังกลายเป็นนักแสดงระดับโลกไปแล้วหลังจากที่เขาแสดงหนังไตรภาคมหากาพย์อย่าง The Lord of the ring แต่ด้วยความที่มาร์ตินเป็นคนที่รักในการแสดง เขาจึงยินดีจะร่วมแสดงในหนังอินดี้อยู่เสมอ ทำให้เขาบางเวลามาร่วมแสดงในหนัง Ghost Stories

 มาร์ตินเผยว่าตัวละครของเขาคือตัวแทนของความเป็นสุภาพบุรุษที่มีอีโก้เยอะ เขามีบ้านหลังโตแต่ชีวิตเขากลับว่างเปล่า ชีวิตคู่ก็ล้มเหลว ยึดติดกับอดีต หลงตัวเอง นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาก้าวเท้าสู่ความมืด

 

 

เรื่องตลกในกองถ่ายหนังสยองขวัญ

Ghost Stories ถ่ายทำกันในยอร์คเชียร์ และมีอยู่ฉากหนึ่งที่ถ่ายทำกันในสนามหลังบ้านของเจเรมี่ ไดสันเอง เขาหัวเราะแล้วเล่าว่า“เราชอบที่หนังสยองขวัญยุค 70 มักจะให้บาทหลวงมาเจิมก่อน แอนดี้เลยเชิญแรบไบ(พระยิว) มาให้พรก่อนเปิดกล้อง ทีมงานเราปลื้มมาก ตอนแรกพวกเขาก็ไม่เชื่อหรอกแต่การถ่ายทำมันราบรื่นจริงๆ ทั้งเรื่องอากาศที่ไม่มีวันไหนมีฝนมาขัดใจเลย ต่อไปนี้เราคงทำแบบนี้ทุกเรื่อง”

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook