Hell Fest หนังไล่เชือดที่คุณคิดถึง กลับมาแล้ว!

Hell Fest หนังไล่เชือดที่คุณคิดถึง กลับมาแล้ว!

Hell Fest หนังไล่เชือดที่คุณคิดถึง กลับมาแล้ว!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ในยุค 90 (พูดชื่อยุคก็บอกอายุแล้ว ฮา….) หนังสยองขวัญ-ระทึกขวัญที่เฟื่องฟูและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคนั้นคงหนีไม่พ้นหนังแนว “ไล่เชือด” โดยมักจะมีองค์ประกอบเช่น นักแสดงวัยรุ่นหน้าตาดีและกำลังมีชื่อเสียงมารับบทเป็นเหยื่อของฆาตกรต่อเนื่องที่ออกไล่ล่าเหยื่ออย่างไม่ลดละ

 

หนังเรื่องดังในยุคดังกล่าวมีทั้ง Scream, I Know What You Did Last Summer, Urban Legend และอีกมากมายหลายเรื่องที่ตามออกมากันแทบทุกปี แต่เมื่อถึงจุดอิ่มตัว หนังสไตล์นี้ก็หายไปตามกาลเวลา (และมักจะกลายเป็นหนังที่สร้างขึ้นเพื่อฉายทางทีวีหรือโฮมวิดีโอโดยตรง)

 

 

 

การกลับมาของกลิ่นอายครั้งเก่าที่คุณคุ้นเคย

คุณแทบจะไม่ต้องคาดหวังพล็อตเรื่องอะไรใหม่จากหนังแนวนี้ Hell Fest ยังคงพาเราเข้าไปคลุกคลีกับนักศึกษามหาวิทยาลัยหน้าตาดีอย่างนาตาลี ซึ่งตัดสินใจเดินทางไปเยี่ยมเยียนเพื่อนซี้สมัยเด็กของเธออย่างบรู๊คและเทย์เลอร์ ทั้งที่ปกติไลฟ์สไตล์ของสามสาวมักจะอินกับการเดินทางไปดูคอนเสิร์ตป๊อปสตาร์ และจบลงตามบาร์ที่ไหนสักแห่ง แต่ทำยังไงได้เมื่อค่ำคืนนี้เป็นวันฮาโลวีนที่มีอีเวนท์เก๋ๆอย่าง Hell Fest สวนสนุกกลางแจ้งในธีมคืนสยองขวัญ ซึ่งอุดมไปด้วยเครื่องนานาชนิด

 

ในทุกปีแฟนคลับของเทศกาลเฮลเฟสจะเดินทางมาเที่ยวเพื่อสนุกกับประสบการณ์ความน่ากลัวแบบสุดขั้ว และแน่นอนว่าในงานนี้ต้องมีฆาตกรโรคจิตที่เดินทางมาร่วมงานเพื่อหาเหยื่อผู้โชคร้ายในงานนี้ เพราะมันสามารถสังหารเหยื่อได้โดยไม่จำเป็นต้องมีพยาน เนื่องจากไม่มีใครแยกออกว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นฆาตกรตัวจริงหรือเป็นแค่นักแสดงประกอบที่สวนสนุกจัดขึ้นตามธีม โชคร้ายเมื่อฆาตกรโรคจิตเบนเป้าหมายมาที่นาตาลีและกลุ่มเพื่อนของเธอ ทำให้วัยรุ่นกลุ่มนี้ต้องเอาตัวรอดไปจากค่ำคืนนี้ให้ได้

 

 

ทำไมฉากหลังต้องเป็นสวนสนุก

 

เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของหนังไล่เชือดในยุค 90 ที่รับการจดจำ ตัวละครที่กลายเป็นเหยื่อมักอยู่อาศัยในสถานที่ปิดล้อม ปิดตาย หรือไม่ก็เป็นชนบทที่ห่างไกลความเจริญ ทีมผู้สร้างมองว่าเทรนด์ของวัยรุ่นในยุคปัจจุบันที่มองหาความตื่นเต้นในชีวิต พวกเขาพบว่าธุรกิจบ้านผีสิงเป็นธุรกิจทำเงินทั่วโลกที่มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นทุกปี เมื่อแฟนรุ่นใหม่ ๆ ได้สัมผัสกับความกลัวไปด้วยกันในสวนสนุกธีมสยองขวัญ บ้านผีสิง เครื่องเล่น หรือเขาวงกต ไปกับเพื่อนหรือครอบครัว

 

นอกจากเทศกาลฮัลโลวีนประจำปีแล้ว แต่ละปีผู้หลงใหลในหนังสยองขวัญทั่วโลกเป็นหมื่น ๆ คนตบเท้าเข้าบ้านผีสิงประจำสวนสนุกระดับโลกอย่าง Six Flags’ Fright Fest และ Universal Studios’ Halloween Horror Nights อีเวนท์พิเศษที่จัดขึ้นหลังพระอาทิตย์ตก เครื่องเล่นแต่ละชนิดถูกยกเครื่องใหม่ให้เข้ากับธีมสยองขวัญ โดยมีทีมสตาฟที่แต่งกายแฟนซีเป็นผีคอยหลอกหลอนนักท่องเที่ยวตลอดคืน

 

ทีมผู้สร้างมองว่า เพราะคนนับล้านชื่นชอบการมาเที่ยวสวนสนุกเพราะมองหาความตื่นเต้นแบบนี้ แต่กลายเป็นว่าปัจจุบันคนเรามีปฏิสัมพันธ์กันน้อยลงไปเรื่อยๆ เขาวงกตสยองขวัญพวกนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้คนเรามีปฏิสัมพันธ์กัน มีแต่คนใส่หน้ากากที่ทุ่มเทเพื่อให้คุณขนลุกกลับบ้านไป แต่ถ้าคนพวกนั้นไม่ได้แสดงล่ะ? ถ้าคนที่ถือเลื่อยไฟฟ้าพยายามฆ่าคุณจริง ๆ มันน่าตื่นเต้นนะที่ให้หนังสยองขวัญเกิดในสภาพแวดล้อมแบบนั้น เพราะมันเป็นอะไรที่สดใหม่ แต่มันก็ไม่ฉีกเกินไปจนดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ในชีวิตจริง

 

 

ผู้กำกับหนังสยองขวัญ ฝีมือการตัดต่อไม่ธรรมดา

 

Hell Fest ได้ผู้กำกับอย่าง เกรกอรี่ พล็อตกิ้น ซึ่งมีผลงานการกำกับหนังยาวเพียงเรื่องเดียว นั่นคือ Paranormal Activity: The Ghost Dimension แต่ถ้าเป็นหน้าที่ในการตัดต่อภาพยนตร์สยองขวัญ เรียกได้ว่าเขามีส่วนร่วมในหนังเรื่องดังๆมากมายไม่ว่าจะเป็น Paranormal Activity 2 ถึงภาคที่ 4 , Get Out และเรื่องล่าสุดอย่าง Happy Death Day โดยความสามารถของนั้น เขารู้ดีว่าเขาต้องการให้นักแสดง แสดงออกมาอย่างไรเพื่อจะได้ไม่ต้องถ่ายฟุตเทจเอาไว้มากมาย อีกทั้งเขายังเข้าใจดีว่าวิธีการทำหนังสยองขวัญที่ดีไม่ใช่ความพยายามตะบี้ตะบันสร้างความตกใจให้ผู้ แต่คือบรรยากาศที่จะทำมาซึ่งจุดตกใจ ความเงียบ ความกดดัน การคาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คือสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับหนังแนวนี้

 

 

ฆาตกรภายใต้หน้ากากอันลึกลับ

ความตั้งใจของผู้กำกับเกรกอรี่ พล็อตกิ้น คือการอยากจะคืนความคลาสสิคให้กับหนังในแนวทางนี้ ด้วยการให้ฆาตกรสวมหน้ากากของ Hell Fest เดินตามรอยฆาตกรใต้หน้ากากในตำนานอย่าง ไมเคิล ไมเยอร์ส เจสัน วูฮีส์ และ โกสต์เฟส หนึ่งในเอกลักษณ์ของฆาตกรคนนี้คือการเนียนไปกับหมู่ชน เขาดูเหมือนคนปกติทั่วไป ยิ่งทำให้ตัวละครนี้อันตรายมากขึ้น เพราะเขาสามารถเล่นงานเหยื่อได้แบบที่ไม่ทันตั้งตัว แถมเสื้อผ้าในการแต่งตัว คือเขาแต่งตัวเหมือนคนอายุ 30-40 (ตามวัยของคนในยุค 90s) เสื้อฮู้ด กางเกงยีนส์ รองเท้าบู้ท และสวมหน้ากากธรรมดาแต่ดูเหมือนมีรอยไหม้อยู่รอบๆหน้ากาก อีกทั้งพื้นผิวหน้ากากยังสะท้อนแสงต่างๆตามโลเคชั่นที่ตัวละครเข้าไปอยู่ด้วย ฆาตกรรายนี้จึงมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook