"เจค จิลเลนฮาล" ปะทะ "แครี มัลลิแกน" ในหนังตีแผ่ด้านเปราะบางของมนุษย์ "Wildlife"

จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อความรัก... ทำให้เรากลายเป็นสัตว์ป่า?

นักแสดงหนุ่มฝีมือจัดจ้านแห่งฮอลลีวูด พอล ดาโน (Paul Dano) ผู้ซึ่งเคยฝากผลงานอันเลื่องชื่อไว้หลายต่อหลายเรื่อง อาทิ There Will Be Blood, Little Miss Sunshine, Prisoners ฯลฯ ลองหันมานั่งหลังกล้องดูบ้าง คลอดงานชิ้นแรกออกมาพร้อมกับเสียงต้อนรับอันอบอุ่นจากนักวิจารณ์อย่าง Wildlife หนังดราม่าสุดเข้มข้นที่ได้ 2 นักแสดงดังแห่งยุคอย่าง เจค จิลเลนฮาล (Jake Gyllenhaal) และ แครี มัลลิแกน (Carey Mulligan) มาเชือดเฉือนบทบาทกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

โปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง Wildlife

Wildlife สร้างจากนิยายของ ริชาร์ด ฟอร์ด นักเขียนเจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ เล่าเรื่องของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กลายเป็นประจักษ์พยานความรักที่กำลังล่มสลายลงอย่างช้าๆ ของพ่อและแม่ของตนเอง ซึ่ง พอล ดาโน รักนิยายเรื่องนี้มาก จนเขาและแฟนสาวนักแสดง โซอี้ คาซาน (Zoe Kazan) จึงตัดสินใจร่วมกันดัดแปลงให้เป็นบทภาพยนตร์ขึ้นมา

Getty Imagesพอล ดาโน ขึ้นแท่นการเป็นผู้กำกับแล้ว

"หลังจากได้อ่านเรื่องแล้ว ฉันคิดว่า จีเนตต์ ตัวละครของฉันเป็นผู้หญิงที่แสนจะจริงใจกับข้อบกพร่องของตัวเอง ตัวละครแบบนี้ไม่ได้มีมาให้เล่นบ่อยๆ หรอกนะ" ความในใจของ แครี มัลลิแกน ที่รับบทหนักอึ้งในหนังเรื่องนี้ มากไปกว่านั้น เธอยังเผยอีกว่า อยากทำงานกับ พอล ดาโน และ โซอี้ คาซาน ซึ่งเธอแอบปลื้มมานานมากอีกด้วย

แครี มัลลิแกน ใน Wildlife

ในขณะที่ เจค จิลเลนฮาล เคยร่วมงานกับ พอล ดาโน มาแล้วจากหนังเรื่อง Prisoners และก็กลายเป็นเพื่อนที่คุยกันถูกคอ และเมื่อ ดาโน ตัดสินใจมาเป็นผู้กำกับ จิลเลนฮาล จึงยินดีที่จะมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง "บทหนังของ ดาโน และ คาซาน มันสะเทือนใจมากๆ จนผมอดตื่นเต้นไม่ได้เมื่อถึงเวลาถ่ายทำจริงๆ"

ความสัมพันธ์ของครอบครัวที่ล่มสลายลงเรื่อยๆ

และเมื่อ Wildlife เปิดฉายรอบปฐมทัศน์ที่เทศกาลหนังซันแดนซ์เมื่อต้นปี ผู้ชมก็ส่งเสียงกันเกรียวกราว ส่วนนักวิจารณ์ก็พากันชื่นชม พอล ดาโน ว่า สามารถถ่ายทอดเรื่องราวสะเทือนอารมณ์ได้อย่างทรงพลัง และมีรสนิยม จากนั้นอีกไม่กี่เดือน หนังก็ได้รับเชิญเข้าไปฉายที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ สื่อเกือบทุกสำนักยกย่องว่า นี่คือการแสดงที่สมบูรณ์แบบที่สุดของ แครี่ มัลลิแกน

โดยผลงานการตีแผ่ด้านที่เปราะบางของความเป็นมนุษย์อย่าง Wildlife มีคิวเข้าฉายในเมืองไทย 15 พฤศจิกายนนี้ เฉพาะที่โรงภาพยนตร์เฮ้าส์ อาร์ซีเอเท่านั้น โดยเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ของโครงการ Sony@House นั่นเอง