รีวิว Hunter Killer เมื่ออเมริกาขอมีซีนในระดับเวิลด์คลาส

รีวิว Hunter Killer เมื่ออเมริกาขอมีซีนในระดับเวิลด์คลาส

รีวิว Hunter Killer เมื่ออเมริกาขอมีซีนในระดับเวิลด์คลาส
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความเหลวไหลของพล็อตเรื่องที่ผูกขึ้นให้กลายเป็นหนังอย่าง Hunter Killer นั้น คงบอกได้ว่ามันเป็นจินตนาการอันแสนล้าสมัย เฉิ่มเชย และเป็นแนวคิดเชิงสงครามที่จับแพะชนแกะ เมื่อหนังเริ่มต้นเรื่องราวที่ว่าเรือดำน้ำของรัสเซียได้จมลงในมหาสมุทรอาร์กติก ขณะเดียวกันเรือดำน้ำของอเมริกาที่เข้าติดตามอยู่ในละแวกนั้น บังเอิญโดนลูกหลงเข้าไปด้วยและทำให้สัญญาณของเรือเกิดขาดหายไป ในเวลาเดียวกันกองทัพสหรัฐอเมริกาได้ค้นพบว่านายทหารระดับสูงของรัสเซียคิดจะยึดอำนาจจากรัฐบาล และวางแผนจะยึดฐานทัพรัสเซียมาเป็นของตัวเอง

 

สหรัฐอเมริกาจึงเริ่มสังหรณ์ใจว่าเหตุการณ์เหล่านี้อาจจะเป็นชนวนสำคัญที่มีโอกาสนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 พวกเขาจึงจัดปฏิบัติการลับทั้งภาคพื้นดินและใต้ทะเลลึก หน่วยแรกคือหน่วยซีลมากความสามารถที่ต้องแอบแฝงตัวเข้าไปในแผ่นดินของประเทศรัสเซีย เพื่อชิงตัวประธานาธิบดีก่อนที่เขาจะโดนลอบสังหาร ส่วนหน่วยที่สองนั้นคือปฏิบัติการเรือดำน้ำที่มีกัปตันโจ กลาส (เจอร์ราร์ด บัตเลอร์) รวมไปถึงลูกเรือของยูเอสเอส อาร์คันซอ ได้รับคำสั่งให้ไปประจันหน้ากับศัตรู ในฐานะกัปตันของเรือฮันเตอร์ คิลเลอร์

แน่นอนว่าแผนการทั้งหมดไม่ได้มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนแต่อย่างใด เพราะ Hunter Killer ไม่ใช่หนังการเมืองระทึกขวัญ แต่เป็นหนังแอ็คชั่นที่พยายามเอาพล็อตเรื่องข้อพิพาทระดับชาติเอามาเป็นฉากหลัง หลังจากที่หนังประเภทเรือดำน้ำ ห่างหายไปจากจอภาพยนตร์เป็นเวลานาน นั่นก็เพราะว่าแนวคิดเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 3 ในรูปแบบ “การทหาร” นั้นเป็นเรื่องที่ล้าสมัย และอย่างที่เราทราบกันดีว่า ปัจจุบันนี้มีสงครามในรูปแบบอื่นที่น่ากลัวกว่า รุนแรงกว่า หลายเท่า โดยเฉพาะเรื่องสงครามทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี

แนวคิดเรื่องการทำรัฐประหารและความบังเอิญในการที่เรือดำน้ำของสหรัฐอเมริกาพลอยโดนลูกหลงไปด้วยนั้น จึงเป็นแนวคิดเชิง “Old School” และมีการถวิลย์หาอดีตถึงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือแม้กระทั่งช่วงสงครามเย็นที่อเมริกาและรัสเซียพยายามแข่งขันกันอย่างดุเดือดในการส่งมนุษย์ไปยังดวงจันทร์ มันคือช่วงเวลาอันแสนรุ่งโรจน์ของสองประเทศยักษ์ใหญ่ ที่ล้วนแล้วแต่ได้รับการกล่าวถึงในระดับโลกทว่าปัจจุบันนี้เราก็คงต้องยอมรับความจริงที่ว่าสองประเทศมหาอำนาจนี้ ไม่ได้ทรงพละกำลังเช่นเคย ขั้วอำนาจใหม่กำลังถูกเบนทิศทางมายังทวีปเอเชีย

Hunter Killer จึงแสดงให้เห็นความพยายามอยากจะมีซีนของอเมริกา ในการปรากฏตัวในแง่การทหาร ปฏิบัติการลับ การมีตัวละครเอกเป็นผู้แหกกรอบแต่ยึดมั่นในความดีงามของมนุษย์ การใช้สัญชาตญาณของคนซื่อสัตย์อันนำมาสู่ความผาสุขและสมานฉันท์ระหว่างประเทศ แม้ทั้งหมดทั้งมวลในเวลาเกือบสองชั่วโมงจะเป็นเรื่องที่เลอะเทอะและแบนราบ (ในแง่ประวัติศาสตร์) แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่า หนังเรื่องนี้ดูแล้วโคตรบันเทิงและขี้โม้จนมันส์จริงๆให้ตายเถอะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook