Overlord หนังสยองขวัญเรื่องใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในจักรวาล Cloverfiled

Overlord หนังสยองขวัญเรื่องใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในจักรวาล Cloverfiled

Overlord หนังสยองขวัญเรื่องใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในจักรวาล Cloverfiled
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าวลือออกมาค่อนข้างหนาหูว่า Overlord หนังสยองขวัญเรื่องใหม่ของสตูดิโอ แบด โรบอท (ภายใต้การดูแลของเจเจ เอบราห์ม) นั้นอาจจะอยู่ในจักรวาลเดียวกันกับหนังไซไฟเรื่อง Cloverfiled แต่ภายหลังสตูดิโอก็ออกมายืนยันแล้วว่า หนังเรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวโยงใดๆกับจักรวาลดังกล่าว ว่าแต่หนังเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอะไรกันแน่

 

 

เหล่าทหารและตัวประหลาดบ้าคลั่ง

ไม่กี่ชั่วโมงที่พลร่มสัญชาติอเมริกันกำลังจะกระโดดร่มลงมาประเทศฝรั่งเศส ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในการยึดครองของนาซี เป้าหมายสำคัญของพวกเขาคือการบุกเขาไปในเขตของศัตรูเพื่อทำลายเครื่องส่งสัญญาณวิทยุที่อยู่ในโบสถ์ซึ่งมีการอารักขาอย่างแน่นหนา กลุ่มทหารอเมริกันได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านฝรั่งเศสเพื่อเจาะกำแพงโบสถ์เข้าไป แต่พวกเขากลับได้พบกับห้องทดลองอันแสนลึกลับของเหล่านาซี พวกเขาก็ต้องพบกับศัตรูที่น่าตกตะลึงในรูปแบบที่พวกเขาไม่เคยพบพานมาก่อนในชีวิต

 

 

หนังสงครามฟิวชั่นอสูรกาย

ไอเดียสำคัญของหนังอย่าง Overlord คือการหยิบเอาหนังสงครามโลกครั้งที่ 2 สุดคลาสสิก มาขยี้ให้กลายเป็นภาพยนตร์สยองขวัญอสูรกาย พ่วงด้วยอารมณ์ขันตลกร้าย มีฉากเค้นอารมณ์และน่าสะเทือนใจ โดยวิธีการออกแบบหนังเรื่องนี้ ใช้วิธีการให้ครึ่งแรกของเรื่องพาคนดูไปทำความรู้จักกับเหล่าทหารอเมริกันที่เป็นตัวละครในเรื่อง จากนั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนโทนเรื่องเป็นหนังสยองขวัญ

 

ความน่าสนใจคือบทภาพยนตร์ ซึ่งเป็นผลงานการเขียนบทของ มาร์ก แอล สมิธ ทำการบ้านด้วยการหาข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ในปี ค.ศ. 1944 เพื่อผสมผสานองค์ประกอบตามจินตนาการเข้าด้วยกัน อีกทั้งเพิ่มความตึงเครียดให้กับตัวละครทหาร ซึ่งมีคาแรกเตอร์ตัวละครทหารใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไปจนถึงเหล่าทหารเก่าที่เริ่มเหนื่อยหน่ายกับสงคราม การที่ทหารหลายรูปแบบมาทำงานด้วยกันจึงเป็นส่วนสำคัญอีกประการของเรื่อง

 

 

Overlord ได้ จูเลียส แอฟเวอรี่ผู้กำกับชาวออสเตรเลียที่มีผลงานภาพยนตร์เรื่อง Son of a Gun ซึ่งเป็นหนังแนวทริลเลอร์อาชญากรรม ซึ่งนำแสดงโดย ยวน แม็คเกรเกอร์, เบรนตัน ธเวตส์ และอลิเซีย วิกันเดอร์ แม้ว่าใน Overlord จะเต็มไปด้วยฉากแอ็กชั่นสุดจริงจังและความมีเอกลักษณ์ของบทภาพยนตร์เรื่องนี้คือสิ่งที่สะดุดความสนใจของแอฟเวอรี่เป็นอย่างแรก แต่ผู้กำกับบอกว่าเขายังรู้สึกผูกพันกับเนื้อเรื่อง หนึ่งในประสบการณ์สมัยที่เขายังเด็ก คุณปู่ของเขา ซึ่งเคยเป็นทหารผ่านศึกของออสเตรเลียที่เคยไปร่วมกับแคมเปญของแอฟริกาเหนือของฝ่ายสัมพันธมิตรในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ให้เขาดูรูปถ่ายการผจญภัยของปู่ “ปู่ให้ผมนั่งบนตัก และให้ผมดูรูปที่เหลือเชื่อพวกนั้นครับ” แอฟเวอรี่เล่า “นับแต่นั้น ผมก็ฝันอยากจะสร้างภาพยนตร์ที่วางเหตุการณ์เอาไว้ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ” เขาจึงตัดสินใจรับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ในที่สุด

 

 

พลทหารตัวแทนของผู้ชม

สำหรับบทนำอย่าง พลทหารบอยซ์ ทางทีมผู้อำนวยการสร้างเลือก โจแวน อะดีโป! เพราะตัวละครนี้เป็นเหมือนตัวแทนของผู้ชม ตัวละครนี้สามารถเข้าถึงง่าย ฉลาดและเพิ่มความลึกลับให้กับตัวละคร ดังนั้นพลทหารบอยซ์จึงเป็นเหมือนเด็กหนุ่มธรรมดาที่พบว่าตัวเอกตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่แปลกประหลาดเกิดคาดเดา ตัวละครนี้ยังมีลักษณะของพวกมวยรอยที่ไม่จะกลายเป็นฮีโร่ได้ นั่นคือสิ่งสำคัญที่ทำให้ตัวละครนี้น่าเอาใจช่วย

 

 

หนังสงครามแบบมีสีสัน

Overlord เป็นหนังสยองขวัญที่เลือกใข้งานผู้กำกับภาพอย่าง ฟาเบียน แว็กเนอร์ ซึ่งเข้ามาทำงานในช่วงระหว่างการเตรียมงาน และส่วนแรกของการถ่ายทำ และลอร่า โรส ที่เข้ามาทำงานสี่อาทิตย์สุดท้ายก่อนหนังเสร็จสมบูรณ์ เมื่อแว็กเนอร์ต้องถอนตัวออกไปเพื่อไปดูแลสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว ซึ่งโดยปกติแล้วหนังสงครามสมัยใหม่ทั่วไปมักจะนิยมปรับโทนสีของหนัง แต่หนังเรื่องนี้ทีมงานตกลงกันชัดเจนว่าจะใช้สีสันที่มีความสดใส แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เลือกจะใช้เลนส์กล้องแบบเลนส์ขยายรุ่นเก่า เพราะพวกเขาไม่อยากได้ความคมชัดของกระจกเลนส์รุ่นใหม่ ซึ่งให้ความรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตจริงๆ

 

 

 

พบกับอสูรกายใน Overlord

เอาเข้าจริงแล้วสตูดิโออย่างแบด โรบอทนั้นได้ผลิตหนังอสูรกายออกมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็น รวมถึงตัวอสูรกายในภาพยนตร์เรื่อง Cloverfield, เอเลี่ยนจอมทำลายล้างใน Super 8, และพวกกลายพันธุ์ในซีรีส์ทางทีวีเรื่อง “Fringe” แต่ไม่ว่าอสูรกายพวกนั้นจะน่ากลัวแค่ไหน แต่ตัวประหลาดใน Overlord คืออสูรกายที่ดูแล้วสยองที่สุดเท่าที่เจเจ เอบรามส์และทีมเอฟเฟ็กต์คิดขึ้นมา

 

ความพิเศษของอสูรกายในหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นจากการใช้เทคนิคอวัยวะปลอม การแสดง และงานซีจีที่เข้ามาปรับแต่งให้งานดีขึ้นในภายหลัง การค้นคว้าเริ่มต้นขึ้นเมื่อพวกเขาอยากจะให้อสูรกายห้องทดลองใต้ดินนั้นมีลักษณะมีผิวหนังโปร่งแสง สามารถมองเห็นกล้ามเนื้อได้ชัดเจน อีกทั้งกระดูกที่หักยังสามารถคืนสภาพได้ทันที อสูรกายบางตัวในหนังเรื่องนี้ยังมีสภาพที่เน่าเฟะจากด้านใน ผิวหนังจึงมีลักษณะคล้ำและอืดบวม ผิวหนังพุพอง เป็นต้น

 

 

สิ่งที่คนดูจะได้จาก Overlord

แน่นอนว่าผู้ชมจะได้รับความตื่นเต้นแบบสุดขั้ว ความน่ากลัวและแปลกประหลาด คนดูจะมีโอกาสได้ร่วมลุ้นไปกับการเอาตัวรอดของเหล่าทหารและพาคนดูเดินทางไปสู่จุดพีคที่สุดของความน่ากลัว แต่ในขณะเดียวกันหนังก็ยังผ่อนความตึงเครียดด้วยการใส่อารมณ์ขันเข้ามาเพื่อเบรกหายใจบ้าง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook