ภารกิจบุกกองถ่าย พบปะเหล่านักแสดงนำซีรีส์ “Narcos: Mexico” แห่ง Netflix ถึงเม็กซิโก!

*** หมายเหตุ : ภาพประกอบบทความเป็นภาพจากซีรีส์ Narcos: Mexico
เนื่องจากสื่อมวลชนไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพระหว่างที่อยู่ในสถานที่ถ่ายทำ
ดังนั้น ลองจินตนาการตามตัวอักษร แล้วคุณจะรู้ว่าทั้ง 2 โลเคชั่นนั้น “ขลัง” เพียงใด! ***

หากจะเอ่ยถึงจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในการเดินทาง “เม็กซิโก” อาจไม่ติดในลิสต์ที่ต้องไปก่อนตาย ทว่าเมื่อ Sanook TV/Movies ได้รับคำเชิญจาก Netflix ให้มุ่งหน้าสู่ประเทศที่มีพื้นที่กว้างขวางที่สุดติด 1 ใน 20 ของโลก กับทริปที่พาสื่อมวลชนจากหลากหลายประเทศ (ซึ่ง Sanook TV/Movies เป็นตัวแทนหนึ่งเดียวของประเทศไทย) เยี่ยมชมสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เรื่องดังอย่าง “Narcos” ภาคล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า “Narcos : Mexico” บอกได้คำเดียวว่า ให้ตายอย่างไรก็ต้องไปให้ได้!

และในวาระอันดีที่ “Narcos: Mexico” ประเดิมความโหด ดิบ เถื่อนอีกครั้งทางช่อง Netflix ในวันนี้ (16 พฤศจิกายน 2561) ก็ถือเป็นเวลาอันเหมาะสมที่เราจะขอถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทาง และประสบการณ์การเยือนโลเคชั่นถ่ายทำจริงของซีรีส์เรื่องดังกล่าว เป็นการอุ่นเครื่องจุดเริ่มต้นแห่งมหากาพย์วงการค้ายาเสพติดในเม็กซิโกไปพร้อมๆ กัน

โปสเตอร์ Narcos: Mexico

อย่างที่หลายคนทราบกันไปแล้วว่า 3 ซีซั่นก่อนของ Narcos นั้นบอกเล่าเรื่องราวของ ปาโบล เอสโกบาร์ ราชาแห่งโคเคน โดยมีฉากหลังอยู่ในประเทศโคลัมเบียแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ การโยกย้ายสู่ดินแดนใหม่ รวมถึงการไร้ซึ่งตัวละครที่ชื่อ “เอสโกบาร์” แล้ว จึงได้รับความสนใจจากบรรดาคอซีรีส์อยู่ไม่น้อย ว่าจะเข้มข้นและข้นคลั่กเทียบเท่าที่ซีรีส์เรื่องนี้เคยทำเอาไว้ได้หรือไม่

การเดินทางสู่เม็กซิโกซึ่งอยู่คนละฟากโลกกับเมืองไทยไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไม่มีไฟลท์บินตรงสู่สนามบินนานาชาติเม็กซิโกซิตี้ เราต้องไปต่อเครื่องที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ก่อนยิงยาวสู่เม็กซิโกอีกที ปกติแล้วโดยส่วนใหญ่เขาจะมีแต่ยืนจนเมื่อยกัน แต่ประสบการณ์ใหม่ในชีวิตก็พาเราไปถึงจุดที่ “นั่งจนเมื่อย” เพราะใช้เวลาสิริรวมแล้วกว่า 20 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ดีเอโก้ ลูน่า เป็น เฟลิกซ์ กาญาร์โด

อุ่นใจไม่น้อยที่ลงเครื่องแล้วก็พบเจอกับเจ้าหน้าที่ที่มารับในทันที แต่ความอุ่นใจนั้นก็หายวับไปกับตาเมื่อเขาไม่สื่อสารภาษาอังกฤษกัน คำสแปนิชมาแบบรัวๆ จนตั้งตัวไม่ติด แต่ท้ายที่สุดภาษากายก็พอจะช่วยเราให้เดินทางไปถึงโรงแรมได้ ทั้งยังให้พี่คนขับรถสอนวิชาภาษาสเปน หลักสูตร 101 ให้สักนิดสักหน่อย Hola-โฮล่า (สวัสดีครับ) และ Gracias-กราเซียส (ขอบคุณครับ) ก็น่าจะพอให้เราอยู่รอดตลอด 4 วัน 3 คืนที่เม็กซิโกได้สิน่า

คืนแรกพักผ่อนแบบหลับเป็นตาย แม้จะตื่นเช้ามาด้วยอาการเจ็ตแล็กเล็กๆ แต่ความหฤหรรษ์ขั้นสุดที่กำลังรอเราอยู่นั้นก็ทำให้หัวใจเต้นโครมครามอยู่ไม่น้อย ทีมงาน Netflix มารอต้อนรับสื่อมวลชนจากสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, เยอรมนี, ฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศไทย ที่ล็อบบี้เป็นที่เรียบร้อย และพาเราขึ้นรถบัสมุ่งหน้าสู่โลเคชั่นในการถ่ายทำ Narcos : Mexico แห่งแรก นั่นก็คือ ห้องพักของ เฟลิกซ์ กาญาร์โด หัวหน้าแก๊งค้ายารายใหญ่ที่กำลังจะสร้างอาณาจักรของตนเองนั่นเอง

ตลอดระยะเวลาการใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ถ่ายทำ เราไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกแม้แต่รูปเดียว สิ่งเดียวที่พอจะบันทึกเป็นความทรงจำได้ ก็คงมีเพียงสองตา และความรู้สึก…

มาดเท่ๆ ของ ดีเอโก้ ลูน่า

เบื้องหน้าของเราคือโรงแรมเก่าสุดคลาสสิค ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่พักในเม็กซิโก ซิตี้ มากเท่าใดนัก ด้านในตกแต่งย้อนยุคกลับไปสู่ช่วงปี 1980 อันเป็นช่วงเวลาที่ซีรีส์ Narcos: Mexico ดำเนินเรื่องราว บรรยากาศดูลึกลับ ชวนไม่น่าไว้วางใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็เหมาะสมแล้วที่สถานที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการลับของตัวละครเอกในเรื่องอย่าง เฟลิกซ์ กาญาร์โด ที่มือข้างหนึ่งถือปืน ส่วนอีกข้างก็ถือยาเสพติดไว้เป็นกิจวัตร

ลิฟต์แคบๆ ตัวหนึ่งพาเราทุกคนขึ้นสู่ชั้นใดชั้นหนึ่งไม่อาจทราบได้ เพราะตอนนั้นสมาธิจดจ่ออยู่กับบรรยากาศที่เหมือนกับว่าเราหลุดมาอยู่ในดงพ่อค้ายาเสพติดจริงๆ มีการ์ดร่างกายกำยำยืนควบคุมสถานการณ์อยู่แทบทุกซอกทุกมุม (ซึ่งก็เป็นไปในรูปแบบของซีรีส์หรือหนังชื่อดังที่ต้องปิดบังทุกอย่างระหว่างการถ่ายทำเป็นความลับนั่นแหละ) ทีมงาน Netflix พาเราไปยังห้องๆ หนึ่งที่มีจอโทรทัศน์ให้เรารับชมการถ่ายทำสดๆ ณ ตอนนั้นไปพลางๆ ก่อนที่จะถึงเวลาของ 2 นักแสดงอย่าง ดีเอโก้ ลูน่า และ ฮวาคิน โคซิโอ จะออกมาให้สัมภาษณ์

ฉากดังกล่าวเป็นฉากที่ เฟลิกซ์ กาญาร์โด รับโทรศัพท์จากใครคนหนึ่ง ก่อนที่ “ดอน เนโต้” หรือ เออร์เนสโต ฟอนเซก้า คาร์รีโญ ซึ่งแสดงโดย ฮวาคิน โคซิโอ จะมาเคาะประตูห้อง เพื่อเรียกตัว กาญาร์โด ไปพบบอสใหญ่ เล่นอยู่อย่างนั้น (เท่าที่เราได้ดู) อยู่ประมาณ 6-7 รอบ ความน่าทึ่งก็คือ รายละเอียดทางการแสดงเล็กๆ น้อยๆ จากนักแสดงทั้งสองได้ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพื่อเปลี่ยนมุมกล้อง และ (อาจจะ) เพื่อหาเทคที่ดีที่สุดเพื่อนำสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก มีเฮดโฟนให้ฟังบทพูดของนักแสดงที่เราฟังไม่รู้เรื่องสักคำ เพราะทั้งหมดที่พวกเขาพูดคุยกันนั้นเป็นภาษาสแปนิชล้วนๆ

หลังจากสนทนากับ ดีเอโก้ ลูน่า และ ฮวาคิน โคซิโอ แบบชิลๆ เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย เราก็เดินทางต่อไปยังตึกร้างแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากโรงแรมหลังดังกล่าวไปไม่กี่บล็อกถนน ซึ่งตึกร้างแห่งนี้ถูกเซตให้เป็นสำนักงานของหน่วยปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐฯ หรือ DEA (Drug Enforcement Administration) นั่นเอง

บรรยากาศภายในสำนักงานหน่วยปราบปรามยาเสพติด

อีกหนึ่งประสบการณ์ที่เราจะไม่มีวันลืมก็คือ เราได้กิน “ข้าวกอง” ของซีรีส์ Narcos!!! โซนที่จอดรถชั้นใต้ดินที่มีโต๊ะวางเรียงราย อาหารหลากหลายเมนูบรรจุอยู่ในถาดให้ตักรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นทีมงาน นักแสดง ผู้กำกับ ทุกคนจะมาพักกินข้าวกินน้ำในที่เดียวกัน เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นไม่น้อยเลยทีเดียว แม้รสชาติของอาหารจะไม่ค่อยคุ้นชินสักเท่าไหร่ก็ตาม

เมื่อถึงเวลา เราขึ้นไปนั่งรอยังห้องๆ หนึ่งเฉกเช่นที่โรงแรมเมื่อครู่ จอโทรทัศน์และเฮดโฟนพร้อม แต่คราวนี้เราพอจะจับใจความจากภาษาอังกฤษที่หลุดมาจากบางบทสนทนาของตัวละครได้บ้าง (ก็นี่มันหน่วยปราบปราบยาเสพติดของสหรัฐฯ นี่นา) โดยเป็นฉากที่ กิกิ คามาเรนา ซึ่งแสดงโดย ไมเคิล เปญ่า มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่อีกหนึ่งคนจนถึงขั้นจะลงไม้ลงมือ ทว่าหัวหน้าอย่าง เจมส์ คุยเคนดัลล์ ที่รับบทโดย แมตต์ เลตซ์เชอร์ และลูกน้องอีก 1-2 คนจะมาห้ามปรามไว้ได้ทัน ซึ่งซีนที่เต็มไปด้วยอารมณ์ฉากนี้ก็ขอปรบมือให้ ไมเคิล เปญ่า ที่ไม่ว่าจะกี่เทค เขาก็ยังแสดงออกมาได้ “สุดอารมณ์” ทุกครั้งไป

ไมเคิล เปญ่า เป็น กิกิ คามาเรนา

เช่นเดียวกันที่โลเคชั่นแห่งนี้เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์สองนักแสดงอย่าง ไมเคิล เปญ่า และ แมตต์ เลตช์เชอร์ รวมไปถึงผู้ที่ดูแลเรื่องคอสตูมให้ Narcos: Mexico หลังจากนั้นทีมงานก็พาทุกคนไปยังห้องที่ถ่ายทำฉากเมื่อสักครู่ จากที่เคยเห็นแต่ในจอโทรทัศน์หรือสมาร์ทโฟน แต่ภาพจริงมาปรากฏอยู่เบื้องหน้าแล้ว โทนสีที่ค่อนข้างสว่างแตกต่างจากห้องพักของพ่อค้ายาราวฟ้ากับเหว ทุกรายละเอียดเก็บแบบทุกเม็ดอย่างแท้จริง เครื่องพิมพ์ดีด ภาพที่แขวนอยู่บนผนัง โทรศัพท์ยุคเก่า ที่เขี่ยบุหรี่ แผนที่ เอกสารต่างๆ ที่ถูกจัดวางไว้เสมือนกับว่า ที่นี่คือหน่วยปราบปรามยาเสพติดอย่างแท้จริง บอกเลยว่าทั้งตื่นเต้นและขนลุกในเวลาเดียวกัน

แน่นอนว่าทั้งหมด 10 อีพีของ Narcos: Mexico ก็คงจะพาผู้ชมไปยังสถานที่อื่นๆ อีกมากมาย ที่จะผลักดันเรื่องราวอันเข้มข้น ขับเน้นความรู้สึกของแต่ละตัวละครออกมาให้สมจริงมากที่สุด ซึ่งเจ้ารายละเอียดยิบย่อยในแต่ละสถานที่ถ่ายทำที่เซตขึ้นมานี่แหละ ที่จะช่วยให้นักแสดงเกิดอารมณ์ร่วมได้ไม่ยาก ต้องยอมรับและนับถือว่า ทีมงานรวมไปถึงผู้กำกับนั้นใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างเต็มที่ ลองคิดดูว่า ขนาดเราไปยืนอยู่ตรงนั้นเพียงไม่กี่นาที แต่มันเหมือนเราอยู่ในสถานการณ์จริงในยุค 80s อย่างไรอย่างนั้น

เก็บทุกเม็ดทั้งคอสตูมและโลเคชั่นถ่ายทำ

และเมื่อใดที่ซีนห้องพักของ เฟลิกซ์ กาญาร์โด รวมไปถึงสำนักงานหน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ ปรากฏขึ้น ความทรงจำและความรู้สึกต่างๆ ในตอนที่เราใช้ชีวิตอยู่ที่เม็กซิโก คงจะย้อนกลับมาเป็นฉากๆ อีกครั้งเป็นแน่

 

อย่าลืมติดตามชมซีรีส์ Narcos: Mexico กับภารกิจสุดดุเดือดเลือดพล่าน และความมันแบบไม่ยั้งที่ตำรวจและพ่อค้ายาเสพติดตัวพ่อแห่งเม็กซิโกจะต้องมาเผชิญหน้ากัน ทางช่อง Netflix ที่เดียวเท่านั้น!