รีวิว Malicious หลีกหนีไม่พ้นไม่หลงทาง ทางเก่าซ้ำๆ ไม่พ้นเดิมๆ
เกิดเป็นแม่เป็นลูกกันแล้ว แม้แต่ความตายยังพรากจากกันไม่ได้! พบประสบการณ์เฮี้ยนแรงของพ่อแม่คู่หนึ่งที่ต้องเผชิญวิญญาณลี้ลับ หลังจากที่ผู้เป็นแม่แท้งลูกไปกะทันหัน หรือบางทีความผูกพันยังรั้ง “มัน” ไว้ ไม่ให้ไปผุดไปเกิด
Malicious ไม่ไปผุดไม่ไปเกิด เป็นหนังผีที่คงลอกเลียนสไตล์หนังผียุคใหม่มาทุกกระเบียด ทั้งเนื้อหาที่คลาสสิกเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก เมื่อการมีลูกกลายเป็นสิ่งอันตรายที่นำพินาศย่อยยับมาสู่ครอบครัวเพราะต้องผจญกับวิญญาณร้ายตามหลอกหลอนทั้งความจริงทั้งภาพลวง ซึ่งตัวผู้กำกับและผู้เขียนบทอย่าง ไมเคิล วินนิค ที่เคยทำหนัง สตีเวน ซีกัล อย่าง Code of Honor (2016) จะไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูผ่านตานักดูหนังให้การันตีฝีมือเลยก็ตามที แต่เมื่อไล่ดูทีมงานที่มาเกี่ยวข้องก็นับว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน ทั้ง เฟลิกซ์ เครเมอร์ ผู้กำกับภาพมือล่ารางวัลที่มาถ่ายหนังอเมริกันครั้งแรก และนักแสดงอย่าง โบโจน่า โนวาโควิค ที่เคยร่วมงานกับ แซม ไรมี่ ในหนัง Drag Me to Hell (2009) มาแล้ว ซึ่งก็มีมุมสวยไม่สร่างแม้อายุอานามจะเล่นบทคุณแม่แล้วก็ตาม ยิ่งในเรื่องนี้เธอยิ่งได้โชว์ฝีมือเต็มที่ขึ้นในฐานะนักแสดงนำมากกว่าเคย ๆ และว่ากันตามตรงเป็นสิ่งที่น่ามองสุดในจอแล้วล่ะ
อย่างที่เกริ่นไป หนังค่อนข้างไม่มีอะไรแปลกใหม่นัก อย่างวิธีการหลอก ก็มาแบบมาเป็นเงา มาในกระจก เสียงรอบ ๆ บ้าน มาเป็นภาพหลอนที่สะท้อนภาวะจิตใจอันตกต่ำและลุ่มหลงกิเลสของตัวละคร การปราบผีที่ใช้อัดเสียงรอบ ๆ บ้าน คือได้มาตรฐานหนังผีในช่วง 4-5 ปีนี้เลย แต่เพราะวิธีการเหล่านี้เราชินมาหมดแล้ว มันเลยไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นแล้ว
ส่วนที่พอมีดีบ้างอย่างพล็อตที่เหมือนจะแตกต่าง ก็ต่างเพียงเล็กน้อยจากหนังที่เคย ๆ ดูมา ชอบตรงเล่นจุดที่ว่าวิญญาณจะเติบโตขึ้นตามเวลาเป็นผู้หญิงวัยต่าง ๆ การเล่นงานคนท้องก็จับจุดมนุษย์ที่กำลังอ่อนแอได้ดี ทั้งยังขยี้มุมมองของแม่ที่รักลูกแม้ลูกจะเป็นปีศาจก็อยากปกป้องได้น่าสนใจ และที่ชอบที่สุดก็คงเป็นพล็อตที่วิญญาณไม่ได้สิงบ้านสิงสิ่งของ แต่สิงสู่ตัวละครซึ่งมันกำจัดและหนีไม่ได้ง่าย ๆ แต่มีจุดดีก็มีจุดโหว่ใหญ่ ๆ เหมือนกัน เพราะเราแทบไม่ได้รู้เป้าประสงค์ของวิญญาณว่ามันจะมาฆ่าคนอื่นเพื่ออะไร (ฟระ) ฆ่าหมดแล้วจะได้อะไรขึ้นมา เพราะมันคือตัวร้ายที่ฆ่าคนไม่ต้องมีเหตุผล ก็ทำให้กลายเป็นหนังผีที่ต้องการเขย่าขวัญแบบไม่ต้องอิงพื้นฐานดราม่าอะไรให้เป็นแก่นสาร ถึงจะมีความเป็นดราม่าอยู่อย่างเรื่อง แม่-ลูก ผัว-เมีย อย่างที่บอก แต่ก็ไม่ได้ขยี้จนคนดูรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของตัวละครที่ลำบากใจในการฆ่าวิญญาณร้ายที่เป็นลูกตัวเองเลย
ก็ถือเป็นหนังที่ไม่ได้โดดเด่นในการสร้างสิ่งแปลกใหม่ แต่หนักแน่นในแนวทางลอกข้อสอบชาวบ้านอย่างจัดเจน ทำให้หนังมีความหลอนและดีตามมาตรฐานผีอีกเรื่องหนึ่ง ใครชอบดูหนังผีเป็นทุนเดิมเรื่องนี้น่าดูทีเดียวครับ ส่วนใครแสวงหาความน่ากลัวที่แตกต่าง หรืออยากดูอะไรใหม่ ๆ ได้คิดได้ต่อยอดอะไร เรื่องนี้ไม่ตอบโจทย์ขนาดนั้นล่ะนะ