“Mortal Engines” สงครามเมืองติดล้อ!

 

 

ผลงานไซไฟ แฟนตาซีเรื่องใหม่ ดัดแปลงมาจากนวนิยายในชื่อเดียวกัน บอกเล่าเรื่องราวของโลกอนาคตสุดเถื่อน ใครไม่เจ๋งจริง ไม่สตรองจริงก็ต้องพ่ายไป เพราะหลายร้อยปีให้หลังจากที่อารยธรรมของมวลมนุษย์ต้องล่มสลายเพราะผลจากสงคราม เฮสเตอร์ ชอว์ (เฮร่า ฮิลมาร์) ปรากฏตัวขึ้น ในฐานะบุคคลเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถหยุดเมืองลอนดอน ซึ่งบัดนี้กลายเป็นเมืองนักล่าติดล้อขนาดมหึมา ที่พร้อมจะกลืนกินทุกสิ่งที่ขวางอยู่บนเส้นทาง เฮสเตอร์ หญิงสาวที่ดูมีท่าทีดุดัน และเหมือนถูกผลักดันด้วยความทรงจำที่มีต่อแม่ ได้ร่วมมือกับ ทอม แน็ทสเวิร์ทธี (โรเบิร์ต ชีฮาน) หนุ่มนอกคอกจากลอนดอน พร้อมด้วย แอนนา ฟาง (จิเฮ) หญิงอันตรายที่เป็นพวกนอกกฎหมายผู้มีค่าหัวสูงลิ่ว

 

 

จากนิยายกลายเป็นหนังวิชวลสุดล้ำ

ฟิลิป รีฟ ผู้เขียนนิยายและยังควบหน้าที่วาดภาพประกอบ Mortal Engines ซึ่งเป็นนิยายสำหรับคนหนุ่มสาวเรื่องแรกของเขา และหนังสือได้ถูกตีพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกในปี 2001 โดยไอเดียสำคัญที่เป็นจุดขายของนิยายชุดนี้คือการเล่าเรื่องราวของ “เมืองติดล้อ” หลังจากนั้นนิยายเล่มแรกก็จะทำการขยายความว่า ทำไม เมืองต้องติดล้อล่ะ?

นิยายเรื่องนี้ได้รับรางวัล Guardian Children’s Fiction Prize, รางวัล Los Angeles Times Book Award, รางวัล Smarties Gold Award และรางวัล Blue Peter Book of the Year พัฒนาจนกลายเป็นหนังสือชุดสี่เล่ม ที่รู้จักกันในชื่อ The Mortal Engines Quartet ซึ่งประกอบไปด้วย Mortal Engines, Predator’s Gold, Infernal Devices และ A Darkling Plain

เรื่องราวที่รีฟคิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาหลายร้อยปีหลังจากที่อารยธรรมถูกทำลายไปในเหตุหายนะที่รู้จักกันในชื่อสงคราม 60 นาที มนุษยชาติปรับตัวและหาวิถีในการดำรงชีวิตรูปแบบใหม่ ณ บัดนี้ เมืองเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ยักษ์วิ่งไล่ล่าไปทั่วพื้นพิภพ โดยออกล่าเหยื่อที่เป็นเมืองเคลื่อนที่ที่มีขนาดเล็กกว่า ทอม แน็ทสเวิร์ทธี ซึ่งมาจากชั้นที่ต่ำลงไปของเมืองเคลื่อนที่ลอนดอน พบว่าตัวเองต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด หลังจากเขาได้เผชิญหน้ากับนักโทษหลบหนีที่เป็นตัวอันตรายอย่าง เฮสเตอร์ ชอว์ ชายหนุ่มและหญิงสาวจากสองขั้ว ซึ่งเส้นทางไม่น่าจะมาตัดผ่านกันได้ ต้องผนึกกำลังจนกลายเป็นพันธมิตรที่ไม่น่าเป็นไปได้ ซึ่งถูกกำหนดชะตาให้เป็นผู้เปลี่ยนแปลงวิถีแห่งอนาคต       

 

 

ปีเตอร์ แจ็คสันไม่ได้กำกับ! แต่เขียนบท!

หลายคนอาจจะยังเข้าใจผิดว่า นี่เป็นผลงานการกำกับของ ปีเตอร์ แจ็คสัน จาก The Lord of the Rings แต่ความเป็นจริงแล้วเขารับหน้าที่ในการเขียนบทและถ่ายทอดเรื่องราวของเมืองเคลื่อนที่ได้ ซึ่งรูปแบบที่เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้คล้ายกับแนวคิดของ ชาร์ลส์ ดาร์วิน ในรูปแบบที่เรียบง่ายที่สุด เมืองใหญ่กว่ากินเมืองเล็กกว่า และกลายไปเป็นระบบห่วงโซ่อาหารอย่างไม่สิ้นสุด ปัญหาอยู่ที่ว่าระบบการปกครองแบบนี้มันมีข้อจำกัดอยู่ ในที่สุดแล้ว เมืองใหญ่ๆ ก็กินเมืองเล็กกว่าไปมากมายจนไม่มีเหลือ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องหันมากินกันเอง หรือหาอย่างอื่นให้ล่าแทน

การดัดแปลงนิยายเรื่องนี้ให้กลายเป็นบทภาพยนตร์ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากหนังสือใช้ภาษาอุปมาอุปไมยเยอะมาก แต่ภาพยนตร์ต้องเล่าทุกอย่างออกมาตรงๆ ดังนั้น แจ็คสัน และทีมเขียนบทของเขาจึงต้องอธิบายความเป็นโลกใน Mortal Engines ให้คนดูได้รู้จักโดยจะต้องไม่เสียความเร็วและความกระชับฉับไวของการเล่าเรื่องไป ความลับก็คือ การบอกให้คนดูรู้ว่าโลกนี้ทำงานอย่างไรโดยไม่สกัดกั้นเรื่องราวทั้งหมด

 

 

การใช้นักแสดงหน้าใหม่ที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก

ตัวละครหลักส่วนใหญ่ใน Mortal Engines อยู่ในวัย 20 ต้นๆ ซึ่งทางทีมผู้สร้างตัดสินใจกันตั้งแต่แรกแล้วว่าจะค้นหานักแสดงในบทต่างๆ เหล่านี้โดยที่นักแสดงไม่จำเป็นต้องมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนดูส่วนใหญ่ เวลาที่หนังมีตัวละครอายุน้อยๆ เป็นตัวนำเรื่อง ตัวละครที่เป็นหนุ่มสาวคนธรรมดาเหล่านั้น คงจะดูดีกว่าถ้าเล่นโดยนักแสดงที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก ทีมงานจึงวางพื้นที่ในการเลือกนักแสดงเอาไว้เป็นวงกว้าง โดยค้นหานักแสดงหน้าใหม่ไปทั่วโลก เป็นคนที่เรารู้สึกว่าสามารถดำเนินเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ที่มีความซับซ้อนในตัวเอง

ในโลกอนาคตแห่งนี้ สำเนียงการพูดเป็นตัวบ่งบอกถึงแหล่งข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับตัวละคร ในบรรดาบทที่มีบทพูดเกือบ 50 ตัว จำต้องให้นักแสดงปรับแต่งหรือเปลี่ยนแปลงสำเนียงการพูดดั้งเดิมของพวกเขาไปเลย ทีมผู้สร้างจึงดึงตัวโค้ชออกสำเนียงการพูดชาวอังกฤษ แจน ไฮดน์ โรว์เลส (จาก Game of Thrones) ให้เข้ามาดูแลกระบวนการนี้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ตัวละครที่อาศัยอยู่บนเมืองเคลื่อนที่ลอนดอน จะมีสำเนียงพูดแบบอังกฤษ ถึงแม้ว่าความหลากหลายของสำเนียงจะถูกใช้เพื่อบ่งชี้ถึงชั้นที่อยู่อาศัยภายในลอนดอนของพวกเขาก็ตาม โดยหลักๆ แล้ว พวกที่อาศัยอยู่ในชั้นล่างๆ จะมีสำเนียงพูดที่ฟังดูดาษดื่นทั่วไป โรว์เลสได้ร่วมมือกับนักแสดงแต่ละคน โดยช่วยเรื่องการปรับสำเนียงพูดเพื่อให้เหมาะกับแต่ละบทบาท

เฮร่า ฮิลมาร์ ผู้รับบทนำเป็น เฮสเตอร์ ชอว์ เธอจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวละครสมัยใหม่ที่น่าสนใจ และมีปมฝังใจตรงที่เธอได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ยังเด็กในระหว่างการต่อสู้ที่ทำให้แม่ของเธอตาย เฮสเตอร์ถูกทิ้งให้มีแผลเป็นบนใบหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่เตือนให้นึกถึงอาชญากรรมอันโหดร้ายครั้งนั้น มันยังเป็นตัวกระตุ้นให้เฮสเตอร์เปลี่ยนแปลงไปเป็นผู้เอาชีวิตรอด และเป็นหญิงสาวที่เดินหน้าไปด้วยแรงปรารถนาที่จะได้ล้างแค้น แต่ที่สำคัญที่สุดคือการที่ตัวละครนี้ค้นพบว่าตัวเธอนั้นคือคำตอบของปริศนาทั้งหมด ที่อาจจะช่วยโลกทั้งใบนี้ก็เป็นได้