เกิดไม่ทันก็ดูได้ กับ Mary Poppins Returns มิวสิคัลที่คุณต้องหลงรัก

 

 

ย้อนกลับไปใน 1964 ภาพยนตร์มิวสิคัลสีสันสดใสอย่าง Mary Poppins ซึ่งดัดแปลงมาจากนวนิยายของ พี.แอล.เทรเวอร์ นักเขียนชาวออสเตรเลียที่ย้ายมาอาศัยอยู่ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยในนิยาย Mary Poppins นั้นได้บอกเล่าเรื่องราวของพี่เลี้ยงมหัศจรรย์ซึ่งลอยลงมาจากฟากฟ้าด้วยร่มด้ามนกแก้ว เธอนำพาความสุขและเวทมนตร์สุดมหัศจรรย์มาสู่ครอบครัวแบงค์ส

 

 

รำลึกถึงเวอร์ชั่นปี 1964

ความโดดเด่นของ Mary Poppins ในเวอร์ชั่นปี 1964 นั้นมาจากพล็อตเรื่องที่เข้าถึงทุกคนในครอบครัว ประกอบกับการแสดงอันทรงเสน่ห์และเป็นที่รักของจูลี่ แอนดรูวส์ ในบทแมรี่ ป๊อปปินส์ ได้ทำให้เธอคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงในปี 1965 มาครอบครอง ยิ่งไปกว่านั้นหนังยังคว้ารางวัลออสการ์อีก 4 รางวัลอันประกอบไปด้วย สาขาตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม "Chim Chim Cher-ee" สาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยม

 

 

เรื่องราวครั้งใหม่

ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำของลอนดอน ไมเคิล แบงค์ส (เบน วิชชอว์) (ตัวละครเด็กในหนังภาคแรก) ได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่และมีครอบครัวของตัวเอง เขาเป็นพนักงานชั่วคราวของธนาคารฟิเดลิตี้ ฟิดูซิอารี่ในลอนดอน ซึ่งเป็นสถาบันการเงินเดียวกับที่ว่าจ้างพ่อและปู่ของเขา ไมเคิลใช้ชีวิตอยู่กับลูกๆ สามคนคือแอนนาเบล (พิกซี่ เดวี่ส์), จอห์น (นาธาเนียล ซาเลย์) และจอร์จี้ (โจเอล ดอว์สัน) ณ บ้านเลขที่ 17 ถนนเชอร์รี่ ทรี เลน แต่สถานการณ์ช่างยากลำบากนัก นครหลวงแห่งนี้กำลังอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจเลยฝืดเคือง ส่งผลให้ไมเคิลต้องเครียดหนัก

 

ยิ่งไปกว่านั้นครอบครัวของเขาก็กำลังพยายามทำใจกับการจากไปเมื่อเร็วๆ นี้ของภรรยาของไมเคิล ส่งผลให้บ้านหลังนี้อยู่ในสภาพทรุดโทรมและวุ่นวายเสมอๆ แม้ว่าเอเลน (จูลี่ วอลเทอร์ส) แม่บ้านของพวกเขา ผู้ขาดประสิทธิภาพแต่ก็เปี่ยมด้วยความปรารถนาดี จะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม เจน (เอมิลี่ มอร์ติเมอร์) พี่สาวของเขาคอยช่วยเหลือทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ด้วยความจริงอันโหดร้ายของยุคสมัยและภาระทางการเงินที่เกิดจากการสูญเสียถาโถมเข้าใส่ครอบครัวนี้อย่างหนักหน่วง พวกเด็กๆ ก็พบว่าตัวเองต้องแบกรับภาระแบบผู้ใหญ่ และต้องเติบโตให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผลก็คือความสุขและความมหัศจรรย์แบบเด็กๆ ได้ขาดหายไปจากชีวิตพวกเขา

 

เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างไมเคิลและลูกๆ เลวร้ายลงเรื่อยๆ คุณวิลคินส์ (โคลิน เฟิร์ธ) ผู้ดูเหมือนจะเป็นคนโอบอ้อมอารีและไม่เห็นแก่ตัว เริ่มเดินแผนการที่จะยึดบ้านของครอบครัวแบงค์ส ส่งผลให้ไมเคิลที่กำลังสับสนอยู่แล้ว ให้มึนงงมากขึ้นไปอีก โชคดีที่สายลมเริ่มจะเปลี่ยนแปลง และแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ (เอมิลี่ บลันท์) พี่เลี้ยงสาวผู้สมบูรณ์แบบ ผู้ซึ่งเวทมนตร์ที่ไม่เหมือนใครของเธอได้เปลี่ยนงานธรรมดาๆ ให้กลายเป็นการผจญภัยสุดวิเศษ ได้ก้าวเข้ามาในชีวิตของพวกเขาอีกครั้ง โดยที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปซักนิด เธอได้ร่วมมือกับเพื่อนเก่า แจ็ค (ลิน-แมนูเอล มิแรนด้า) พนักงานจุดโคมไฟถนนมากเสน่ห์ ผู้มองโลกในแง่ดี ทั้งคู่ร่วมกันพาเด็กๆ ครอบครัวแบงค์สออกสู่การผจญภัยสุดหฤหรรษ์หลายต่อหลายครั้งและแนะนำให้พวกเขาได้รู้จักตัวละครหลากสีสันอย่าง ท็อปซี่ (เมอร์รีล สตรีพ) ลูกพี่ลูกน้องนิสัยพิลึกของแมรี่ และนำชีวิต ความรักและเสียงหัวเราะกลับคืนสู่บ้านของพวกเขาอีกครั้ง

 

 

นี่คือภาคต่อไม่ใช่รีเมค

โปรเจ็ค Mary Poppins Return เป็นความต้องการของสตูดิโอดิสนีย์ ในการนำหนังคลาสสิคในอดีตให้กลับมาโลดแล่นบนจออีกครั้ง โดยดัดแปลงนิยายเล่มอื่นๆของ พี.แอล.เทรเวอร์ มาเป็นบทภาพยนตร์ ครั้งนี้สตูดิโอเลือกผู้กำกับที่คุ้นเคยอย่าง ร๊อบ มาร์แชล ซึ่งเคยกำกับหนังให้กับสตูดิโอดิสนีย์มาตั้งแต่ Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides หนังมิวสิคัลเรื่อง Into the Woods และล่าสุดกับ Mary Poppins Return รวมไปถึงโปรเจ็คอนาคตอย่าง The Little Mermaid ไลฟ์แอ็คชั่นอีกด้วย

 

 

เอมิลี่ บลันท์ กับแมรี่ ป๊อปปินส์คนใหม่

การตามหาตัวแมรี่ ป็อปปิ้นส์คนใหม่ก็ถือว่าเป็นความท้าทายของทีมงานและเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะตัวละครนี้ต้องโอบอุ้มหนังทั้งเรื่องเอาไว้ ทีมผู้สร้างต้องการนักแสดงหญิงที่จะทำให้บทแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ที่โด่งดังเป็นบทของตัวเธอเอง และพวกเขาก็นึกถึงคนๆ หนึ่ง นั่นคือเอมิลี่ บลันท์ ซึ่งคอหนังทั่วโลกน่าจะรู้จักเธออย่างมาก ในหนังเรื่อง“A Quiet Place” และ “The Girl on the Train” รวมไปถึงเธอยังเคยร่วมงานกับร๊อบมาแล้วใน Into the Woods

 

ถึงอย่างนั้นก็ตาม เอมิลี่เองก็ยังหวั่นใจตอนที่จะก้าวเข้ามารับบทบาทสุดคลาสสิคนี้ เพราะหนังภาคแรกนั้นตัวละครที่แสดงโดยจูลี่ แอนดรูวส์ ได้กลายเป็นภาพจำของผู้ชมไปแล้วเรียบร้อย แต่เธอก็ไม่ทิ้งโอกาสและเลือกที่จะตีความตัวละครนี้ ว่าจะทำให้มันเป็นตัวเองอย่างไร ทำอย่างไรให้ผู้ชมสามารถยอมรับแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ในเวอร์ชั่นของเธอ ขั้นตอนแรกเอมิลี่จึงไปหาหนังสือนิยายมาอ่านและดีไซน์วิธีการแสดงของเธอออกมา

 

หลังจากที่เปิดกล้อง ผู้กำกับร๊อบ มาร์แชลล์ได้กล่าวถึงการแสดงของเอมิลี่ว่า “เอมิลี่ได้สร้างตัวละครตัวนี้ในเวอร์ชันของเธอเองขึ้นมาในแบบที่พิเศษสุดและมีเอกลักษณ์มากๆ ซึ่งโฟกัสที่แมรี่ ป๊อปปิ้นส์จากหนังสือมากขึ้น เธอเป็นคนที่สนุกสนาน อบอุ่น เข้าถึงได้และมีความรู้สึกลึกซึ้ง เธอเป็นนักแสดงหญิงคนเก่ง ที่สามารถร้องเพลงและเต้นรำได้จริงๆ มันเป็นส่วนผสมที่น่าอัศจรรย์ครับ”