รีวิว Black Mirror: Bandersnatch เมื่อหนังที่คุณดู เลือกตอนจบได้! ด้วยตัวเอง

รีวิว Black Mirror: Bandersnatch เมื่อหนังที่คุณดู เลือกตอนจบได้! ด้วยตัวเอง

รีวิว Black Mirror: Bandersnatch เมื่อหนังที่คุณดู เลือกตอนจบได้! ด้วยตัวเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

 

Black Mirror: Bandersnatch บอกเล่าเรื่องราวของปี 1980 สเตฟาน (เฟียน ไวแอต) โปรแกรมเมอร์หนุ่มอายุยังน้อย ซึ่งเขาวาดฝันว่าจะได้ออกแบบเกมเป็นของตัวเอง โดยเกมของเขานั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสือนิยายที่ชื่อ Bandersnatch ของเจอโรม เอฟ เดวีส์ ซึ่งผู้อ่านสามารถเลือกเรื่องราวและตอนจบได้ด้วยตัวเอง การสร้างเกมครั้งนี้สเตฟานได้รับโอกาสเข้าไปพูดคุยกับบริษัทเกมทักเกอร์ซอฟต์ ซึ่งผลิตผลงานเกมชั้นนำมากมาย เพื่อผลิตเกมในฝันของเขาออกมา

 

ความพิเศษของ Bandersnatch คือผู้ชมสามารถเลือกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นฉากเปิดเรื่องที่คนดูต้องเลือกว่าจะให้ตัวละครทานอาหารเช้าเป็นอะไร ฟังเทปม้วนไหน และเหตุการณ์ถัดไปจะมีสถานการณ์บีบบังคับมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าในทุกการตัดสินใจของเราจะส่งผลต่อเส้นเรื่องที่เกิดขึ้นต่อไปอีกด้วย ประเด็นอยู่ตรงที่ว่าผู้ชมจะต้องเลือก “ทางเลือก” ให้กับตัวละครภายใน 10 วินาที ไม่เช่นนั้นตัวหนังจะเลือกเส้นทางต่อไปให้กับหนังโดยอัตโนมัติ

 

 

วิธีการของ Bandersnatch คือการทำหนังแบบให้ผู้ชมมีประสบการณ์ร่วมไปกับเรื่องราวของหนัง (Interactive) ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นหนังประเภททดลองให้ผู้ชมสามารถสนุกไปกับหนังได้ในแบบเดียวกับการเล่นเกม เพียงแต่ว่าวิธีการของหนังเรื่องนี้ยังสอดรับกับแนวคิดของเรื่องที่ว่าด้วย “เจตจำนงเสรี” (Free Will) อันว่าด้วยการตัดสินใจทำอะไรของเราโดยไม่ถูกจำกัดจากปัจจัยอื่นๆ

 

เนื่องจากตัวละครเอกของเรื่องอย่างสเตฟาน เขากลับรู้สึกอยู่ลึกๆว่าชีวิตของเขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมด้วยตัวเอง แต่ถูกใครบางคนชักใยอยู่เบื้องหลัง และการตายของแม่ในอดีตอาจจะเป็นชนวนหลักที่ทำให้เขารู้สึกโทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้แม่ของเขาไปขึ้นรถไฟคันที่เกิดอุบัติเหตุตกราง ความหวาดระแวงดังกล่าวส่งผลให้เขาต้องเข้าพบกับจิตแพทย์ในการดูแลติดตามอาการวิตกกังวลอย่างใกล้ชิด

 

 

เมื่อหนังดำเนินไปสู่จุดพลิกผัน (ซึ่งมีตั้งแต่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของเรื่อง) ถ้าหากเราเลือกเส้นทางบางประการ ก็อาจจะนำพาให้ตัวละครอย่างสเตฟานต้องพบกับบทสรุปของเหตุการณ์ไวกว่าที่คิด กระทั่งถ้าหากเราเลือกเส้นทางผิด ตัวหนังก็อาจจะหาเส้นทางใหม่ให้กับผู้ชมเพื่อดำเนินเรื่องราวให้ไปต่อในทิศทางที่เราอาจจะไม่ได้คาดหวังไว้เลยก็ตาม

 

สิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้จึงถูกย้อนกลับมาสู่ตัวเราอีกต่อหนึ่งว่า เราอาจจะเป็นผู้ควบคุมของตัวละครสเตฟานอีกทีหนึ่ง แต่ความเป็นจริงแล้วเส้นทางหรือทางเลือกที่มีอยู่ในหนังนั้นก็ถูกกำหนดมาแล้วจากตัวผู้กำกับ เดวิด สเลต อีกต่อหนึ่งอีกที

 

ดังนั้นแม้เราจะสนุกไปกับการหาเส้นทางให้กับตัวละครในเรื่อง ประกอบกับการทำความเข้าใจแนวคิดเรื่อง “เจตจำนงเสรี” (Free Will) แต่เอาเข้าจริงแล้ว ผู้ชมนั่นแหละที่โดนตั้งคำถามกลับใส่หน้าว่าเรามีเจตจำนงเสรีในการควบคุมอะไรจริงๆหรือเปล่า!

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook