10 หนังไทยตัวเต็งชิงรางวัลสุพรรณหงส์ปี 2562

ปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมายังเป็นปีที่หนังไทยกระแสหลักดูจะไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนช่วง 10 ปีก่อนหน้านี้ เนื่องด้วยหลายปัจจัยด้วยกัน ประการแรกอาจจะมาเพราะบทภาพยนตร์จากสตูดิโอชื่อดังหลายเรื่องนำเสนอนั้นมีความใกล้เคียงกับซีรีส์ที่ออกฉายตามโทรทัศน์หรือช่องทางออนไลน์ ประการถัดมาหนังที่ประสบความสำเร็จในการทำเงินนั้นมักจะต้องมาพร้อมกับดาราที่มีชื่อเสียง ประการที่สามชื่อเสียงของสตูดิโอยังเป็นปัจจัยในการการันตีและเรียกผู้ชมเข้าโรงหนัง แต่ก็ไม่เสมอไปเพราะหนังหลายๆ เรื่อง มีโอกาสประสบความล้มเหลวในเรื่องรายได้เพราะขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดีนั่นเอง

 

ถ้าเช่นนั้นเราลองมาดูกันดีกว่าว่าในปี 2561 ที่ผ่านมา หนังทั้ง 10 เรื่องที่เราเลือกมานำเสนอมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง และทำไมหนังเหล่านี้ถึงเป็นตัวเต็งในการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ปี 2562

 

 

๙ ศาสตรา (กันย์ พันธุ์สุวรรณ, ณัฐ ยศวัฒนานนท์, พงศา กรศรี)

แอนิเมชั่นฝีมือคนไทยเปิดศักราช หยิบเอาตำนานมวยไทยมาผูกเป็นเรื่องราวแฟนตาซี ขายฉากการผจญภัยอันน่าตื่นตาตื่นใจ ว่าด้วยการเดินทางของวีรบุรุษที่ต้องกอบกู้อาณาจักรอันเป็นที่รักกลับคืนมาจากเทหะยักษา คำวิจารณ์ของผู้ชมและบรรดาเพจต่างๆ ก็ชื่นชมและยกนิ้วให้ว่า “๙ ศาสตรา” จัดเป็นหนังไทยเรื่องเยี่ยมเรื่องหนึ่งประจำปีเลยทีเดียว  

 

 

Samui Song ไม่มีสมุยสำหรับเธอ (เป็นเอก รัตนเรือง)

ผู้กำกับอย่าง เป็นเอก รัตนเรือง ที่มีลายเซ็นในการทำหนังอย่างชัดเจน นำเสนอการผูกเรื่องราว ความรัก ความลับและการฆาตกรรม ทำให้หนังเรื่อง “Samui Song ไม่มีสมุยสำหรับเธอ” ได้รับการจับตามองตั้งแต่ตอนไปฉายตามเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศ อาทิ โตรอนโต้, เวนิส และปูซาน ซึ่งต่างก็ยอมรับในเรื่องความตลกร้ายของบทภาพยนตร์ รวมไปถึงการแสดงอันน่าจดจำของพลอย เฌอมาลย์

 

 

มะลิลา (Malila The Farewell Flower) (อนุชา บุญยวรรธนะ)

หนังไทยเรื่องล่าสุดที่คณะกรรมการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติได้เสนอชื่อเพื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศในปีนี้ ก่อนหน้าที่จะได้เข้าฉายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย “มะลิลา” คว้ารางวัล “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม คิม จิซก อวอร์ด” จากเทศกาลหนังปูซาน และคาดหมายกันว่าหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นตัวเต็งในสาขาเดียวกัน ในงานประกาศผลรางวัลภาพยนตร์ไทยบนเวทีต่างๆ ในปีนี้

 

 

ไทบ้าน เดอะซีรี่ส์ 2 Part 1 และ Part 2 (สุรศักดิ์ ป้องศร)

หนังภาคต่อยอดฮิตจับกลุ่มผู้ชมในภาคอีสานซึ่งสามารถทำเงินถล่มทลาย (เช่นเคย) ยังไม่รวมไปถึงดราม่าเรื่องหนังเกือบไม่ได้เข้าฉายเพราะไม่ผ่านเซนเซอร์ ยิ่งทำให้หนังได้รับกระแสความสนใจมากกว่าเดิม

 

 

2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว (ณฐพล บุญประกอบ)

สารคดีที่นำเสนอช่วงเวลาที่คนทั้งประเทศไทยเอาใจช่วยและเป็นกำลังใจให้กับ ตูน บอดี้แสลม กับภารกิจ "ก้าวคนละก้าว" เพื่อระดมทุนเป็นเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลในการซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ยังขาดแคลน โดยตูนจะต้องวิ่งบนเส้นทางจากเบตง ใต้สุดของประเทศสู่แม่สาย จุดเหนือสุดของประเทศ โดยสารคดีเรื่องนี้ได้ถ่ายทอดในทุกห้วงอารมณ์ของ ตูน บอดี้สแลม  ตั้งแต่มีความสุขไปจนถึงเจ็บปวดทุรนทุราย จนคนดูอาจจะประทับใจและน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว

 

 

ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก (พฤกษ์ เอมะรุจิ)

หนังไทยอีกเรื่องปีนี้ที่สามารถทำเงินเกิน 100 ล้านบาท โดย “ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก” เป็นการร่วมมือกันระหว่าง เวิร์คพอยท์ และ เอ็ม พิคเจอร์ส ในเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ เหตุผลที่หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จคือการบอกต่อความสนุกแบบปากต่อปากจนบรรดาวัยรุ่นต่างกันตีตั๋วเข้าชมกันอย่างคับคั่ง 

 

 

App War แอปชนแอป (ยรรยง คุรุอังกูร)

ผลงานหนังของค่าย ที โมเมนต์ ที่หยิบเอาประเด็นของเรื่อง “สตาร์ทอัพ” ของคนรุ่นใหม่เอามาเป็นแกนหลัก ในการแข่งขันพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อคว้าเงินรางวัล โดยระหว่างทางคู่พระนางกลับคนพบว่าความรักของทั้งสองกลายเป็นอุปสรรคเมื่อทั้งคู่ต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ “ชัยชนะ” แม้จะมีประเด็นที่น่าสนใจมาก แต่เนื่องจากหนังปราศจากดาราดัง จึงทำให้หนังไม่ค่อยทำเงินและมีกระแสเท่าที่ควร   

 

 

BNK48: Girls Don’t Cry (นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์)

หนังสารคดีผลงานการกำกับของ เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ซึ่งพาผู้ชมไปคลุกคลีและทำความรู้จักกับสาวๆ ไอดอลวง BNK48 ในแง่มุมต่างๆ ว่าเส้นทางของพวกเธอที่กว่าจะมีเพลงยอดฮิตติดหูอย่าง “คุกกี้เสี่ยงทาย” พวกเธอต้องฟันฝ่าอะไรมาบ้าง มีทั้งแง่มุมน่ารักสดใส ไปจนถึงมุมมืดหม่นในการเป็นไอดอลที่ต้องแข่งขันกันเองภายในวง การสร้างชื่อเสียง รวมไปถึงการค้นหาตัวตนของตัวเอง ทำให้สารคดีเรื่องนี้นอกจากแฟนเพลงที่ตามติดสาวๆ แล้ว ก็เปิดโอกาสให้คนดูทั่วไปได้เข้าใจถึงความเป็นมนุษย์ของวง BNK48 อีกด้วย

 

 

นาคี ๒ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง)

จากละครดังทางช่อง 3 สู่ภาพยนตร์ขนาดยาว ซึ่งได้คู่ขวัญอย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ และ ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ก้าวเข้ามาเป็นตัวละครหลักในการดำเนินเรื่องราว ที่พาผู้ชมไปค้นหาเหตุการณ์ตายอันน่าประหลาดของชุมชนแห่งหนึ่งที่เชื่อกันว่าเป็นฝีมือของเจ้าแม่นาคีที่ออกอาละวาด แม้หนังจะค่อนข้างไม่สมบูรณ์ในแง่ความเป็นภาพยนตร์ แต่หนังกลับทำให้แฟนละครทั่วประเทศพร้อมใจตีตั๋วเข้าชมจนทำให้โรงหนังทั่วประเทศแทบแตก และทำเงินถล่มทลายไปถึง 400 ล้านหลังการปิดการฉาย

 

 

โฮมสเตย์ (ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ)

ตัวหนังดัดแปลงมาจากวรรณกรรมญี่ปุ่นในชื่อ Colorful หรือ เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม โดยมีการปรับเนื้อหาและเรื่องราวให้สอดรับกับคนไทย ตัวหนังมีสไตล์ของหนังดราม่า ไซไฟ ทริลเลอร์ผสมผสานเข้าไว้ด้วยกัน น่าเสียดายที่หนัง GDH เรื่องนี้ไม่ค่อยเป็นกระแสสักเท่าไหร่ เพราะหนังสิ้นสุดการฉายไปด้วยรายได้ที่ประมาณ 70 ล้านบาทเท่านั้น

 

ความโดดเด่นของหนังทั้ง 10 เรื่องนี้ น่าจะมีโอกาสได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดย 5 เรื่องที่น่าจะมีโอกาสมากที่สุดเรียงตามลำดับควรจะประกอบไปด้วย

 

1. มะลิลา

เหตุผลประกอบ – มีความโดดเด่นทั้งงานกำกับ งานภาพ มีบทภาพยนตร์ที่ชวนคิดตาม สามารถตกผลึกหลังหนังจบลงถึงประเด็นเรื่องการมีชีวิตและความตาย นักแสดงโดดเด่น

 

2. โฮมสเตย์

เหตุผลประกอบ – หนังพูดถึงเรื่องโอกาสครั้งที่ 2 ของชีวิต มีการแสดงที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตามหนังอาจจะไม่ค่อยทำงานกับวัยรุ่นที่ยังไม่มีประสบการณ์ชีวิตมามากพอ

 

3. Samui Song ไม่มีสมุยสำหรับเธอ

เหตุผลประกอบ – หนังตลกร้าย ที่หยิบเอาเรื่องความไม่พอใจในชีวิตคู่มาเป็นประเด็น ก่อนที่การตัดสินใจของตัวละครจะนำพาความหายนะมาให้ตัวเอง หนังมีนักแสดงอย่าง พลอย เฌอมาลย์ และ เดวิด อัศวนนท์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ภาพรวมของหนังเรื่องนี้โดดเด่นขึ้นมา

 

4. ๙ ศาสตรา

เหตุผลประกอบ – แอนิเมชั่นฝีมือคนไทย ที่ทำออกมาได้สนุก มีประเด็นน่าขบคิด และหยิบเอาเรื่องวัฒนธรรมไทยเอามาปรับให้มีความร่วมสมัย โดยที่ไม่พยายามยัดเยียดประเด็นรักชาติเข้ามาจนเกินพอดี

 

5. App War แอปชนแอป

เหตุผลประกอบ – บทภาพยนตร์เป็นเหมือนเสียงของตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่กำลังอยากจะสร้างเนื้อสร้างตัว และสร้างยุคใหม่ของตัวเองขึ้น ซึ่ง App War ทำออกมาได้น่าสนใจ แต่ถึงอย่างนั้นหนังก็ยังค่อนข้างเทน้ำหนักไปที่เรื่องความรักระหว่างหนุ่มสาวมากกว่าจะเป็นหนังที่ทำให้เห็นความยากลำบากของหนุ่มสาว ทำให้ภาพรวมของหนังอ่อนพลังลงอย่างน่าเสียดาย

 

ทั้งนี้ทั้งนั้นรายชื่อผู้เข้าชิงอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงถ้าหากคณะกรรมการได้ชมภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่มีความเห็นตรงกันว่ามีความน่าสนใจกว่า 5 เรื่องนี้ แต่ทั้งหมดทั้งมวล โอกาสที่หนัง 5 เรื่องนี้จะได้เข้าชิงรางวัลก็จัดได้ว่ามีความน่าจะเป็นสูงมากเช่นกัน