นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (ที่น่าจะติดโผ) รางวัลสุพรรณหงส์ปี 2562

โดยปกติแล้วการเฟ้นหานักแสดง “นำหญิง” ที่โดดเด่นในภาพยนตร์แต่ละปีนั้น น่าจะเป็นสาขาที่ชวนหนักใจสำหรับคณะกรรมการ เพราะมักจะมีนักแสดงหญิงที่ฝีมือจัดจ้านและโดดเด่นอยู่เป็นประจำ แต่เมื่อมองย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2561 แล้ว กลายเป็นว่า แค่หาบรรดานักแสดงที่ “คู่ควร” จะติดเข้ามาชิงชัยรางวัลในสาขาดังกล่าว ยิ่งกลายเป็นปีที่นักแสดงทำหน้าที่ของตัวเองได้แค่เสมอตัว ไม่มีใครโดดเด่นอย่างจริงจัง หรือน่าจะเป็นตัวเต็งได้สักคน

แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าหากเราคาดเดาและทำนายนักแสดงที่น่าจะเป็น “ที่รัก” ตามประสาเวทีสุพรรณหงส์ หรือเวทีอื่นๆ อย่าง Starpics Thai Film Awards รวมไปถึง ชมรมวิจารณ์บันเทิง ก็มีโอกาสที่ค่อนข้างคล้ายกัน บรรดานักแสดง 4 คนจากภาพยนตร์ 5 เรื่องต่อไปนี้ น่าจะเป็นรายชื่อที่มีโอกาสได้เข้าชิงรางวัลในปีนี้มากที่สุด ซึ่งประกอบไปด้วย

 

 

 

ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์

ภาพยนตร์ : น้อง.พี่.ที่รัก Brother of The Year

บท เจนขวัญ เหรียญสุวรรณ หรือ “เจน” น้องสาวของ พี่ชัช (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) ในเรื่องนี้ ญาญ่า มีโอกาสได้แสดงอารมณ์อันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เปิดโอกาสให้เธอเล่นตลก หรือทำให้คาแรกเตอร์ของเธอเป็นที่รักของผู้ชม ประกอบกับใบหน้าอันสะสวยของญาญ่า จึงเป็นเรื่องยากที่ใครจะเกลียดเธอลง ยิ่งไปกว่านั้น บทเจนซึ่งมีพี่ชายไม่เอาถ่านและกวนประสาท ยิ่งทำให้บทนี้เป็นบทที่ผู้ชมพร้อมจะให้โอกาสและเห็นใจ ช่วงครึ่งหลังของเรื่องเมื่อหนังพัฒนาไปในทิศทางดราม่า ญาญ่าสามารถแสดงอารมณ์อันซับซ้อนของน้องสาวที่หวังดีกับผู้เป็นพี่ แต่กลายเป็นว่าพี่ชายของเธอแปลเจตนาผิดและนำไปสู่ความขุ่นข้องหมองใจ จนทำให้เจนต้อง “หลั่งน้ำตา”

GDH ยังคงออกแบบคาแรกเตอร์ “นางเอกรางวัล” มาได้ตามมาตรฐาน แต่คำถามอยู่ที่ว่า เราเห็นบทแบบนี้ในหนังของค่ายดังกล่าวมากี่เรื่องแล้ว ถ้าไม่นับว่ามันเป็นความซ้ำซากตั้งแต่บทของ คริส หอวัง ใน “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” จนถึง น้อง.พี่.ที่รัก นักแสดงสาวอย่าง ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ก็น่าจะเป็นตัวเต็งคนสำคัญในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมประจำปีนี้

 

ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์

ภาพยนตร์ : นาคี ๒

ปีนี้ ญาญ่า อาจจะต้อง “สู้กับตัวเธอเอง” จากหนังอย่าง นาคี ๒ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าอภิรมย์นัก ถ้าหากกรรมการเกิดเสียงแตกและโหวตคะแนนตัดกันเอง อาจจะทำให้ผู้เข้าชิงคนอื่นๆ ชนะรางวัลไปแบบงงๆ ก็เป็นได้ บท “สร้อย” ใน นาคี ๒ คือตัวละครที่ถูกสงสัยว่า เธอคือร่างทรงของเจ้าแม่นาคีที่ออกอาละวาด ทำให้เธอต้องหลบซ่อนตัว ตั้งความสงสัยกับตัวเอง ไปจนถึงต้องเข้าฉากร่วมกับคู่ขวัญอย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ ที่เคมีลงตัวกันอย่างไม่อาจปฏิเสธ แต่เมื่อเราพิจารณาองค์รวมของหนังที่มีสภาพใกล้เคียงกับ “ละครขนาดความยาว 2 ชั่วโมง” นาคี ๒ อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักที่กรรมการจะมอบรางวัลให้ ญาญ่า จากหนังเรื่องนี้

 

 

พลอย-เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์

ภาพยนตร์ : Samui Song ไม่มีสมุยสำหรับเธอ

คนไทยรู้กันดีอยู่แล้วว่า พลอย เฌอมาลย์ เป็นเบอร์ต้นๆ ในฐานะนักแสดงมากฝีมือ ยิ่งเธออยู่ในหนังของผู้กำกับมากฝีมืออย่าง เป็นเอก รัตนเรือง บท “วิยะดา” ดาราสาวที่ได้แต่งงานอยู่กินกับสามีชาวต่างชาติซึ่งนับถือลัทธิประหลาด ได้ทำให้พลอยได้แสดงอารมณ์อันหลากหลาย ประกอบกับสไตล์หนังที่เป็นทริลเลอร์ ตลกร้าย ทำให้บทดังกล่าวพลอยต้องทำการบ้านหนักกว่าเดิม ซึ่งการวางแผนฆ่าสามีตัวเอง ก่อนที่จะนำไปสู่ความพลิกผันแบบคาดไม่ถึง ยิ่งทำให้บทนี้เต็มไปด้วยแง่มุมที่น่าสนใจ บางทีปีนี้อาจจะถึงเวลาของพลอยแล้วก็ได้ที่เธอจะได้รับรางวัลในสาขานักแสดงนำหญิงบนเวทีสุพรรณหงส์ (หลังจากที่เธอเคยคว้ารางวัลในสาขาสมทบหญิงยอดเยี่ยมในปี 2550 จาก รักแห่งสยาม)

 

 

จิงจิง-วริศรา ยู

ภาพยนตร์ : App War แอปชนแอป

บท “จูน” ใน App War แอปชนแอป เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่สะท้อนภาพ “เด็กรุ่นใหม่” ผู้กำลังเติบโตและค้นหาความหมายของชีวิตที่น่าสนใจ บทนี้ทำให้เราเห็นความพยายามของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจะก่อร่างสร้างตัวทำธุรกิจสตาร์ทอัพเป็นของตัวเอง ในขณะเดียวกันเธอกำลังค้นพบว่าความรักที่กำลังก่อตัวขึ้นน่าจะเป็นอุปสรรคสำคัญของการดำเนินธุรกิจ น่าเสียดายที่หนังไม่พัฒนาตัวละครนี้ไปจนถึงจุดที่มันควรจะเป็น แต่ถึงอย่างนั้น จิงจิง ก็ถือว่าเป็นนักแสดงที่น่าจับตามองอีกหนึ่งคนในปีนี้

 

 

แพท-ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช

ภาพยนตร์ : Someone from Nowhere

“เราไม่ใช่เจ้าของที่นี่ แต่เราเป็นแค่คนมาอาศัยอยู่เท่านั้น” ประโยคสำคัญในหนังที่ แพท-ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช ผู้รับบทตัวละคร “นภัสสร” สาวออฟฟิศที่ตื่นขึ้นมาและค้นพบว่ามีชายแปลกหน้า กำลังบุกรุกบ้านของเธอและอ้าง “ความเป็นเจ้าของห้อง” ด้วยความน่าฉงนตลอดทั้งเรื่องของ Someone from Nowhere มีแต่บทสนทนาระหว่างนภัสสรและชายแปลกหน้าเท่านั้น นั่นกลายเป็นเหตุผลสำคัญว่าตลอดทั้งเรื่อง การแสดงของชญานิษฐ์ได้โอบอุ้มหนังทั้งเรื่อง ทำให้คาแรกเตอร์ของเธอน่าค้นหา ชวนคนดูตั้งคำถามและเอาใจช่วยว่าเธอจะแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างไร

แต่น่าเสียดายที่ Someone from Nowhere น่าจะเป็นหนัง “ตกสำรวจ” ที่กรรมการอาจจะไม่มีโอกาสได้ชม หรือกระทั่งสนใจ เพราะมันไม่มีนักแสดงชื่อดัง ไม่มีโปรดักชั่น และที่สำคัญตอนหนังเข้าฉายก็น้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้ชม แต่สิ่งที่หนังเรื่องนี้มีให้คนดูอย่างแน่นอน คือการแสดงและบทภาพยนตร์ที่ชวนขบคิดตลอดทั้งเรื่อง ดังนั้นโอกาสที่ชญานิษฐ์จะคว้ารางวัลในสาขานี้อาจจะเป็นเรื่องยากพอสมควร เมื่อคู่แข่งคนสำคัญของเธอคือ ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ จาก น้อง.พี่.ที่รัก