เสียงหวานจับใจก็ไปไม่รอด! กระชากหน้ากาก 2 สาวแห่งกรุ๊ปไม้จัตวา “The Mask Line Thai”
เดินทางมาถึงรอบ Semi Final ของกรุ๊ปไม้จัตวาจากรายการ The Mask Line Thai เหล่าหน้ากากยังคงงัดพลังเสียงมาซัดกันเต็มที่ และก็ถึงคราวที่ หน้ากากใบตอง และ หน้ากากกะลา ต้องถูกถอดหน้ากาก!
เหลือเพียง 4 หน้ากากสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบเข้ามา และก็จัดเต็มกันตั้งแต่โชว์เปิดรายการ กับความสวยงามของโนราห์ที่มาพร้อมเพราะสุดไพเราะ “อย่าลืมโนราห์” ซึ่งได้ เอกชัย ศรีวิชัย มาร่วมแจม กับศิลปะอันงามงดแห่งภาคใต้
ประเดิมเวทีด้วย หน้ากากกอไผ่ ที่นำเพลงสุดซึ้ง “ทุกคนเคยร้องไห้” มาขับกล่อม ต่อด้วย หน้ากากกะลา กับอีกหนึ่งเพลงสุดเศร้า “ฉันไม่ใช่” ซึ่งเธอก็งัดเอาเสียงใสๆ อันเป็นเอกลักษณ์มาทำให้บรรยากาศในสตูฯ เต็มไปด้วยความเหงา ในขณะที่ หน้ากากใบตอง ขอสร้างความคึกคักด้วย “ตั๊กแตนผูกโบว์” ทั้งจัดเต็มทั้งร้องทั้งเต้น ปิดท้ายด้วย หน้ากากจอกแหน กับการสะกดทุกคนด้วยน้ำเสียงจากเพลง “ไม่อยู่ในชีวิตแต่อยู่ในหัวใจ”
ได้เวลาลุ้นว่าใครจะต้องโดนกระชากหน้ากาก และผลการตัดสินก็คือ หน้ากากกอไผ่ และ หน้ากากจอกแหน สามารถทะลุเข้ารอบไฟน่อลได้สำเร็จ หลังจากนั้นก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย หน้ากากใบตอง ต้องถอดหน้ากากเป็นคนแรก และเธอก็คือ หมิว-วริศรา อภิรักษ์เดชาชัย หรือ หมิว Boom Boom Cash วงแนวหน้าของวงการ EDM บ้านเรา รวมถึงยังเคยเป็นแชมป์โลกโอเปร่าประเทศไทยอีกต่างหาก โดยเธอกล่าวความรู้สึกว่า “เวลาหนูคิดถึงประเทศไทยจะคิดถึงใบตอง ใช้ห่ออาหารทำประโยชน์เยอะมากค่ะ ก็เลยคิดว่าอยากจะเป็นอย่างนั้นบ้าง อยากจะลองทำอะไรที่เราไม่คิดว่าเราจะทำได้ และการมาแข่งที่นี่เป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับหนูที่สุดในชีวิต มากกว่าการแข่งโอเปร่าอีก เพราะโอเปร่าเราเรียนมาทั้งชีวิตแล้ว แต่อันนี้คือหนูไม่เคยร้องไทยเลย ไม่เคยเอื้อน ต้องมาฝึกใหม่ทั้งหมดทุกอย่าง ถ้าเกิดเราไม่ลองทำดู เราก็ไม่มีทางรู้ว่าทำได้ อยากจะลองท้าทายตัวเองดูอย่างน้อยก็ได้ทำ ได้ลองพิสูจน์ตัวเองได้เซอร์ไพรส์ตัวเองค่ะ”
คิวต่อมาคือ หน้ากากกะลา และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคือ มน-ชุติมน วิจิตรทฤษฎี แห่งวง Room39 ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นเอง “ที่มาของหน้ากากกะลาก็คือ เรารู้สึกว่าเราเป็นคนทำเพลง จะอยู่แต่ในห้อง เรารู้สึกว่าวันนี้แหละเราจะออกมาจากกะลาเราจะได้ทำอะไรที่แตกต่าง ทำงานเพลงมา 10 กว่าปี พ่อแม่ก็ถามเราแล้วถามอีกว่าจะร้องเพลงจริงๆ เหรอ เพราะเขาอยากให้เรามีอนาคตที่ดี เราก็คือทำงานออฟฟิศมาก่อน มันก็รู้สึกว่าไม่ใช่เรา ก็ทิ้งเลยตัดสินใจไปอเมริกา และโชคดีมากร้านที่เราไปเป็นร้านที่คนแอลเอเขาไปเที่ยวกัน เราก็เลยขอเพลงขึ้นไปเขาร้องไม่ได้ เพราะเป็นเพลงผู้หญิง บนเวทีคือพี่แว่นใหญ่เขาก็ถามเราว่างั้นเราขึ้นมาร้องสิ วันนั้นก็ต้องขอบคุณตัวเองที่กล้าขึ้นไปร้อง หลังจากวันนั้นก็คือได้ร้องเพลงมาตลอดและก็ได้อยู่วงเดียวกับพี่แว่นใหญ่ อยู่กับทอม นี่แหละการที่เรากล้าที่จะทำอะไรบางอย่าง หรือกล้ามารายการ กล้าที่จะทำไรแปลกใหม่ มันก็คือการเปิดประตูให้ตัวเราเอง ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีมนวันนี้ค่ะ” สาวเสียงหวานกล่าว
และสัปดาห์หน้ากับบทสรุปของกรุ๊ปไม้จัตวาในรอบไฟน่อล กับ 2 หน้ากาก หน้ากากกอไผ่ และ หน้ากากจอกแหน ปล่อยพลังจัดเต็มแบบไม่ยอมกัน และบัลลังก์แชมป์กรุ๊ปไม้จัตวาจะเป็นของหน้ากากไหน ลุ้นพร้อมกันใน The Mask Line Thai วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 20.05 น. ช่องเวิร์คพอยท์23
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ