รีวิว Escape Room ทางออกที่ไม่มีอยู่จริง

รีวิว Escape Room ทางออกที่ไม่มีอยู่จริง

รีวิว Escape Room ทางออกที่ไม่มีอยู่จริง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ท้ายบทความมีการเปิดเผยจุดสำคัญของภาพยนตร์

ภาพยนตร์แนวตัวละครต้องเอาตัวรอดภายใต้เงื่อนไขต่างๆ ไม่ใช่พล็อตใหม่ อันที่จริงหนังอย่าง Escape Room แทบจะจัดได้ว่าเป็น “ลูกหม้อ” ของหนังอย่าง SAW ที่ปลุกกระแส หนังกับดักห้องปิดตาย ให้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง และการเกิดขึ้นของเครื่องเล่นประเภท “ห้องปิดตาย” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง SAW กลายเป็นแฟชั่นเครื่องเล่นแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก

จากเครื่องเล่นยอดฮิต สู่การพัฒนาไปสู่บทภาพยนตร์ หนังอย่าง Escape Room จึงเล่นใหญ่ เล่าให้เว่อร์เข้าไว้ อีกทั้งตัวหนังยังอุดมไปด้วยงานเทคนิคพิเศษที่จะปลุกเร้าอารมณ์ของผู้ชม เมื่อหนังเล่าเรื่องราวของคนแปลกหน้า 6 คนที่มาพบกันที่สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งพวกเขาได้รับเชิญให้เอาตัวรอดจากห้องปิดตายเพื่อพิชิตเงินรางวัลจำนวนหนึ่ง เมื่อพิจารณาจาก “แรงขับ” แล้ว พวกเขามายังสถานที่แห่งนี้ด้วยความสมัครใจ โดยที่พวกเขาไม่ทันฉุกคิดว่าเกมนี้อาจจะเดิมพันด้วยชีวิตของพวกเขา

กว่าทั้ง 6 คนจะรู้ว่าเกมห้องปิดตายในครั้งนี้ มีทางเดียวที่พวกเขาจะเอาชีวิตรอด คือการเดินหน้าไขปริศนาในแต่ละห้องเพื่อไปให้ถึงห้องสุดท้าย ตามกติกาที่พวกเขาเข้าใจ และรับรู้ว่ากำลังถูกเฝ้ามองจากใครบางคนหลังกล้องวงจรปิด พวกเขาต้องอาศัย “เบาะแส” ที่นำไปสู่กุญแจซึ่งจะนำพวกเขาไปสู่ห้องถัดไปนั้น จริงๆแล้วดันมีความข้องเกี่ยวกับอดีตอันเลวร้ายในชีวิตของพวกเขา

ตั้งแต่ห้องแรกที่หนังที่ยื่นเงื่อนไขในการเอาตัวรอด คือการมองหาเบาะแสในการช่วยไขปริศนา แต่ถ้าหากพวกเขาเลือกผิด นั่นอาจจะหมายถึงการเร่งกับดักให้ทำงานรวดเร็วขึ้น ความสนุกของผู้ชมคือการร่วมไขปริศนาเหล่านั้นร่วมไปกับนักแสดง

ในช่วงแรกของหนัง ผู้กำกับอย่างอดัม โรบิเทล มีความใจเย็นในการใช้งานด้านภาพ เพื่อเล่าเรื่องราว แต่เมื่อหนังกระโจนเข้าสู่ช่วงเวลาไคลแมกซ์ หนังกลับรีบเร่งและไม่ให้เวลากับผู้ชมในการทำความเข้าใจเอกลักษณ์ใน 3 ห้องสุดท้ายนัก ทุกอย่างกลายเป็นรน การตัดต่อแบบฉับไวจนตามอะไรแทบไม่ทัน มีความรวบตึงและทำให้เสน่ห์ที่หนังสร้างเอาไว้ตั้งแต่แรกหายไปอย่างหน้าเสียดาย

สิ่งแต่ที่น่าเสียดายไปกว่านั้นเมื่อหนังเลือกจะ “ไม่อธิบาย” เหตุผลว่าทำไมตัวละครทั้งหก ถึงถูกเลือก (แม้ว่าพวกเขาจะสมัครใจมาร่วมเกมก็ตาม แต่การที่หนังทำให้เราเห็นว่า เกมห้องปิดตายนี้ ผู้อยู่เบื้องหลังก็เลือกพวกเขาเช่นเดียวกัน) และเมื่อมันเลือกจะวางตัวเองให้กลายเป็น “ปฐมบท” ของแฟรนชายส์ Escape Room หนังก็เลยจะเลือกทิ้งปมบางอย่างให้คาใจคนดูไว้ เพื่อเอาไปอธิบายในหนังภาคต่อไป

เมื่อพิจารณาจากรายได้ทั่วโลกของ Escape Room ในเวลานี้ ก็ยิ่งมั่นใจได้เลยว่าภาคต่อของหนังเรื่องนี้จะต้องตามออกมาแน่นอน เมื่อต้นทุนในการสร้างคือ 9 ล้านเหรียญฯ แต่รายได้ทั่วโลกอยู่ที่ 78 ล้านเหรียญฯ และยังไม่เสร็จสิ้นการฉาย เตรียมรอคำเฉลยเรื่องราวทั้งหมดในหนังภาคแรก ในหนังภาคต่อไปได้เลย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook