รีวิว How to Train Your Dragon The Hidden World บทสรุปแบบมัดมือชก
ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความน่ารักของมังกรอย่างเจ้าเขี้ยวกุดได้ลง ตั้งแต่ How to Train Your Dragon ภาคแรก ซึ่งตัวละครนี้เหมือนเป็นลูกผสมระหว่างสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมว อย่างละครึ่ง ด้วยการออกแบบให้น่าเอ็นดูเช่นนี้ “มังกร” จึงกลายสภาพไปเป็น “เพื่อนที่รู้ใจ” ของเด็กชายอย่างฮิคคัพ
จากเด็กชายผู้สูญเสียขาไปในหนังภาคแรก ทำให้ดูเล็งเห็นว่าการขาดบางอย่างในชีวิตไปไม่ได้หมายความว่าชีวิตของเราจะสูญสิ้นความหมายหรือไร้คุณค่า การที่ฮิคคัพเองค้นพบว่า ความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเขาและเจ้าเขี้ยวกุด ที่ปีกของมันพิการและทำให้มันบินแทบไม่ได้ แต่สิ่งประดิษฐ์อย่างปีกจำลองของฮิคคัพ ได้ช่วยให้มันโบยบินได้อย่างอิสระ ทั้งสองจึงเรียนรู้ว่าทั้งคู่กลายเป็นส่วนเติมเต็มให้กันและกัน
เหตุการณ์ในหนังภาค 2 เล่าเรื่องการเติบโตของฮิคคัพและเจ้าเขี้ยวกุด การก้าวผ่านวัย รวมไปถึงการค้นพบว่ายังมีมังกรอีกมากมายอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ทั้งสองต้องร่วมกันปกป้องบรรดามังกรตัวอื่นๆ ให้รอดพ้นอันตรายที่เรียกว่า “มนุษย์”
สำหรับเนื้อเรื่องภาค The Hidden World ที่ว่ากันว่าน่าจะเป็นบทสรุปของไตรภาคความสัมพันธ์ระหว่างมังกรและมนุษย์ ได้โยนบททดสอบความสัมพันธ์ครั้งใหม่ระหว่างฮิคคัพและเจ้าเขี้ยวกุด ในเวลานี้มีนักล่ามังกรที่ต้องการล่ามังกรสายพันธุ์เพลิงนิลให้สูญพันธุ์ แน่นอนว่าเจ้าเขี้ยวกุดอยู่ในสายพันธุ์นี้ และหนังภาคนี้เลือกจะแนะนำตัวละครใหม่อย่างไลท์ ฟิวรี่ มังกรเพศเมียที่ทำให้เจ้าเขี้ยวกุดตกหลุมรัก
พัฒนาการของตัวละครในภาคนี้จึงแทบจะให้ความสำคัญกับเจ้าเขี้ยวกุดเป็นหลัก ในขณะที่ตัวละครมนุษย์ในภาคนี้กลับดูถูกลดทอนความสำคัญไปไม่น้อย ดังนั้นช่วงเวลาที่เป็นบทสนทนา จึงน่าจะเป็นช่วงเวลาที่จัดได้ว่า “น่าเบื่อ” และเหมือนการหยิบเอาบทภาพยนตร์ภาคแรกเอามาปรับปรุงเล่าใหม่
ความสนุกของเราคือการเฝ้ารอฉากแอ็คชั่นที่โผล่มาเป็นห้วงๆ ที่น่าเสียดายไปกว่านั้นคือฉากใหญ่ที่สุดในช่วงไคลแมกซ์ กลับกลายเป็นฉากที่แทบจะไม่มีความโดดเด่นกว่าฉากต่อสู้ฉากก่อนๆ หน้าเลยเสียด้วยซ้ำ แถมการนำพาคุณดูไปสู่บทสรุปนั้น ก็ดูง่ายดายและดูเหมือนเป็น “ภาคบังคับ” ที่ต้องจบลงในแบบแฮปปี้เอนดิ้ง โดยที่ไม่สนใจเลยว่ามันน่าเชื่อถือมากแค่ไหน (ตัวร้ายโหม่งโลกลงทะเลและหายไปจากจอแบบเงียบๆ ) จากการลาของมังกรและมนุษย์ในแบบทุกคนต้องซาบซึ้งและน้ำตารื้น (เหรอ?)
How to Train Your Dragon The Hidden World จึงน่าจะจัดได้ว่าเป็นภาคที่อ่อนพลังที่สุดในไตรภาคมังกรชุดนี้ และดู “จงใจ” ขายคาแรกเตอร์ความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้าเขี้ยวกุดและไลท์ฟิวรี่ (เพลิงนิล) มากกว่าจะขายความประทับใจ ลุ่มลึกในบทภาพยนตร์แบบ 2 ภาคที่ผ่านมา