รีวิว The Upside การไถ่บาปของชายสองขั้ว
The Upside ดัดแปลงและได้แรงบันดาลใจมาจากหนังฝรั่งเศสในปี 2011 เรื่อง Les Intouchables โดยในเวอร์ชั่นฮอลลีวูดนี้บอกเล่าเรื่องราวมิตรภาพระหว่างชายสองคนที่ดูไม่น่าจะคบหากันได้เลย มหาเศรษฐีอย่างฟิลลิป ลาแคส (ไบรอัน แครนสตัน) ผู้เป็นอัมพาตทั้งตัวหลังจากอุบัติเหตุการเล่นพาราไกลดิ้ง และเดลล์ สก๊อทท์ (เควิน ฮาร์ท) อดีตผู้ต้องขังจากเรือนจำที่ต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการหางานดีๆสักงาน
แน่นอนว่าสำหรับผู้ต้องขังนั้น การหางานไม่ใช่เรื่องง่าย และยิ่งไปกว่านั้นเดลล์ยังพยายามจะกลับไปพื้นฟูความสัมพันธ์กับภรรยาและลูกชายของเขา แต่ก็ดูเหมือนกับว่าสองแม่ลูกจะไม่ยอมรับในพฤติกรรมของผู้เป็นพ่อสักเท่าไหร่ และทำให้เดลล์ถูกเฉดหัวออกจากบ้านแบบไม่ใยดี เดลล์พยายามมองหางานที่น่าจะไม่เกินความสามารถของเขานัก นั่นก็คือพนักงานทำความสะอาด แต่ด้วยความเข้าใจผิด เดลล์ดันกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นเพนท์เฮาส์ซึ่งกำลังมีการออดิชั่นเพื่อรับสมัคร “ผู้ผดุงชีวิต” ให้กับฟิลลิป ส่งผลให้เดลล์จับพลัดจับผลูได้งานแบบไม่ทันตั้งตัว
ค่าตอบแทนและที่พักพิงสุดหรู อยู่เหนือการคาดเดาของเดลล์ แต่นั่นก็เป็นภาระอันหนักหน่วงสำหรับคนที่ไม่เคยรับผิดชอบอะไรในชีวิตมาก่อนก็ตาม หน้าที่ของเดลล์คือต้องคอยดูแลฟิลลิปตลอด 24 ชั่วโมงตั้งแต่เริ่มป้อนอาหารไปจนถึงช่วงเวลาขับถ่าย ซึ่งในตอนแรกยีวอน (นิโคล คิดแมน) หัวหน้าผู้ดูแลฟิลลิปจะไม่เห็นด้วยที่จะรับเดลล์เข้ามาดูแล
แม้ว่าจะเริ่มต้นกันไม่ค่อยดีนัก แต่ฟิลลิป เดลล์ และยีวอน ต่างก็ต้องเริ่มเปิดใจเรียนรู้จากประสบการณ์ของกันและกัน ฟิลลิปและเดลล์แตกต่างกันสุดขั้วในแง่ของฐานะความเป็นอยู่ แต่เมื่อทั้งสองลองทำความเข้าใจในสภาวะของอีกฝ่าย ทำให้ชายสองคนได้แลกเปลี่ยนแนวคิด อันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ทัศนคติ และการมองโลกไปอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่าจะเป็นหนังรีเมคในเวอร์ชั่นอเมริกัน ก็ยังคงต้องบอกว่า The Upside เป็นหนังโลกสวยที่ดูสนุก ทุกอย่างในหนังดูจะคลี่คลายและดำเนินไปข้างหน้าอย่างแทบจะไม่มีอุปสรรคอะไรให้คนดูต้องรู้สึกลำบากใจนัก ยิ่งไปกว่านั้น “ความรวย” ของตัวละครฟิลลิปก็ดูจะไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้กับชีวิตของเขานัก ทุกอย่างในหนังแทบจะบันดาลความสุขได้จากเงิน
การมาถึงของเดลล์อาจจะทำให้ตัวละครอย่างฟิลลิปดูเป็นพ่อพระขึ้นมาบ้าง(ในสายตาของผู้ชม) แต่ในอีกมุมหนึ่งเราก็รู้สึกว่าฟิลลิปนั้นพยายามไถ่บาปและอยากจะโปรยทานให้กับคนที่ต้องการความช่วยเหลือทางด้านการเงินในตอนแรก ทว่าสิ่งที่ฟิลลิปพยายามใช้เงินไถ่บาปในชีวิตกลับกลายเป็นว่า มันได้นำความสุขที่เกิดจะคาดฝันไว้ ทำให้ชีวิตของเศรษฐีอย่างฟิลลิปที่นับเวลารอวันตาย กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
นี่อาจจะเป็นความงดงามที่สุดของชีวิตมนุษย์คนหนึ่งก็ว่าได้