รีวิว Captain Marvel-หนังซูเปอร์ฮีโร่สาวเอาใจทาสแมว แอบดักแก่เด็กยุค 90

รีวิว Captain Marvel-หนังซูเปอร์ฮีโร่สาวเอาใจทาสแมว แอบดักแก่เด็กยุค 90

รีวิว Captain Marvel-หนังซูเปอร์ฮีโร่สาวเอาใจทาสแมว แอบดักแก่เด็กยุค 90
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ในระหว่างการสู้รบกับเผ่าสครัลล์ เวียส สตาร์ฟอร์ซ (บรี ลาร์สัน) นักรบสาวแห่งเผ่าครี เพลี่ยงพล้ำถูกข้าศึกจับตัวไปค้นความทรงจำจนได้พบภาพชีวิตตอนเธออยู่บนโลกในนาม แครอล เดนเวอร์ เมื่อสบโอกาสหนีเธอจึงขโมยกระสวยแล้วดิ่งตรงไปยังโลก เพื่อหนีเหล่าสครัลล์ จนได้พบกับ นิค ฟิวรี่ (แซมมวล แอล แจ็คสัน) เจ้าหน้าที่หน่วยชีลด์ ที่ร่วมค้นหาตัวตนของเธอ ซึ่งเกี่ยวพันกับใครบางคนในอดีตที่กุมความลับเครื่องสร้างพลังงานมหาศาลที่อาจยุติสงครามทั้งมวลได้ งานนี้ เธอและนิคจำต้องร่วมมือกันค้นหามันก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป 

แม้ตัวหนังจะดัดแปลงจากคอมิก Kree-Skrull War ปี 1971 ของ รอย โธมัส แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า Captain Marvel  เลือกที่จะเซ็ตเรื่องราวของตัวเองขึ้นใหม่และที่สำคัญมันยังตอบสนองกับแนวคิดเฟมินิสต์ที่ข้นคลั่กทั้งเรื่อง ทั้งที่มาของพลังพิเศษ หรือ เรื่องราวภูมิหลังที่อย่างกับหลุดมาจากโฆษณาเพื่อนหญิงพลังหญิง ไปจนรายละเอียดเล็กๆน้อยอย่างการแอบใส่ฉากที่ เวียส หรือ คารอล เดนเวอร์ ปล่อยพลังทำลายสแตนดี้หนัง True Lies ของเจมส์ คาเมรอน ในร้านบล็อคบัสเตอร์ที่เธอเดินผ่านแผงวีดีโอที่มีแต่หนังบู๊ผู้ชายๆ  ซี่งก็คล้ายเป็นการการันตีว่าหนังทีมีผู้หญิงเป็นตัวนำจะออกมาสนุกไม่แพ้กัน ซึ่ง Captain Marvel ก็ทำได้จริงๆนั่นแหละ คือมันมีฉากบู๊ดีๆและมีดราม่าที่ทำถึงไม่แพ้ Black Panther ที่สำคัญคือหนังปูเรื่องให้ตัวละครตัวนี้แยกเดี่ยวๆเลยไม่ต้องไปพึ่งพาหนังเรื่องอื่นในจักรวาลนัก เหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำรายละเอียดอย่างผมมากเลยดูแบบเอ็นจอยได้ทั้งเรื่องแบบไม่ต้องเครียดนึกรายละเอียดนี่นั่นมากนัก

สำหรับการแสดงของบรี ลาร์สันก็ถือว่าไม่ได้เสียยี่ห้อดาราออสการ์นะครับ เธอสามารถทำให้เราเชื่อได้ทั้งด้านที่แข็งแกร่งเหนือมนุษย์ความดิบเถื่อน ไปจนถึงด้านที่เปราะบางเมื่อเธอพบความจริงที่สั่นสะเทือนความเชื่อของเธอไปตลอดกาล ยิ่งได้ แซมมวล แอล แจ็คสัน ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้เรื่องราวได้เป็นอย่างดีมาคอยรับส่งมุกกับเธอก็ยิ่งทำให้หนังดูสนุกโดยแทบไม่ต้องพึ่งพาฉากแอ็คชั่นมาคอยปลุกคนดูมากนัก รวมถึงนักแสดงสมทบทุกคนก็ทำหน้าที่ได้ดีจนกลายเป็นหนังมาร์เวลที่ภาพรวมทางการแสดงค่อนข้างแข็งแรงเรื่องหนึ่งในจักรวาลของหนังเลยทีเดียว

สิ่งที่ดูจะถูกใจและแอบดักแก่ผมอยู่มิใช่น้อยคงหนีไม่พ้นการเล่นกับเซ็ตติ้งในปี 1995 ตั้งแต่ซีนบนโลกซีนแรกที่จงใจให้แครอล ตกลงมากลางร้านบล็อคบัสเตอร์แล้วเดินผ่านเชลฟ์หนังแอ็คชั่นดังที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งนับๆดูก็แอบมีหลายเรื่องในความทรงจำอยู่นะครับ ฮ่าาาา  แต่โดยนัยยะแฝงแล้วการที่ Captain Marvel จะเป็นหนังเรื่องแรกของตระกูล Disney ที่ไม่ได้ลงสตรีมมิงทาง Netflix ยังเป็นการเสียดสีคู่แข่งตัวเองในอนาคตอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะหากจำกันได้ Netflix นี่แหละที่เริ่มบริการเช่าดีวีดีออนไลน์จนทำให้บล็อคบัสเตอร์อยู่ไม่ได้ และการที่หนังไปเซ็ตเริ่มที่บล็อคบัสเตอร์เองก็เหมือนเป็นเทียบเชิญศึกไปถึง Netflix ว่าตัวเองพร้อมลงแข่งในนามดิสนีย์พลัสไม่นานเกินรอ หรือการเล่นตลกกับยุคสมัย ทั้งอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ในยุคโมเด็มที่ทั้งอืด ทั้งไม่เสถียร หรือการปรากฎตัวของเครื่องมือสื่อสารยุคก่อนทั้งเพจเจอร์และโทรศัพท์หยอดเหรียญก็เรียกความทรงจำวัยหวานได้เป็นอย่างดี แุถมยังทำให้เรารู้สึกเลยว่าเทคโนโลยีต่างๆมาไกลเหลือเกินจนบางครั้งเราก็หลงลืมสิ่งเหล่านี้ไม่ต่างจากนางเอกที่หลงลืมตัวเองในนามแครอล เดนเวอร์ไปหมดสิ้น นั่นทำให้การเซ็ตติ้งดังกล่าวไม่ได้ไร้ความหมายแต่กลับส่งเสริมการเล่าเรื่องได้เป็นอย่างดี

และเป็นธรรมเนียมที่หนังมาร์เวลจะแยกการเมืองไม่ออก และแน่นอนว่าศัตรูหมายเลขหนึ่งก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล โดนัลด์ ทรัมป์ นั่นเองโดยคราวนี้ ประเด็นผู้อพยพที่กลายเป็นจุดพลิกผันของหนังยังทำให้เราสืบย้อนไปมองประวัติศาสตร์อเมริกาว่าด้วย อารยะชนกับเผ่าพื้นเมือง ซึ่งหนังทำตรงนี้ออกมาได้เข้มข้นมาก มันสามารถกินความไปถึงความหมายหรือผลพวงของสงครามต่างๆได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่ตัวละครซูพรีมอินเทลลิเจนต์ที่ถอดแบบมาจากคนที่ แครอล นับถือเองก็ยังมีแนวคิดเหมือน อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ที่พยายามคิดค้นอาวุธที่จะหยุดทุกสงครามก่อนจะพบว่าเหรียญมีสองด้านเสมอ จนทำให้หนัง Captain Marvel กลายเป็นหนังที่อิงการเมือง และประวัติศาสตร์มากที่สุดในจักรวาลมาร์เวลแล้วล่ะครับ

อีกจุดที่เชื่อได้เลยว่าเหล่าทาสแมวจะต้องเสียอาการคงหนีไม่พ้นการปรากฎตัวของน้องกู๊ส ซึ่งจากตัวอย่างเราจะเห็นน้องกู๊สโผล่มาเหมือนตัวประกอบผ่านๆ แต่บอกเลยว่านางแอบขโมยซีน และโปรยเสน่ห์ให้คอหนังได้หลงไหลกับความลำไยบีมของนางกันแบบไม่ได้พักไม่ได้ผ่อน ก่อนที่หนังจะเฉลยว่าแท้จริงแล้วความอันตรายของนางคืออะไรเท่านั้นแหละ โอ้โหทั้งโหด มันส์ ฮา แบบไม่กล้าสปอยล์เลย ที่สำคัญนางยังเป็นไฮไลต์เด็ดสำหรับช่วงเอนด์เครดิตด้วยน้าาาาา

สิ่งเดียวที่ขอเตือนแฟนๆหนังมาร์เวลไม่มีอะไรมากแค่อย่าดื่มน้ำเยอะก็พอ เพราะตามธรรมเนียมแล้วเราจำเป็นมากที่จะต้องดูเอนด์เครดิต 2 ตัวให้หมด ซึ่งหนังมีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 4 นาที โดยส่วนตัวมองว่าเอนด์เครดิตคราวนี้ทำไม่ยืดเยื้อเท่าไหร่ รอไม่นานมาก ส่วนใครเป็นแฟนมาร์เวล เชื่อว่าอาจจะต้องดูเกิน 1 รอบเพราะหนังซ่อนอีสเตอร์เอ็กไว้เต็มไปหมด ส่วนใครคิดถึงคุณปู่ สแตน ลี หนัง Captain Marvel จะพิสูจน์ให้เราเห็นว่า คุณปู่ไม่ได้จากเราไปไหนจริงๆ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ รีวิว Captain Marvel-หนังซูเปอร์ฮีโร่สาวเอาใจทาสแมว แอบดักแก่เด็กยุค 90

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook