Captain Marvel ซูเปอร์ฮีโร่ผู้ยุบธานอสได้ แต่จะแบก MCU ได้ไหม?

หลังจากที่ปั่นกันมานานถึงฮีโร่ผู้มีพลังสูงสุดในจักรวาลมาร์เวลอย่าง “กัปตันมาร์เวล” ก็เข้าโรงฉายเสียทีนะครับ ไอ้ที่อยากรู้ว่าฮีโร่สาวคนนี้จะเป็นผู้ยุบ-ผู้ยุติธานอสและพรรคพวกให้สยบยอมราบคาบใน Avengers : Endgame (ในอีกเดือนกว่าๆ ข้างหน้า) ได้จริงหรือไม่นั้น คราวนี้ก็จะได้ดูได้รู้กันก่อนแล้วล่ะว่าพลังของเธอมันร้ายกาจขนาดที่ปั่นกันมาอย่างนั้นหรือเปล่า

ไอ้เรื่องนั้นก็ว่ากันไปนะครับ แต่สิ่งที่ผมอยากรู้จริงๆ กลับเป็นข้อสงสัยตัวโตๆ ที่ว่า Captain Marvel ในฐานะที่เป็นหนังที่เชื่อมยุคแรกซึ่งมี “ไอรอน แมน” เป็นแกนกลางกับยุคใหม่ที่กำลังจะมาถึงของ MCU (Marvel Cinematic Universe) ซึ่งคงมีหนังอีกหลายเรื่องรอสร้างอยู่นั้น Captain Marvel โดยตัวหนังเอง กับในฐานะที่เป็นตัวละครหลักผู้มาแทนที่ ไอรอน แมน หรือ โทนี่ สตาร์ค (ซึ่งว่ากันให้ถึงที่สุด ก็ต้องบอกว่าแทนที่ โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์ ด้วย) มันจะพอไหวและไปรอดหรือเปล่า พอให้ เควิน ไฟกี ประธานของมาร์เวล สตูดิโอได้ฝากผีฝากไข้ได้หรือไม่

Captain Marvel

เอาเรื่องแรกก่อน ในฐานะที่เป็นหนังเรื่องหนึ่ง ผมมองว่า Captain Marvel ก็ดูเพลินๆ ดีเหมือนกันครับ ไม่ได้ดีเด่อะไรมาก ซึ่งหากมองจากมาตรฐานของหนังซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวลที่เข้าฉายปีที่แล้วอย่าง Black Panther นั้นต้องยอมรับว่ายังสู้ไม่ได้เลย เพราะ Black Panther นั้นสนุกกว่า ลงตัวกว่า และยกระดับความเข้มข้นของเนื้อหาขึ้นไปจนกลายเป็นหนังดีเรื่องหนึ่ง การที่ Black Panther เข้าชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมได้นั้นก็คงจะบอกได้เป็นอย่างดีแล้วครับว่ามันเหนือกว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่นจริงๆ (แม้โดยส่วนตัวผมยังชอบ Logan มากกว่าก็ตาม)

แต่ในความเห็นของผม (ย้ำว่าของผมนะครับ) ผมมองว่า Captain Marvel ไปไม่ถึงจุดนั้นครับ ก็อย่างที่บอกไปว่าแค่ดูเพลินๆ เท่านั้นเอง แม้หนังพยายามที่จะพูดเรื่องเฟมินิสต์อย่างเข้มข้น แถมยังใส่ปมเรื่องการสูญเสียตัวตน การก่อร่างตัวตนใหม่ซ้อนทับตัวตนเก่า และการกอบกู้ตัวตนภายหลังเรื่องทุกอย่างเปิดเผย รวมถึงมุมมองของผู้หญิงที่มีต่อสงครามที่มองว่า สงครามเป็นสิ่งที่ต้องยุติ ซึ่งแตกต่างจากมุมมองของผู้ชาย (หรือซูเปอร์ฮีโร่ชาย) ที่มองว่าสงครามคือการห้ำหั่น การนำเสนอประเด็นเรื่องการยุติหรือทำให้สงครามจบ (ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม) ใน Captain Marvel นั้นเป็นสิ่งที่ผมชอบมากทีเดียว และน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่หนังเลือกพูดเรื่องนี้แค่ผิวเผินมาก ถ้ายอมขุดให้ลึกลงไปอีกนิดผมเชื่อว่าตัวหนังจะมีมิติและดูซีเรียสมากขึ้น อาจซีเรียสถึงในระดับ Black Panther ก็ได้ใครจะไปรู้

แต่การที่ทำให้หนัง “ดูซีเรียส” อย่างที่ผมว่าไปนั้นก็อาจเป็นสิ่งที่ แอนนา โบเด็น และ ไรอัน เฟล็ค สองผู้กำกับน่าจะมองเห็นอยู่แล้วเหมือนกันนะครับ เพียงแต่ทั้งคู่ไม่เลือกทางนั้น เพราะอาจจะอยากให้หนังมันดูสนุก ดูตลก เพลินๆ แบบหนังอเมริกันอินดี้แบบที่ทั้งคู่เคยทำมาก็ได้ อันนี้เป็นข้อสังเกตนะครับ ผมมองว่าใน Captain Marvel นี้พอตัดพวกฉากรบพุ่ง ซีนปล่อยพลัง หรือฉากอะไรที่เป็นท่าบังคับของหนังซูเปอร์ฮีโร่ออกไป แล้วมองแค่เส้นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในโลก จังหวะจะโคนของหนังดูเหมือนหนังอมริกันอินดี้ฟีลกู้ดดีๆ เรื่องหนึ่งอยู่เหมือนกันครับ ทั้งการใส่ไดอะล็อกสวยๆ (แต่ไม่ค่อยคม) การเลือกนำบริบทของยุค 90’s กลับมาทำให้ดูคูล (ซึ่งอันนี้ดักแก่อย่างผมเข้าเต็มๆ ขอทำนายว่า เสื้อวง Nine Inch Nails จะกลับมาฮิตอีกแน่นอน) หรือแม้แต่การให้น้ำหนักกับน้องกูสเหมียวนั้นผมก็มองว่ามันเป็นสิ่งที่เราเห็นได้บ่อยในหนังอเมริกันอินดี้ที่ชอบไปฉายในเทศกาลซันดานซ์

ดังนั้นสรุปว่าโดยรวมในฐานะหนัง Captain Marvel ก็โอเค เพลินๆ กันไป

ทีนี้มาถึงคำถามข้อสองในฐานะตัวละครหลักในยุคใหม่ “กัปตันมาร์เวล” จะแบก MCU ไปไหวไหม? อันนี้ผมมองว่าพอมีลุ้นอยู่เหมือนกัน ผมเชื่อว่าสตูดิโออย่างมาร์เวลน่าจะหาทางให้ตัวละครตัวนี้พาหนังเรื่องอื่นๆ ร้อยรัดไปด้วยกันได้ไม่ยาก แม้จะหนักหนาหน่อยแต่ก็คิดว่าไปได้ครับ สิ่งที่เป็นปัญหาเดียวจริงๆ ในความคิดของผมก็คือ บรี ลาร์สัน ผู้รับบท แครอล แดนเวอร์ส หรือฮีโร่สาวของเรานั้นยังไม่ค่อยเจิดจรัสเท่าไหร่ในการปรากฏตัวเป็นครั้งแรก อันนี้ถ้าเทียบกับ เกล กาโดต์ ที่เปล่งประกายไว้ใน Wonder Woman ของค่าย DC แล้วผิดกัน รายนั้นพอดูหนังจบผมก็คิดว่าตัวละครนี้เป็น “เดอะแบก” หามหนังต่างๆ ในจักรวาลดีซีไว้บนไหล่ของเธอได้แน่ๆ

บรี ลาร์สัน เป็น กัปตันมาร์เวล

เป็นการบ้านของทั้งมาร์เวลและ บรี ลาร์สัน เหมือนกันนะครับ เพราะต้องยอมรับคว่า แม้จะทรงพลังแค่ไหน แต่การแบกจักรวาล MCU นี่มันหนักหนากว่าการยุบธานอสที่ง่ายดายกว่าหลายเท่าจริงๆ นะครับ

 

ชมตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Captain Marvel ได้ ที่นี่

 

เกี่ยวกับผู้เขียน

จักรพันธุ์ ขวัญมงคล
นักเขียน นักแปล นักวิจารณ์ภาพยนตร์ และบรรณาธิการอิสระ สนใจความเคลื่อนไหวในแวดวงศิลปะและสังคม