5 หนังเดี่ยวซูเปอร์ฮีโร่หญิงที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว (ว่าเคยดูมาก่อน)

5 หนังเดี่ยวซูเปอร์ฮีโร่หญิงที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว (ว่าเคยดูมาก่อน)

5 หนังเดี่ยวซูเปอร์ฮีโร่หญิงที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว (ว่าเคยดูมาก่อน)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในยุคก่อนที่ค่ายอย่าง มาร์เวล คอมิกส์ และ ดีซี คอมิกส์ จะสร้างจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่เป็นของตัวเองนั้น มีความพยายามของเหล่าสตูดิโอฮอลลีวูด กับการผลักดันตัวละครฮีโร่หญิงให้มีหนังเดี่ยวเป็นของตัวเองออกมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในยุคปี 1980 - 1990s ความนิยมของตัวละครฮีโร่ชายนั้นยังได้รับความนิยมมากกว่าตัวละครหญิงอยู่วันยังค่ำ ตัวละครฮีโร่หญิงจึงมักจะเป็นแค่ตัวประกอบของเรื่องเสียมากกว่า ถ้าเช่นนั้นเราลองย้อนกลับไปดูกันว่า มีหนังเรื่องไหนบ้างที่มีตัวเอกเป็น “ฮีโร่หญิง” บ้าง โดยเราคัดมา 5 นางเด็ดๆ ดังต่อไปนี้

 

Supergirl (1984)

จากความสำเร็จของแฟรนไชส์ Superman ในยุคสมัยของ คริสโตเฟอร์ รีฟ (1978-1987) ทำให้สตูดิโออย่างวอร์เนอร์แตกหน่อภาคแยกอย่าง Supergirl ตามออกมา ดาราสาวที่เข้ามารับบทซูเปอร์เกิร์ลคือ เฮเลน สเลเตอร์ เธอต้องเดินทางออกจากอาร์โก้ซิตี้ (เมืองหนึ่งของดาวคริปตอน) มายังโลกของมนุษย์ เพื่อรักษา “โอเมกาเฮดรอน” และต้องต่อสู้กับวายร้ายหญิงอย่าง เซเลน่า (เฟย์ ดอนนาเวย์) ผู้ใช้มนต์ดำทุกชนิดในการจะครองโลก

น่าเสียดายที่หนังประสบความล้มเหลวทั้งรายได้และคำวิจารณ์ บทของหนังจัดได้ว่าอ่อนปวกเปียกจนน่าเบื่อ และส่งผลให้สองนักแสดงนำอย่าง ปีเตอร์ โอ’ทูล และ เฟย์ ดอนนาเวย์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Razzie Awards ไปตามระเบียบ

 

Barb Wire (1996)

จากหนังสือการ์ตูนคอมิกส์ซูเปอร์ฮีโร่ภายใต้สำนักพิมพ์ Dark Horse Comics ว่าด้วยโลกอนาคตที่อเมริกากลายเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยอาชญากรรม รัฐบาลฉ้อฉลจนคนธรรมดาต้องทุกข์ยาก เว้นเพียงแต่ สตีลฮาร์เบอร์ เมืองเดียวที่ปกครองโดยกลุ่มต่อต้านรัฐบาล มีหญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่า บาร์บ ไวร์ (พาเมล่า แอนเดอร์สัน) นักล่าค่าหัวที่เปิดบาร์เหล้าไว้บังหน้า จนกระทั่งวันหนึ่ง อเล็กซ์ (เทมเมอร่า มอริสัน) อดีตแฟนเก่าที่ปรากฏตัวขึ้นเพื่อขอความช่วยเหลือจาก บาร์บ การปรากฏตัวของแฟนหนุ่มคนนี้ทำให้เธอต้องลุกขึ้นสู้ครั้งสำคัญในชีวิต

สิ่งที่โดดเด่น (และเกินเลย) บทภาพยนตร์คงไม่มีใครปฏิเสธหน้าอกของสาว พาเมล่า แอนเดอร์สัน เซ็กซี่สตาร์ประจำยุคสมัย ตัวหนังไม่มีอะไรมากไปกว่าการสาดห่ากระสุนอย่างบ้าคลั่ง ส่งผลให้หนังเรื่องนี้คว้าราวัลนักแสดงนำหญิงยอดแย่บนเวที Razzie Awards ในปี 1997 และยังติดเข้าชิงรางวัลอีก 5 สาขาด้วยกัน

 

Catwoman (2004)

เพเชียน ฟิลลิปส์ (ฮัลลี่ เบอร์รี่) กราฟฟิคดีไซน์เนอร์ขี้อายของ ฮีแดร์ บิวตี้ บริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ภายใต้การบริหารงานของ จอร์จ ฮีแดร์ (แลมเบิร์ต วิลสัน) และภรรยาอดีตซูเปอร์โมเดลอย่าง ลอเรล (ชารอน สโตน) แต่แล้วเมื่อ เพเชียน ล่วงรู้ความลับอันน่ากลัวของบริษัททำให้เธอโดนฆ่าปิดปาก แต่แล้วเธอก็ได้รับพลังพิเศษจากแมวและได้พื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้งพร้อมกับพลังพิเศษที่ทำให้เธอกลายเป็นแคทวูแมนที่ปราดเปรียวและคล่องแคล่ว

Catwoman กลายเป็นหนังที่มีคนดูรักและเกลียดในเวลาเดียวกัน ความเปรี้ยวซ่าของหนังทำให้หนังมีจริตของความเป็น “คุณแม่” ของบรรดาเก้งกวางบ่างชะนี แต่ในความเก๋ของเสื้อผ้าไม่ได้ช่วยทำให้หนังที่อ่อนในเรื่องของบทภาพยนตร์ได้รับการยอมรับ ท้ายที่สุดหนังเรื่องนี้ก็คว้ารางวัล Razzie Awards ในปี 2005 ในสาขาใหญ่ๆ อาทิ ภาพยนตร์ยอดแย่, นักแสดงนำหญิงยอดแย่ (ฮัลลี่ เบอร์รี่), ผู้กำกับยอดแย่ และบทภาพยนตร์ยอดแย่ไปครอง อย่างไรก็ตามแม้ว่าในช่วงเวลาที่หนังออกฉายคนดูและนักวิจารณ์จะยี้ แต่ในปัจจุบันการหยิบ Catwoman มาดูอีกครั้ง เราจะค้นพบว่ามันเป็นหนังที่ดูสนุกเรื่องหนึ่งและคนดูก็ประเมินค่าหนังเรื่องนี้ต่ำเกินไป (และเกลียดมันมากเกินไปในช่วงเวลาดังกล่าว)

 

Elektra (2005)

หนังภาคแยกของ Daredevil (2003) ที่นำเอาตัวละครอย่าง อีเล็กตร้า (เจนิเฟอร์ การ์เนอร์) ออกมามีเส้นเรื่องเป็นของตัวเอง ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของ อีเล็กตร้า หญิงสาวที่ฟื้นจากอาการบาดเจ็บสาหัส เธอได้มีโอกาสเรียนรู้การต่อสู้จาก สตีค (เทอเรนส์ แสตมป์) ที่สอนให้เธอรู้จักการต่อสู้และวิธีการดูแลจิตให้สงบ แต่เนื่องจากอีเล็กตร้าไม่สามารถก้าวข้ามด้านมืดของตัวเองทำให้เธอโดนขับออกจากสำนักและส่งผลให้เธอกลายเป็นมือสังหารเร่ร่อน จนกระทั่งวันหนึ่งอีเล็กตร้าได้รับภารกิจให้สังหารสองพ่อลูก มาร์ค มิลเลอร์ (โกแรน วิสนิค) และ แอ็บบี้ มิลเลอร์ (คริสเตน เพราท์) แต่เมื่อเธอตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเป้าหมาย นั่นทำให้อีเล็กตร้ากลายเป็นฝ่ายโดนตามล่าเสียเอง

เป็นหนังเดี่ยวฮีโร่หญิงอีกเรื่องที่คำวิจารณ์ออกจะไม่ค่อยสู้ดีนัก โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง เจนิเฟอร์ การ์เนอร์ ซึ่งโด่งดังมากในจอแก้วกับซีรีส์ Alias ก็ไม่อาจจะนำพาให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จด้านการเงิน เมื่อพิจารณาจากทุนสร้าง 43 ล้านเหรียญแต่ทำเงินทั่วโลกไปแค่ 56 ล้านเหรียญฯ ก็เรียกได้ว่ากำไรแทบจะไม่เห็น แอบเข้าเนื้อเล็กๆ ด้วยเช่นกัน

 

 

My Super Ex-Girlfriend (2006)

แม็ท แซนเดอร์ (ลุค วิลสัน) หนุ่มออฟฟิศที่มองหาแฟนสาวสักคน จนกระทั่งเขาได้พบกับ เจนนี่ (อูม่า เธอร์แมน) สาวสวยทรงเสน่ห์ที่เขาไม่รู้เลยว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอคือ จี-เกิร์ล ฮีโร่สาวจอมพลัง แต่แล้วหลังจากคบหาไม่ได้นาน ความขี้หึงของเจนนี่ก็จัดได้ว่า “เยอะ” เกินทน ทำให้แม็ทบอกเลิกเธอ แน่นอนว่า จี-เกิร์ล ไม่ยอมง่ายๆ เธอจึงพยายามใช้ทุกพลังที่เธอมีทำลายล้างชีวิตของแม็ท ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงานและคนรักใหม่อย่าง ฮาน่าห์ (แอนนา ฟาริส) ด้วย

เรียกได้ว่าเป็นพล็อตใหม่ที่น่าสนใจมากในช่วงเวลานั้น เราได้เห็นด้านอื่นๆ ของยอดมนุษย์ที่มีอารมณ์รัก โลภ โกรธหลงบ้าง หนังทำเงินพอประมาณในอเมริกาที่ 22 ล้านเหรียญฯ แต่ทำเงินนอกตลาดอเมริกาถึง 38 ล้านเหรียญฯ ทำให้รายรับรวมอยู่ที่ 60 ล้านเหรียญฯ เยอะกว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ดัดแปลงมาจากคอมิกส์หลายๆ เรื่องด้วยซ้ำไป

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ 5 หนังเดี่ยวซูเปอร์ฮีโร่หญิงที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว (ว่าเคยดูมาก่อน)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook