5 หนังของ “บรี ลาร์สัน” ก่อนสวมบท “กัปตันมาร์เวล” (ที่คุณต้องตามไปดู)

“Captain Marvel” หนังที่มาแรงที่สุดในช่วงเวลานี้ จนเราอาจจะกล่าวได้ว่ามันเป็นวาระแห่งชาติของคนดูหนังเลยก็ว่าได้ที่จะต้องไม่พลาด โดยเส้นทางความเป็นมาของหนังเดี่ยวซูเปอร์ฮีโร่หญิงคนแรกของค่ายมาร์เวลนั้น ทีมงานเจาะจงเลยว่าผู้ที่จะมารับบท “กัปตันมาร์เวล” ต้องเป็นนักแสดงดาวรุ่งอย่าง “บรี ลาร์สัน” เท่านั้น

ถ้าหากเราย้อนกลับไปในอดีตแล้ว ลองไปดูกันว่าหนัง 5 เรื่องก่อนหน้าที่เธอจะมารับบทบาทเป็นซูเปอร์ฮีโร่หญิงสุดแกร่ง มีเรื่องไหนที่น่าสนใจบ้าง

 

Sleepover (2004)

ดาราสาวมากฝีมือในวงการฮอลลีวูดแทบทุกคนต้องผ่านช่วงเวลาในการเล่นหนังใสๆ กันมาก่อน เช่นเดียวกับ บรี ลาร์สัน ที่แม้ว่าใน Sleepover บท ลิซ ของเธออาจจะเป็นแค่บทสมทบในกลุ่มสาวเปรี้ยว ซึ่งเป็นคู่กัดกับผองเพื่อนฝั่งนางเอก เนื้อหาของหนังก็ไม่มีอะไรมาก ออกจะติงต๊องตามประสาหนัง “ทวีน” (วัยหัวเลี้ยวหัวต่อที่กำลังจะเข้าช่วงวัยรุ่น) ที่บอกเล่าเรื่องราวของ จูลี่ (อเล็กซ่า พีนาเวก้า) สาวน้อยที่ตัดสินใจจัดปาร์ตี้ชุดนอนกับเพื่อนๆ แต่กลายเป็นว่าพวกเธอต้องเจอกับเรื่องโกลาหลตลอดคืน แถมยังต้องรับมือกับสาวป๊อปแก๊งคู่แข่ง วีรกรรมจอมแสบในการแอบขโมยรถไปท่องราตรี หนีเข้าผับ แต่ทั้งหมดนี้พวกเธอต้องทำให้แม่ของตัวเองจับไม่ได้เด็ดขาดว่าพวกเธอไม่ได้อยู่ที่บ้าน

คำวิจารณ์ที่ออกมาค่อนข้างเลวร้าย นักวิจารณ์ลงความเห็นว่านี่คือหนังปัญญาอ่อนแห่งปีอย่างเอกฉันท์ แต่เหมือนฝั่งคนดูที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเรื่องจะไม่ได้จงเกลียดจงชังหนังนัก ส่วนรายได้ก็ทำไปแบบน่ารักหอมปากหอมคอ เก็บเงินไปทั่วโลกอยู่ที่ 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น

 

21 Jump Street (2012)

หลังจากที่ บรี ลาร์สัน ไปรับงานทางจอแก้วอยู่นาน 21 Jump Street คือหนังที่เปิดโอกาสให้เธอได้มีโอกาสเผยเสน่ห์ ความน่ารักสดใส ในบท มอลลี เทรซี่ สาวป๊อปประจำไฮสคูลที่อาจจะมีเอี่ยวกับกลุ่มนักค้ายาเสพติดในไฮสคูล ตัวหนังรีเมคมาจากหนังชื่อเดียวกันในอดีตว่าด้วย ชมิดด์ (โจนาห์ ฮิลล์) และ เจนโก้ (แชนนิ่ง เททั่ม) อดีตคู่กัดสมัยมัธยมที่ต้องมาจับมือเป็นคู่หูตำรวจซึ่งต้องปลอมตัวไปเป็นนักเรียนมัธยมปลายเพื่อสืบหาเอเยนต์ค้ายาเสพติดในโรงเรียนไฮสคูล เมื่อมีโอกาสได้ย้อนวัยระลึกความหลัง ทั้งสองจึงจัดเต็มแบบไม่มียั้ง แต่ไม่ใช่เรื่องงานนะ เรื่องความบ้าบอคอแตกของทั้งคู่มากกว่า

 

Room (2015)

ผลงานเปลี่ยนชีวิตของ บรี ลาร์สัน เพราะการรับบทเป็น จอย เด็กสาวที่ตั้งใจจะเดินเข้าไปช่วยเหลือสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บ แต่กลับกลายเป็นว่า นิค (ฌอน บริดเจอร์) จับเธอมาขังไว้ในห้องเก็บของหลังบ้านเพื่อไว้เป็นเครื่องบำบัดความใคร่ทางเพศ จนวันหนึ่ง แจ็ค (เจคอบ ทรัมเบรย์) ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลก จอยได้พยายามสร้างโลกทั้งใบขึ้นมาให้เด็กน้อยเรียนรู้ แต่เมื่อหนังเดินทางมาถึงช่วงครึ่งหลังเมื่อ “แผนการ” หลบหนีออกจากโลกใบเก่าได้เริ่มต้นขึ้น ก็ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของสองแม่ลูกไปตลอดกาล

เราไม่อาจปฏิเสธการโอบอุ้มหนังทั้งเรื่องของ บรี ลาร์สัน เพราะเธอทั้งถ่ายทอดอารมณ์ของคนเป็นแม่ที่ต้องปกป้องลูกจากความโหดร้าย การรับมือกับสภาพอารมณ์อันแปรปรวน ตลอดความยาวกว่า 2 ชั่วโมง การแสดงของ บรี ลาร์สัน คือ “หัวใจ” ของหนังเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ และบทบาทนี้ทำให้เธอคว้ารางวัลจากเวทีใหญ่ๆ ในปีนั้นไม่ว่าจะเป็นออสการ์, ลูกโลกทองคำ, BAFTA และ SAG ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม

 

Kong: Skull Island (2017)

แน่นอนว่าหลังจากนักแสดงสักคนคว้ารางวัลออสการ์ พวกเธอจะเนื้อหอมขึ้นเป็นพิเศษ Kong: Skull Island คือหนังระดับบล็อกบัสเตอร์ที่ บรี ลาร์สัน รับบทเป็น เมสัน วีฟเวอร์ ช่างภาพข่าว แผนกสืบสวน เธอเข้าร่วมภารกิจในการสำรวจลึกลับกลางมหาสมุทรแปซิฟิกตามตำนานที่ว่าเป็นอาณาจักรของ “คอง” สัตว์ผู้ทรงพลัง แต่เมื่อทั้งหมดเดินทางมาถึงเกาะกะโหลก เธอก็ต้องมาพบกับเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เรื่องราวที่จะท้าทายสัญชาตญาณและจรรยาบรรณในการเป็นนักข่าวของเธอ

หนังฟอร์มยักษ์ว่าด้วยการหยิบเอา “คิงคอง” มาดัดแปลงใหม่ให้อยู่ภายใต้จักรวาลสัตว์ประหลาดของค่ายวอร์เนอร์ แม้คำวิจารณ์จะออกมากลางๆ แต่ความสนุกตื่นเต้นของเนื้อเรื่องก็ทำให้ Kong: Skull Island ทำเงินทั่วโลกอยู่ที่ 566 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และในปี 2020 เราก็เตรียมพบกับ Godzilla vs. Kong ศึกอันยิ่งใหญ่ที่มีโลกมนุษย์เป็นสนามประลอง

 

Basmati Blues (2017)

จากเรื่องจริงของนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันอย่าง ลินดา (บรี ลาร์สัน) ที่ถูกส่งตัวไปยังประเทศอินเดีย เพื่อขยายพันธุ์ข้าวที่มีการปรับปรุงพันธุกรรม โดยเธอไม่รู้เลยว่าการขยายพันธุ์ครั้งนี้คือการทำลายอาชีพของเหล่าเกษตรกรในอินเดีย จากชาวตะวันตกที่ไม่ประสีประสา สู่การทำความเข้าใจชาวอินเดียพื้นเมือง เรียนรู้วิถีชีวิต และตกหลุมรักชายหนุ่มรูปงามในเวลาต่อมา ที่สำคัญ หนังเรื่องนี้เป็นหนังโรแมนติก-มิวสิคัลอีกต่างหาก

Basmati Blues ไม่ได้เข้าฉายในประเทศไทย คำวิจารณ์ของหนังค่อนข้างย่ำแย่ มีคนกังขาถึงการร้องเพลงของ บรี ลาร์สัน (แม้เธอจะเป็นนักร้องมาก่อนก็ตาม) ว่าเธอร้องเพลงดีหรือร้องได้แค่คีย์เดียว แต่ถึงอย่างไรก็ตามถ้าใครมีโอกาสได้ลองชมหนังเรื่องนี้ ก็อาจจะพบว่า “มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดนะ”