รีวิว Isn't It Romantic ซวยสุด เมื่อฉันหลุดเข้าไปอยู่ในหนังโรแมนซ์
Thailand Web Stat

รีวิว Isn't It Romantic ซวยสุด เมื่อฉันหลุดเข้าไปอยู่ในหนังโรแมนซ์

รีวิว Isn't It Romantic ซวยสุด เมื่อฉันหลุดเข้าไปอยู่ในหนังโรแมนซ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ไม่ใช่ทุกคนที่จะหลงรักหนังโรแมนติก คอมมาดี้ อย่างน้อยนาตาลี (เรเบล วิลวัน) ก็เป็นหนึ่งคนที่ถูกทำให้เชื่อว่า ชีวิตแบบในหนังโรแมนซ์นั้น มันไม่มีอยู่ในชีวิตจริงจากคำยืนยันของแม่เธอเองระหว่างที่เธอกำลังมีความสุขสุดๆกับหนังอย่าง Pretty Woman ซึ่งนำแสดงโดยจูเลีย โรเบิร์ตและริชาร์ด เกียร์ เมื่อเธอเติบโตขึ้นและใช้ชีวิตอยู่ในช่วงวัยทำงาน อาชีพสถาปนิกออกแบบอย่างเธอ แม้ว่าไอเดียจะบรรเจิดแค่ไหน แต่ภาพลักษณ์สาวอ้วน แต่งตัวไม่ได้เรื่อง ทำให้เธอได้รับการปฏิบัติเหมือนเด็กฝึกงานซื้อกาแฟประจำสำนักงาน

 

จนกระทั่งวันหนึ่งระหว่างลงรถไฟใต้ดิน มีหนุ่มคนหนึ่งพยายามจะจีบเธอ แต่ระหว่างที่เธอกำลังเปิดใจจะลองทักทายกับหนุ่มคนนั้น เขากลับเป็นโจรวิ่งราวกระเป๋า ระหว่างยื้อแย่งของตัวเองอย่างชุลมุนนาตาลีวิ่งชนเสาและหัวกระแทกอย่างรุนแรง เมื่อเธอฟื้นคืนสติขึ้นมาในโรงพยาบาล เธอกลับได้พบกับคุณหมดสุดหล่อสุดเซ็กซี่และแซ่บเกินคำบรรยาย สักพักเธอเริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของสภาพแวดล้อมโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นเมืองนิวยอร์กที่ดูสะอาดงามตาผิดปกติ เพลงโรแมนติดที่ดังขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ก่อนที่เธอจะได้พบกับหนุ่มหล่อเบลค (เลียม เฮมส์เวิร์ธ) มหาเศรษฐีที่มาพร้อมกับรถลีมูซีน ที่แวะมาส่งเธอถึงห้อง

 

 

ความผิดปกติยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อห้องพักของเธอ กลายเป็นห้องสุดหรู มีเกย์กูรูเป็นเพื่อนซี้ เพื่อนสนิทอย่างวิทนีย์ ในออฟฟิศกลายเป็นสาวเปรี้ยวที่เกลียดขี้หน้านาตาลี ตามประสาตัวร้ายในหนัง เหลือแต่เพียงจอช (อดัม เดวีน) เพียงคนเดียวที่ดูเหมือนยังมีบุคลิกปกติอยู่ เมื่อเธอลองทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เธอกำลังค้นพบว่าตัวเองติดอยู่ในหนังโรแมนติกคอมมาดี้ เรท PG-13 ที่สบถคำหยาบไม่ได้แม้แต่คำเดียว!

Advertisement

 

สิ่งที่สนุกที่สุดสำหรับ Isn't It Romantic คือการหยิบเอาสูตรสำเร็จในหนังโรแมนติก คอมมาดี้เอามายั่วล้อขนบต่างๆ ให้คนดูมองเห็นถึงสภาวะอันไม่ปกติของตัวละครในหนังเหล่านี้ แต่ในขณะเดียวกันพฤติกรรมของตัวละครนาตาลีในหนังเรื่องนี้ ทำให้เราเห็นถึงความปกติที่ไม่เหมาะกับหนังประเภทนี้อีกเช่นกัน แน่นอนว่าหนังสนุกกับการยั่วล้อวิถีเหล่านี้กว่าค่อนเรื่อง และในที่สุดเมื่อถึงช่วงเวลาไคลแมกซ์หนังกลับหาทางออกให้กับตัวละครได้น่าประทับใจกว่าที่คิด เมื่อตัวนาตาลีได้ค้นพบว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่จะเติมเต็มตัวเองและมีความสุขกับชีวิตได้คือการ “รักตัวเอง”

 

 

เมื่อนาตาลีค้นพบว่าการรักตัวเองมีคุณค่ามากแค่ไหน เหตุการณ์ 15 นาทีสุดท้ายของเรื่อง กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจ และทำให้คนดูมองเห็นว่า บางครั้งชีวิตคนเราก็ต้องการ “ความแฟนตาซี” ต้องมีแง่มุมแห่งความสุข ผิดหวังบ้าง เพียงแค่เราต้องถามตัวเองอยู่เสมอว่าชีวิตของเราต้องการอะไรกันแน่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้