รีวิว Greta เมื่อมนุษย์ป้าไล่ล่าเด็กซื่อบื้อ

 

 

Greta อาจจะเป็นหนังที่ดูสนุก ถ้าหากมันถูกสร้างขึ้นราว 20 ปีก่อน เมื่อมันว่าด้วยเด็กสาวจิตใจดีงามผู้สูญเสียแม่ไปเมื่อไม่นานนัก เธอยังไม่สามารถตัดใจจากความเจ็บปวดนั้นได้ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้พบกับหญิงวัยกลางคนผู้สูญเสียลูกไปเมื่อไม่นาน ความเปลี่ยวเหงาทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนกันในช่วงเวลาอันสั้น จนกระทั่งเด็กสาวค้นพบว่า แท้ที่จริงแล้วตัวตนของหญิงวัยกลางคนนั้นอาจจะน่าขนลุกกว่าที่เธอเตรียมใจไว้

 

จุดเริ่มต้นของเรื่องเริ่มขึ้นเมื่อ ฟรานเชส แมคคัลเลน (โคลอี้ เกรซ มอเรตซ์) เดินทางกลับบ้านจากการทำงานเป็นบริกรหญิงในร้านอาหารสุดหรูในแมนฮัตตัน ระหว่างที่เธอโดยสารรถไฟใต้ดิน เธอพบกับกระเป๋าถูกวางทิ้งไว้ ภายในกระเป๋ามีบัตรประชาชนของเจ้าของกระเป๋าเขียนไว้ว่าเกรต้า เฮเคด (อิซาเบลล์ อูแปร์) เธอจึงตัดสินใจจะเดินทางไปคืนกระเป๋าให้ถึงมือเจ้าของ

 

 

เมื่อเดินทางไปถึงบ้านเกรต้า เชื้อเชิญให้ฟรานเชสมาดื่มกาแฟ พูดคุยทำความรู้จัก ผู้หญิงสองช่วงวัยจึงได้เรียนรู้ ความทำรู้จักกันทั้งชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงาน ทั้งสองตัดสินใจเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็วและทำกิจกรรมร่วมกัน แต่ไม่นานนัก เมื่อฟรานเชสค้นพบกระเป๋าอีกหลายใบที่ซ่อนอยู่ในตู้เก็บของที่บ้านเกรต้า นั่นทำให้เธอฉุกคิดได้ว่าจริงๆแล้ว เกรต้าอาจจะไม่ใช่คนปกติ แต่เป็นหญิงม่ายผู้เปล่าเปลี่ยวและอาจจะมีอาการทางจิต

 

ฟรานเชสแสดงอาการพิรุธทันทีให้เกรต้าจับได้ (ความซื่อบื้อประการแรก) ก่อนที่เธอจะนำเรื่องนี้ไปเล่าสู่ เอริก้า เพนน์ (ไมก้า มอนโร) เพื่อนร่วมห้องคนสนิทฟัง หลังจากนั้น ฟรานเชสก็ถูกรุกรานความเป็นส่วนตัวจากเกรต้า ไม่ว่าจะเป็นการสะกดรอยตาม หรือตามมายืนจ้องดูเธอทำงานอยู่นอกหน้าต่างเป็นหลายช่วงโมง แม้ว่าเธอจะพยายามแจ้งเรื่องนี้ให้กับตำรวจก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนว่าเธอจะต้องพึ่งพาตัวเอง

 

เกรต้าเริ่มรุกรานฟรานเชสและเอริก้าหนักขึ้นเรื่อยๆ ในระดับขั้นที่น่าหวาดกลัวสุดๆนั่นก็คือการที่เธอมาเรียกร้องความสนใจถึงที่ทำงานของฟรานเชส และอาละวาดจนร้านอาหารแทบแตก แต่นั่นก็ส่งผลให้เธอถูกจับส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา แต่หนังก็ดำเนินต่อไปอย่างไร้เหตุผล เมื่อเกรต้าถูกปล่อยตัวออกมาตามปกติ ฟรานเชสจึงพยายามปรับความเข้าใจกับเกรต้า แน่นอนว่านางเอกอันแสนซื่อบื้อก็ยังคง “ไม่ทันเกม” คนบ้าอยู่ดี

 

 

ความซื่อบื้อจนเกินจะทนของนางเอก (รวมถึงเพื่อนสนิท) และบรรดาตัวละครอื่นๆของหนัง อาจจะสื่อสารกับคนดูว่า ในเมืองใหญ่ไม่มีใครสนใจปัญหาของคนอื่น แต่วิธีการแก้ปัญหาของตัวละครในเรื่องกลับไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิดเดียว ในยุคสมัยที่โซเชียลมีเดียล้ำสมัยขนาดนี้ นางเอกของเรื่องกลับแก้ปัญหาด้วยวิธีการโง่ๆ อาทิ กลัวหมาที่เธอกับเกรต้าช่วยชีวิตจะโดนฆ่าตาย เธอเลยพยายามจะแอบไปช่วยหมาที่บ้านเกรต้า ฟรานเชสไม่ยอมให้พ่อมาช่วยเหลือเพราะคิดว่าตัวเองรับมือกับสถานการณ์ได้ หรือกระทั่งวิธีแก้ปัญหาของเพื่อนสนิทที่มาช่วยเหลือฟรานเชสในตอนท้าย ทั้งสองคนก็ดูโง่เขลาเบาปัญญาและเกิดผิดยุคผิดสมัยอย่างสิ้นเชิง

 

ปัญหาประการสำคัญของ Greta คือบทภาพยนตร์ที่ปราศจากความน่าเชื่อถือ เหตุผล รวมไปถึงความสนุก!