รีวิว Us แรงเงา

 

 

จอร์แดน พีล ผู้กำกับจากหนัง Get Out ที่ยังคงสไตล์การทำหนังสยองขวัญได้น่าขนลุกขนพองและยังวิพากย์สังคมอเมริกันได้อย่างน่าสนใจ การกลับมาครั้งนี้ในหนังเรื่อง Us หนังเลือกจะขยับขยายประเด็นให้ใหญ่และพูดประเด็นที่กว้างกว่าแค่เรื่อง “สีผิว”

 

Us เปิดเรื่องราวมาที่ อเดเลด (ลูปิต้า ญองโง) ในวัยเด็กที่ระหว่างเดินเล่นอย่างไร้จุดหมายในสวนสนุกยามค่ำคืน เธอเดินลงมาตามบันไดไม้ที่ทอดยาวไปยังชายหาดทรายเบื้องล่าง อเดเลดเดินเข้าไปยังบ้านกระจกที่เต็มไปด้วยเงาสะท้อนของตัวเอง แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อไฟฟ้าดับลง เธอพยายามมองหาทางออก แต่กลับกลายเป็นว่า อเดเลดกลับเห็นร่างเสมือนของตัวเองในกระจก เหตุการณ์ครั้งนั้นกลายเป็นภาพฝังใจที่ทำให้เธอพยายามปิดกั้นตัวเองในการเล่าเรื่องราวในชีวิตให้กับคนอื่นรับรู้

 

 

หนังตัดภาพเหตุการณ์กลับมาที่ยุคสมัยปัจจุบันเมื่ออเดลเลด เติบโตขึ้นแต่งงานมีครอบครัวและลูกอีกสองคน ระหว่างที่เธอเดินทางกลับมายังบ้านเก่า ความทรงจำในอดีตก็เหมือนจะตามมาหลอกหลอนเธออีกครั้ง ลางสังหรณ์ของเธอเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ว่าเหตุการณ์เลวร้ายอาจจะเกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอในอีกไม่ช้า ตกดึกในคืนดังกล่าวร่างด็อปเปิลแกงเกอร์ของเธอและครอบครัวมายืนอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน สวมชุดสูทสีแดงและถือกรรไกรคมกริบเอาไว้ในมือ ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันมาทำไม

 

ถ้าหากเรายังไม่ได้อ่านสปอยล์จากที่ไหนมาก่อน เราอาจจะรับรู้แค่เพียงว่า Us อาจจะเป็นแค่หนังสยองขวัญที่พูดถึงเรื่องร่างด็อปเปิลแกงเกอร์บุกรุกบ้านของตัวเอกในยามวิกาล เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง แต่กลายเป็นว่าเมื่อหนังดำเนินเรื่องไปสักระยะ หนังกลับทิ้งรายละเอียดมากมายเอาไว้ตามรายทางของหนัง ทั้งเชิงสัญลักษณ์ องค์ประกอบภาพต่างๆ เพื่อให้คนดูขบคิดและนำไปทำความเข้าใจกับแนวคิดของเรื่องในภายหลัง

 

 

มองในแง่ความบันเทิง Us มาพร้อมกับจังหวะจะโคนที่แม่นยำในการเร้าอารมณ์ของผู้ชมให้รู้สึกหวาดผวากับชะตากรรมของตัวละคร ในขณะเดียวกันมันก็พร้อมผ่อนคลายคนดูจากความตึงเครียดด้วยมุกตลกร้ายสุดแสบ ที่ส่วนมากนำมาใช้จิกกัดวัฒนธรรมของคนอเมริกา  

 

ถ้าหากเรามองในแง่ของการหาประเด็นที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังความบันเทิง เราจะพบว่าหนังหยิบเอาเรื่องอเมริกันดรีม (ความฝันอันสูงสุดของชนชั้นกลาง) วัฒนธรรมป๊อปที่ส่งผลต่อวิถีชีวิตและแนวคิดของผู้คนอเมริกัน บุคคลที่ถูกลืมและไม่ได้รับการเหลียวแลจนต้องลุกขึ้นมาเรียกร้องในสิทธิของตัวเองด้วยการใช้ความรุนแรง การจิกกัดวิธีแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของรัฐบาลอเมริกา และอีกมากมายหลายประเด็น ขึ้นอยู่กับที่ว่าผู้ชมเลือกที่จะตีความหมายรายละเอียดปลีกย่อยที่อยู่ในหนังในแง่ไหน

 

เพราะไม่ว่าผู้ชมจะมองหาความบันเทิงหรือแนวคิดต่างๆ Us เป็นหนังที่ตอบสนองอรรถรสทั้งสองด้านของผู้ชมได้อย่างเต็มที่เช่นกัน