รีวิว Pet Sematary เมื่อความรักบดบังตา
ผลงานสยองขวัญที่มาจากปลายปากกาของนักเขียนอย่างสตีเฟ่น คิงนั้น มักจะหยิบเอาความกลัวที่เกี่ยวพันกับเรื่องราวของครอบครัวมาเป็นแกนหลักของเรื่องอยู่เสมอๆ โดย Pet Sematary ในเวอร์ชั่นล่าสุดนี้โฟกัสไปที่ตัวละคร 4 ตัวอันประกอบไปด้วยนายแพทย์หลุยส์ ครีด (เจสัน คลาร์ก) เรเชล (เอมี่ เอมี่ ซีเมทซ์) ภรรยาของหลุยส์ แอลลี่ลูกสาวแสบซนในวัย 8 ขวบ และจั๊ด แครนดัลล์ (จอห์น ลิธโกว)
หนังพูดถึงหลุยส์ที่ตัดสินใจย้ายงานจากในเมืองใหญ่ เพื่อไปทำงานที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยย่านชานเมือง เพียงเพราะเขาอยากจะมีเวลาอยู่กับครอบครัวให้มากขึ้น และไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางรวมไปถึงแบกภาระในค่าใช้จ่าย แม้ว่าภรรยาของเขาอย่างเรเชลอาจจะไม่ได้ต้องการย้ายมาอยู่สถานที่ไกลปืนเที่ยงขนาดนี้ เพราะดูเหมือนว่าบ้านชานเมืองแห่งนี้ดูจะห่างไกลความเจริญพอสมควร ไม่ใช่แค่ความเจริญเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งมีชีวิตที่ดูอยู่ใกล้ตัวพวกเขาที่สุดมีแค่เพียงจั๊ด แครนดัลล์ เพื่อนบ้านที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก
วูบแรกที่สองสามีภรรยาย้ายมาถึง พวกเขาก็ต้องตกใจที่ถนนเส้นหลักหน้าบ้านของพวกเขาเป็นเส้นทางสำหรับรถบรรทุกที่มักจะวิ่งด้วยความเร็วสูง ส่งผลให้เหล่าสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยที่ข้ามถนนไปยังป่าตรงข้ามมักจะโดนรถชนเสียชีวิต หนังจึงเผยให้คนดูเห็นต่อว่าสัตว์ที่เสียชีวิตนั้นจะถูกนำไปฝังไว้ที่สุสานสัตว์เลี้ยง ซึ่งอยู่บริเวณหลังบ้านของหลุยส์นั่นเอง
เหตุการณ์กลับมาโฟกัสที่ตัวละครหลุยส์เมื่อเขาค้นพบว่า เด็กชายในมหาวิทยาลัยที่ประสบอุบัติเหตุโดนรถชนจนเสียชีวิต กลายเป็นวิญญาณที่พยายามจะบอกเล่าถึงลางร้ายซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นกับตัวหลุยส์ในไม่ช้า เช่นเดียวกับเรเชลที่ยังโดนอดีตในวัยเด็กตามหลอกหลอน เมื่อเธอยังคงโทษตัวเองว่าการตายของพี่สาวเธอนั้น เป็นเพราะข้าวเย็นมื้อเดียวที่เธอไม่ยอมยกขึ้นไปให้ แต่ใช้ลิฟต์ส่งของแทน เสียงครืดคราดตามผนังบ้านและเสียงท่อน้ำลั่นจึงสร้างความหวั่นวิตกให้แก่เธอเป็นประจำ
ความเลวร้ายเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเมื่อแมวของแอลลี่ถูกรถชนตายและเสียชีวิต หลุยส์กลัวว่าลูกสาวจะเสียใจ เขาจึงทำตามคำแนะนำของจั๊ดในการเอามันไปฝังในเขตลึกเลยสุสานสัตว์เลี้ยงไปอีก เช้าวันรุ่งขึ้นเจ้าแมวเชิร์ชกลับมาเดินตามปกติอีกครั้ง นั่นเริ่มทำให้หลุยส์เริ่มเข้าใจได้ทันทีว่าความพร่าเลือนระหว่าง สิ่งที่เขาเรียนรู้มาทั้งชีวิตการเป็นหมอกับสิ่งที่ตายแล้วลุกขึ้นมามีลมหายใจอีกครั้ง แต่นั่นยังไม่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของหลุยส์เมื่อลูกสาวอย่างแอลลี่ต้องประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิต
การตัดสินใจในการชุบชีวิตลูกสาวของหลุยส์เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาตัดสินใจจะนำศพของลูกสาวไปฝังไว้ในที่เดียวกับหลุมศพของแมวแอลลี่ แต่กว่าที่เขาจะตระหนักได้ว่า นี่เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ก็เมื่อเขาล่วงรู้ว่า ลูกสาวที่ลุกขึ้นมามีชีวิตอีกครั้ง ไม่ใช่ลูกสาวคนเดิม หลุยส์ก็ตระหนักได้ว่า เพราะความรักได้บดบังความเป็นจริงของชีวิตที่ว่า เมื่อบางสิ่งที่สูญเสียไปแล้ว เราก็ไม่ควรฝืนธรรมชาติเพื่อนำมันกลับมา