Wanda Vision สการ์เล็ต วิทช์และวิชชั่นได้ไปต่อในซีรีส์ของ Disney+

Wanda Vision สการ์เล็ต วิทช์และวิชชั่นได้ไปต่อในซีรีส์ของ Disney+

Wanda Vision สการ์เล็ต วิทช์และวิชชั่นได้ไปต่อในซีรีส์ของ Disney+
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

 

เหนือความคาดหมายอยู่ไม่น้อยที่ตัวละครอย่าง “สการ์เล็ต วิทช์และวิชชั่น” จะได้มีซีรีส์เป็นของตัวเองบนช่องสตรีมมิ่งอย่าง Disney+ ภายใต้ชื่อเรื่องอย่าง WandaVision และช่วงเวลาที่ซีรีส์จะดำเนินไปอาจจะอยู่ในช่วงยุคสมัยของปี 1950 แม้จะยังไม่ได้มีการยืนยันออกมาอย่างเป็นทางการว่าทำไมเรื่องราวจะเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น

 

จากบทสัมภาษณ์ของอลิซาเบธ โอลเซ่น ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ เอาไว้ว่า ในคอมมิกส์นั้นมีหลายเล่มอยู่เหมือนกันที่บอกเล่าเรื่องราวของตัวละครวิชชั่นและสการ์เล็ต วิทช์ ซึ่งนั่นน่าจะเปิดโอกาสให้กับ Disney+ หยิบเอาเรื่องราวมานำเสนอ นอกจานี้หลังจากที่เราได้พูดคุยกับทาง Disney+ ยังเผยรูปตัวละครที่เราแสดงในยุค 50 ซึ่งฉันว่ามันเจ๋งไปเลย พอล เบททานี่และฉันตื่นเต้นมากทีเดียว

 

อลิซาเบธ โอลเซ่น ยังกล่าวต่ออีกว่า ในซีรีส์เรื่องนี้มีทีมเขียนบทเจ๋งๆเยอะเลยค่ะ และความยาวรวมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 6 ชั่วโมง และเราน่าจะเริ่มถ่ายทำกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในปีนี้ แน่นอนว่าสองนักแสดงอย่างพอล เบททานี่และอลิซาเบธ โอลเซ่น จะกลับมารับบทบาทเดิมนั่นก็คือวิชชั่นและสการ์เล็ต วิทช์ ซึ่งผู้ชมน่าจะมีโอกาสได้เห็นแง่มุมเรื่องความรักของตัวละครทั้งสองตัวนี้ แต่คำถามอยู่ตรงที่ว่ายุคสมัยที่ย้อนกลับไปในปี 1950 นั้น ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างแน่ชัดว่าทำไมต้องเป็นช่วงเวลานี้

 

 

แจ็ค ไชฟ์เฟอร์ มือเขียนบทจาก Captain Marvel จะกลับมานั่งแท่นเขียนบท ควบคุมการผลิตและดูแลภาพรวมของซีรีส์ WandaVision ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการสู่สายตาคนดูในช่วงวันที่ 12 พฤศจิกายน ปีนี้ นอกจากนี้ซีรีส์ที่เป็นความร่วมมือกันระหว่างมาร์เวล สตูดิโอและดิสนีย์ที่ได้รับการยืนยันว่าจะถูกสร้างขึ้นอย่างแน่นอนจะประกอบไปด้วย Loki ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ โลกิ (ตัวร้ายสุดที่รักตลอดกาลของจักรวาลมาร์เวล) ซึ่งแน่นอนว่าจะได้ทอม ฮิดเดิลสตันกลับมารับบทบาทเดิม ซึ่งได้ริคและมอร์ตี้ มานั่งแท่นผู้เขียนบท ส่วนไมเคิล วาลดรอน มารับหน้าที่ในการดูแลภาพรวมของซีรีส์ นอกจากนี้ตัวละครที่จะได้มีซีรีส์เป็นของตัวเองก็คือ Hawkeye ที่นำแสดงโดยเจรามี เรนเนอร์ และ Falcon and Winter Soldier เป็นซีรีส์ที่ได้ดาราอย่างแอนโธนี่ แม็กกี้และเซบาสเตียน สแตน กลับมาจับคู่รับบทบาทเดิมในซีรีส์ของตัวเอง ก็ได้รับการยืนยันออกมาอีกเช่นกัน

 

 

สำหรับสตรีมมิ่งอย่าง Disney+ นั้นเป็นช่องน้องใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้ามาทำตลาดหนังออนไลน์แบบชำระค่าสมาชิกรายเดือน โดยในแวดวงธุรกิจมองว่า Disney+ จะเป็นตัวแปรคู่แข่งรายสำคัญกับสตรีมมิ่งที่ครองตลาดอยู่ในเวลานี้อย่าง Netflix และ Amazon

 

สำหรับรายละเอียดคร่าวๆของสตรีมมิ่งอย่าง Disney+ ที่ได้รับการเผยแพร่ออกมาคร่าวๆคือจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 พฤศจิกายน ในปี 2019 โดยอัตราค่าสมาชิกอยู่ที่ $6.99 ต่อเดือน หรือราว 320 บาทเมื่อคิดเป็นเงินไทย โดยคอนเทนท์ที่จะอยู่ในสตรีมมิ่งนั่นจะมาจากบรรดาสตูดิโอที่เป็นพันธมิตรของดิสนีย์เองอันประกอบไปด้วย Walt Disney Animation, Pixar, Marvel, Star Wars และ National Geographic รวมไปถึงสตูดิโอในเครือล่าสุดอย่าง Fox ด้วย

 

 

โดยหนังที่จะลงสตรีมมิ่งอย่างเป็นทางการเริ่มตั้งแต่วันเปิดตัวบริการจะประกอบไปด้วย Captain Marvel แอนิเมชั่นคลาสสิคตลอดกาลของดิสนีย์อย่าง Bambi, The Lion King และ The Little Mermaid ไลฟ์แอ็คชั่นอย่าง  Mary Poppins และ Alice in Wonderland (2010) รวมไปถึงแอนิเมชั่นทุกเรื่องของ Pixar และหนังสั้นของพิกซาร์ทุกเรื่องด้วยเช่นกัน

 

Disney+ ยังรองรับระบบดาวน์โหลดหนังเอามาไว้ดูเวลาที่เราออฟไลน์จากอินเตอร์เน็ตได้ (แบบเดียวกับ Netflix) รองรับการสร้างโปรไฟล์ของผู้ใช้ด้วยการเลือกอวตารจากคาแรกเตอร์ยอดนิยมจากดิสนีย์ และแผนการตลาดที่สำคัญคือ Disney+ จะทำตลาดให้ครบทุกภูมิภาคทั่วโลกภายในเวลา 2 ปี

 

 

สำหรับภาพยนตร์ที่สร้างมาเพื่อช่องสตรีมมิ่ง Disney+ โดยเฉพาะนั้น ในล็อตแรกจะประกอบไปด้วย

 

Timmy Failure ผลงานการกำกับของทอม แม็คคาร์ธีย์ (Spotlight) ว่าด้วยเด็กชายวัย 11 ขวบที่เขาเชื่อว่าตัวเองเป็นนักสืบที่เก่งที่สุดในเมือง!

Togo ผลงานการกำกับของอีริคสัน คอร์ และนำแสดงโดยวิลเลียม เดโฟ  ดัดแปลงมาจากเรื่องจริง เกี่ยวกับสุนัขลากเลื่อนที่ชื่อโทโก้ในปี1925

Lady and the Tramp ในเวอร์ชั่นไลฟ์แอ็คชั่น

Noelle หนังตลกต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส นำแสดงโดยแอนนา เคนดริกและบิลล์ เฮเดอร์

Stargirl หนังที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายสำหรับเยาวชนในชื่อเดียวกัน

 

 

นอกจากนี้ Disney+ ยังนำเอาบรรดาทีวีซีรีส์ดังๆที่เคยออกฉายทางดิสนีย์ชาร์แนลและรายการมากมายเอามาสตรีมมิ่งอีกครั้ง ยังไม่รวมไปถึงหนังทีวีเรื่องดังที่เป็นประวัติการณ์เมื่อ 10 กว่าปีก่อนอย่าง High School Musical นำกลับมารีเมคสร้างใหม่เป็นซีรีส์อีกครั้งภายใต้ชื่อ High School Musical: The Musical

 

เอาเป็นเวลาเมื่อถึงเวลาเปิดตัวของสตรีมมิ่ง Disney+ แฟนๆของมาร์เวลและดีสนีย์ที่อยากเห็นตัวละครที่ตัวเองชื่นชอบก็เตรียมเงินเอาไว้ให้พร้อมสมัครสมาชิกกันเลยก็แล้วกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook