[สปอยล์] กรงกรรม ตอนจบ ... ใจไม่แข็งอย่าอ่าน!!!
เรื่องราวแห่งบ้านแบ้ในละคร กรงกรรม กำลังจะมาถึงบทสรุปที่ทุกคนรอคอย ก่อนที่จะไปเจอความดราม่าส่งท้ายคืนนี้ ไปติดตามเรื่องราวคร่าวๆ ของ กรงกรรม ตอนจบ กันก่อนดีกว่า แล้วมาเกาะจอทีวีพร้อมกัน 30 เมษายน คืนนี้ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 33
เมื่อเรณูย้ายมาก็เปิดร้านขายข้าวเกรียบปากหม้อเพื่อหารายได้ ฝ่ายอาใช้ปลดทหารก็กลับไปบ้าน พร้อมกับอรพรรณี อาใช้ตั้งใจจะมา ตกลงกับเรณูเรื่องลูกและเมียใหม่ของเขา แต่เรณูย้ายไปแล้วจึงไม่ได้เจอกัน อาใช้กราบลาย้อย ขอไปใช้ชีวิตอยู่กับอรพรรณี อาใช้ออกจากบ้านแบ้ไปแล้วจริง ๆ อาซาพาจันตากลับมาเยี่ยมย้อยในเวลาต่อมา อาซากับจันตาค้าขายจนตั้งตัวได้ และมีความสุขมาก ย้อยจึงยกตึกแถวของตนที่ปากน้ำโพให้ทั้งสอง และตั้งใจว่าตนจะย้ายไปอยู่ด้วยเพราะใกล้โรงพยาบาลมากกว่าที่ชุมแสง ส่วนอาตงนั้นให้ดูแลกิจการทั้งหมดที่มีในชุมแสงต่อไป
3 ปีต่อมา ย้อยก็เหมือนมีลูกเล็กอีกคน เพราะมาลาคลอดลูกแล้วมาทิ้งไว้ให้เลี้ยง ส่วนมาลากลับไปแต่งงานที่เขากะลา อาตงแต่งงานกับบุญปลูก อาซาแต่งงานกับจันตา วรรณาได้แต่งงานกับปลัดจินกร เรณูรับป๊อกมาอยู่ด้วยกันที่ร้านที่พยุหะคีรี โดยมีกิจการขายขนมไทย ข้าวเกรียบปากหม้อ และสาคูไส้หมูที่เป็นไปได้ด้วยดี ฝั่งอาใช้ แม้จะได้เรียนสูงและไปทำงานในบริษัทของ อรพรรณี มีลูกด้วยกัน 1 คน แต่เขาไม่มีความสุขเลย อรพรรณีเที่ยวเล่นทุกวัน เขาลาไปเยี่ยมแม่ที่บ้านและบังเอิญได้พบกับเรณูที่มาเยี่ยมย้อยเช่นกัน ทั้งคู่ได้เจอกันและปรับความเข้าใจกัน
บั้นปลายชีวิต เบาหวานของย้อยกำเริบหนักจนต้องตัดขาทิ้ง ระหว่างพักฟื้น อาใช้ตั้งใจขับรถกลับมาเยี่ยมแม่ แต่เกิดอุบัติเหตุรถชนจนบาดเจ็บสาหัส ย้อยได้ยินข่าวก็ช็อกจนขาดใจตายในวัย 51 ปี อรพรรณีได้ยินข่าวอุบัติเหตุเห็นว่ารักษาไปก็ไม่หายเป็นปกติแน่ จึงปฏิเสธเรื่องการช่วยเหลือทางการเงินใดๆ อาใช้และอาซาจึงตัดสินใจจำนองที่ดินที่ย้อยแบ่งให้อาใช้จนหมดเพื่อเป็นค่ารักษา อาใช้รักษาตัวอยู่ 3 ปีก็กลับมาเป็นปกติโดยมีเรณูคอยดูแล ทั้งสองคนช่วยกันขยายกิจการร้านขนมของเรณูจนเปิดโรงงานขนมได้ และอยู่กันอย่างมีความสุข
อัลบั้มภาพ 19 ภาพ