รีวิว Teen Spirit ฝันเล็กๆของสาวบ้านนา
กระแสของ Avengers: Endgame ค่อยเริ่มซา เปิดโอกาสให้หนังเรื่องอื่นๆที่มีคิวเข้าฉายได้มีโอกาสหายใจหายคอบ้าง แต่ก็ไม่ใช่สำหรับ Teen Spirit โดยหลังจากเข้าฉายในบ้านเราแค่เพียงวันแรก ก็โดนลดรอบฉายฮวบฮาบ อย่างไรก็ตามถ้ามีโอกาส เราก็อยากจะแนะนำหนังสำหรับวัยรุ่นที่มีการแสดงที่น่าสนใจ มีเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ไพเราะติดหู
Teen Spirit เล่าเรื่องราวของไวโอเล็ต (แอลล์ แฟนนิ่ง) สาววัยรุ่นขี้อาย ที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครในโรงเรียน โดยหนังเผยให้เห็นว่า ครอบครัวของเธอประสบปัญหาขาดแคลนเงิน ทำให้ไวโอเล็ตต้องทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนเพื่อจุนเจือครอบครัว ซึ่งแม่ของเธอก็ดูเหมือนติดการพนันและติดเหล้า อย่างไรก็ตามความฝันเล็กๆของไวโอเล็ตคือการได้ร้องเพลงให้คนอื่นได้ฟัง กระทั่งวันหนึ่งเธอเหลือบไปเห็นป้ายประกาศเข้าร่วมออดิชั่น Teen Spirit รายการทีวีประเภทเรียลลิตี้เฟ้นหานักร้องวัยรุ่นในประเทศอังกฤษที่มีความสามารถอันโดดเด่น เพื่อคว้าเงินรางวัลมหาศาลและได้ออกอัลบั้มเป็นของตัวเอง
แน่นอนว่า Teen Spirit เป็นหนังในกลุ่มวัยรุ่นตะกายฝัน ซึ่งผู้ชมก็คงผ่านตากับหนังแนวนี้มานับครั้งไม่ถ้วนเช่นกัน แต่ความพิเศษของหนังเรื่องนี้กลับอยู่ที่ว่า หนังเลือกจะโฟกัสชีวิตอันแสนราบเรียบของไวโอเล็ต ซึ่งต้องเผชิญหน้ากับปัญหาชีวิตช่วงวัยรุ่น ไปเรียนหนังสือ ทำงานพิเศษ รับมือกับสภาพครอบครัวที่ไม่ได้อบอุ่น มิหนำซ้ำ ห่างไกลจากความศิวิไลซ์ในเมืองใหญ่ ซึ่งตัวหนังเล่าว่าบ้านของนางเอกนั้นเกิดขึ้นที่เมือง ไอล์ออฟไวท์ เกาะเล็กๆ ของประเทศอังกฤษ ก็เป็นอีกหนึ่งสภาวะที่ทำให้ตัวละครนี้รู้สึก “ด้อย” กว่าคนอื่นๆ
ความทุกข์ของตัวละครไวโอเล็ตนั้นถูกถ่ายทอดให้คนดูรับรู้สภาวะที่เธอต้องเผชิญ เธอเป็นเหมือนวัยรุ่นที่ต้องการจะหาใครสักคนรับฟังปัญหาในชีวิตของเธอ แต่เธอก็เลือกจะอยู่กับตัวเอง เพราะเธอเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากจะรับฟังปัญหา การที่ไวโอเล็ตแต่งเพลงด้วยตัวเองขึ้นมา ก็เป็นเหมือนการปลดปล่อยเรื่องราวในชีวิตผ่านบทเพลงเช่นกัน
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือตัวละครอย่างวแลด (มาริอุส เดอวรีส์) อดีตนักร้องเพลงโอเปร่าที่ตกอับกลายเป็นชายติดเหล้า ที่บังเอิญพบไวโอเล็ตที่บาร์แห่งหนึ่ง ซึ่งไวโอเล็ตมักจะมาร้องเพลงเพื่อหารายได้พิเศษ ทันทีที่เขาได้ฟังเสียงของเธอ วแลดรู้ทันทีว่าเด็กหญิงคนนี้มีศักยภาพที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้ การที่เขาเสนอตัวมาเป็นโค้ช (และผู้จัดการ) เปรียบเสมือนการรื้อฟื้นไฟที่เคยมอดดับในอาชีพการงานให้กลับมาอีกครั้งหนึ่งเช่นกัน
ระหว่างทางของเรื่อง Teen Spirit ก็ไม่ได้ตะบี้ตะบัน เร้าอารมณ์ผู้ชมในส่วนการแข่งขันร้องเพลงของนางเอก แต่เลือกจะตามติด ทุกห้วงความรู้สึกของไวโอเล็ต ที่กำลังต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแบบปุบปับ รวดเร็วจนบางครั้งตัวเธอก็รับมือไม่ถูก ยกตัวอย่างเช่น โมเมนต์ที่สะกดสายตาผู้ชมมากที่สุดคือช่วงเวลาที่เธอกำลังจะเดินขึ้นเวทีแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งหนังก็ใช้วิธีการถ่ายแบบลองเทคตามติดตัวละครนี้ ว่าเธอกำลังรู้สึก ครุ่นคิดอะไรอยู่ และจัดการอารมณ์ของตัวเองอย่างไร ซึ่งตัวนักแสดงอย่างแอลล์ แฟนนิ่งก็เล่นออกมาได้น่าเชื่อถือ และนำพาผู้ชมให้รู้สึกไปในทิศทางเดียวกับตัวละครเช่นกัน
Teen Spirit จึงเป็นหนังพล็อตสูตรสำเร็จที่น่าสนใจกว่า ด้วยการพาเราไปสำรวจห้วงชีวิตของตัวละครวัยรุ่นที่กำลังตั้งคำถามและกำลังหาทางออกให้กับชีวิตในแง่มุมที่เหมาะสมได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว