The Hustle คอมเมดี้อย่างจริงจัง

The Hustle คอมเมดี้อย่างจริงจัง

The Hustle คอมเมดี้อย่างจริงจัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แรกเห็นตัวอย่างหนังเรื่องนี้ก็ยอมรับเลยน่าดูมาก การที่เลือกเอา แอนน์ แฮทธาเวย์ มาจับคู่กับรีเบล วิลสัน สาวอ้วนขาฮาแห่งยุคนี้ เป็นไอเดียที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นคู่ที่มีทั้งความเหมือนและความแตกต่าง รีเบล วิลสัน นี่แจ้งเกิดมากับบทสาวอ้วน เล่นฮาแบบบ้าหลุดโลก และก็ยังไปได้ดีกับลุคแบบนี้ ส่วนแอนน์ นี่มาในลุคไฮโซ เริด เชิด หยิ่ง ซึ่งเป็นแนวถนัดของเธอเลย และเธอก็ผ่านการรับทหนังคอมมีดี้มาบ้างแล้ว แม้กระทั่งผลงานล่าสุดอย่าง Ocean8 ที่ว่าด้วยการจารกรรมต้มตุ๋นเช่นเดียวกับ The Hustle พอมาเรื่องนี้ที่ต้องเล่นแบบคอมมีดี้แบบสบาย ๆ ก็เลยไม่ใช่งานยากหรือแปลกใหม่สำหรับเธอ

The Hustle ในชื่อไทย “โกงตัวแม่” ก็เล่าเรื่องราวของสาว 18 มงกุฏตามชื่อหนังนั่นล่ะ โดยเนื้อหานั้นดัดแปลงมาจากหนังคลาสสิค “Dirty Rotten Scoundrels” (1988) กลับกันตรงที่ว่าเวอร์ชั่นเดิมนั้นตัวละครนำเป็นชาย แล้วก็เอามาเปลี่ยนเป็นหญิงเสียแทน หนังเปิดเรื่องด้วยการแนะนำตัว เพนนี รัสต์ สาว18มงกุฏระดับตลาดล่างที่หลอกตอดเล็กตอดน้อยเหยื่อเพศชายไปวัน ๆ จากนั้นก็ย้ายมาแนะนำตัว โจเซฟิน 18มงกุฏตัวแม่ ที่เพียบพร้อมไปด้วยรูปลักษณ์ที่สวยสง่า เธอเลยจ้องตะครุบเฉพาะเหยื่อที่เป็นมหาเศรษฐีเท่านั้น แต่แล้วเพนนี ก็เลือกที่จะข้ามน้ำข้ามทะเลมาหากินในเมืองตากอากาศในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นถิ่นหากินของโจเซฟิน ซึ่งเจ้าถิ่นก็พยายามกำจัดผู้บุกรุกให้ออกไปจากดินแดนของเธอ

ครี่งแรกของหนังหนักไปกับการแนะนำตัวของแต่ละฝ่าย ต่อด้วยการที่เพนนียอมรับนับถือในฝีมือของโจเซฟิน และขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ก็เล่าเรื่องราวหลุดโลกโปกฮาไปได้เรื่อย ๆ เนื้อหามาเข้มข้นขึ้นในช่วงหลัง เมื่ออาจารย์และลูกศิษย์เกิดขัดคอกันและลงเอยด้วยการแข่งขันกันหลอกเอาเงินจากเป้าหมายรายเดียวกัน ใครหลอกเอาเงินมาได้ก่อนชนะ ก็เป็นช่วงที่บทเปิดโอกาสให้สอดแทรกมุกฮาลงไปได้มาก มีอยู่ฉากที่อัดมุกได้แน่น ได้เสียงหัวเราะต่อเนื่องกันยาวนาน เป็นมุกซกมกที่ชวนให้คิดถึงมุกแบบนี้ในหนังน้าค่อม โก๊ะตี๋ จตุรงศ์ อะไรแบบนั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นมุกแบบนี้ในหนังฮอลลีวู้ดซึ่งมุกส่วนใหญ่ก็มาจากรีเบล วิลสัน ขาเดิมนั่นแหละ ที่เธอยังใช้ประโยชน์จากร่างตุ้ยนุ้ยและแสดงออกด้วยท่าทางบ้า ๆ บอ ๆ ก็ได้เสียงหัวเราะกลับไปทุกที

dirty rotten scoundrels (1988) หนังต้นแบบของเรื่องนี้

แม้ว่าบทหนังจะอิงจาก Dirty Rotten Scoundrels แต่ก็อิงแค่พลอตหลัก แต่รายละเอียดของเรื่องราวแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงแล้วก็ให้ผลลัพธ์ที่คุณภาพต่างกันลิบลับ ทั้งในด้านความสมเหตุสมผล และลีลาชั้นเชิงการหลอกเหยื่อของ 2 สาว ที่คิดตามแล้วก็ไร้ตรรกะความสมจริง ทำให้หนังตระกูล Ocean ที่ว่าด้วยการรวมหัวจารกรรมนั้นดูเป็นหนังสาระจริงจังขึ้นมาทันที เมื่อมาเทียบกับ The Hustle เหยื่อทุกรายในหนังล้วนเป็นชายที่มีเงินแต่ช่างไร้สมอง ก็เลยทำให้มองในมุมกลับว่าที่แผนของพวกเธอประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่เพราะแผนการที่ฉลาดรัดกุม แต่เป็นเพราะเจอเหยื่อไร้สมองต่างหาก

ทีเด็ดของหนังที่จบแบบหักมุมนั้น Dirty Rotten Scoundrels เผยมาได้แบบชวนอึ้ง ทึ่งกับความแยบยลของผู้เขียนบท แต่พอมาเป็นบทของ The Hustle เฉลยมาก็ชวนอึ้ง แต่จิ๊กซอว์ที่วางมากลับรู้สึกค้างคาอยู่ในหัวถึงความไม่ลงตัวของเรื่องราวที่ปูมา ทำให้มีคำถามตามมามากมาย แต่สุดท้ายด้วยโจทย์ที่ว่านี่คือหนังคอมมีดี้ ก็กลายเป็นเหตุผลที่หักล้างความไม่สมเหตุสมผลนั้นเสียหมด ก็ต้องเตือนตัวเองว่านี่คือหนังตลกเอาฮาเป็นหลัก เราไม่ควรมาคิดเล็กคิดน้อยตามหาเหตุผลความสมจริงในหนัง

ถ้าต้องมองหาข้อดีของหนังว่ามีอะไร เหตุผลโดดเด่นก็คือ แอนน์ แฮทธาเวย์ ที่ปรากฏตัวมาได้เฉิดฉาย สวยเด่น ในหลาย ๆ ชุด ถ้าไม่มีเธอ The Hustle ก็น่าจะออกมาเป็นแผ่นดีวีดี หรือฉายทางช่องสตรีมมิ่งไปเลยจะเหมาะกว่า และ The Hustle ก็น่าจะกลายเป็นหนังที่ได้คะแนนต่ำสุดในเครดิตการแสดงของแอนน์เลยก็ว่าได้ แม้พิจารณาในด้านหนังตลก มีหลาย ๆ มุกยิงติด แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นมุกทะลึ่ง ลามก ที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะเห็นมุกเหล่านี้ในหนังที่เน้นขาย แอนน์ แฮทธาเวย์ และ รีเบล วิลสัน เพราะหน้าหนังก็ไม่ได้สื่อไปทางนั้นเลย ส่วนดีอื่น ๆ ก็ยกให้การเล่าเรื่องที่ลื่นไหล  รีเบล ที่ได้บทเข้าทางเล่นได้อย่างปลดปล่อยเต็มที่ ฉากจบที่หักมุมชวนเหวอ ก็ถือว่า The Hustle เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับการเสียเงินแลกเสียงหัวเราะในโปรแกรมหลัง End Game ถ้าเจอเนื้อหาที่มันไม่สมเหตุสมผล ก็รีบเตือนตัวเองครับ “นี่มันหนังตลก นี่มันหนังตลก”

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook