รีวิวซีรีส์ Dead to Me หลังจากผัวเธอตาย ฉันก็ตีซี้เป็นเพื่อนสนิท
สำหรับคนที่รอคอยซีรีส์แซ่บๆ มีตัวละครเดินเรื่องเป็นผู้หญิงที่ต่างก็กุมความลับบางอย่างเอาไว้ ให้คนดูลุ้นว่าเมื่อไหร่ความจะแตก เรื่องจริงจะปรากฏ Dead to Me คือซีรีส์ทาง Netflix แบบเผ็ดๆ ที่คุณต้องไม่พลาด แถมแต่ละตอนก็ไม่ได้ยาวยืดจนต้องอดหลับอดนอน ตื่นเช้าขอบตาดำกลายเป็นหมีแพนด้าไปทำงาน เพราะความยาวในแต่ละ EP นั้นอยู่ที่ 27-29 นาทีโดยประมาณ และในซีซั่นแรกมีทั้งหมด 10 EP ด้วยกัน
Dead to Me บอกเล่าเรื่องราวของจูดี้ เฮล (ลินดา คาเดลลินี) หญิงวัยกลางคนที่บังเอิญเธอขับรถชนคนตาย แต่เพราะกลัวความผิดทำให้เธอหนี โดยปล่อยให้คนที่โดนรถชนนอนตายอยู่ตรงนั้น จูดี้มาสมัครเข้าร่วมกลุ่มบำบัดอาการโศกเศร้า ทำให้เธอได้พบกับ เจน (คริสตินา แอปเปิ้ลเกต) แม่ม่ายปากร้ายซึ่งเธอได้เผยให้กลุ่มบำบัดทราบว่า สามีของเธอเพิ่งจากไปจากอุบัติเหตุชนแล้วหนี!
จูดี้รู้ทันทีว่านี่อาจจะเป็นทั้งโอกาสที่เธอจะได้ไถ่บาปและเยียวยาตัวเองไปพร้อมๆกัน เธอจึงพยายามตีสนิทกับเจน แม้ว่าตอนแรกเจนจะไม่รับแขกสักเท่าไหร่ก็ตาม แต่ด้วยความอัธยาศัยดีและมากอารมณ์ขันของจูดี้ เธอจึงเปิดรับผู้หญิงคนนี้เข้ามาในชีวิตทันที
ระหว่างซีรีส์ผู้ชมจะได้ร่วมลุ้นไปกับจูดี้ว่า เมื่อไหร่เธอจะความแตก และเจนที่พยายามทุกวิถีทางในการสืบหาเบาะแสว่าใครกันคือคนที่ขับรถชนสามีของตัวเอง โดยแต่ละตอน เราก็จะได้ลุ้นไปกับเหตุการณ์ที่สุ่มเสี่ยงว่าจูดี้จะโดนจับได้เมื่อไหร่
นอกเหนือจากอารมณ์ตื่นเต้น ลุ้นระทึกแล้ว ซีรีส์นี้ยังพาผู้ชมไปสำรวจห้วงอารมณ์ความสูญเสีย ความเศร้าโศก อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เจน พยายามประคับประคองชีวิตครอบครัวที่เธอค้นพบว่าลูกชายทั้งสองนั้นต้องการพ่อมากกว่าแม่ หรือกระทั่งความลับของสามีที่เริ่มตอผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ว่า จริงๆ แล้วเขาอาจจะไม่ได้เป็นคนที่ควรได้รับความยุติธรรมในชีวิตเลยก็ตาม เช่นเดียวกันกับตัวละครอย่างจูดี้ ที่เหตุการณ์รถชนนั้นยังคงตามหลอกหลอนเธออยู่ตลอดเวลา ในยามที่เธอหลับใหล มันเป็นเหมือนฝันร้ายที่ไม่มีวันจบสิ้นลง ประกอบกับเหตุผลที่เธอเลิกรากับแฟนหนุ่มมหาเศรษฐีอย่างสตีฟ (เจมส์ มาร์สเดน) เพราะเหตุผลทางร่างกายบางประการ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นแง่มุมที่น่าสนใจที่ทำให้ผู้ชมได้มองเห็นความเป็นมนุษย์ของตัวละครทั้งสองมากยิ่งขึ้น
Dead to Me จึงเป็นซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวน ตลกร้าย แฝงแง่คิดในการใช้ชีวิตของผู้หญิงวัยกลางคนที่ต้องแบกรับภาระหน้าที่ในการงาน ครอบครัว การบริหารจัดการชีวิตให้ลงตัว รวมไปถึงการรับมือกับผลของการตัดสินใจที่ผิดพลาดจนนำมาซึ่งปัญหาอันใหญ่ยิ่ง จนเราอาจจะรับมือไม่ทันเลยก็ได้
