X-men: Dark Phoenix จุดสูงสุดของมนุษย์กลายพันธุ์

X-men: Dark Phoenix จุดสูงสุดของมนุษย์กลายพันธุ์

X-men: Dark Phoenix จุดสูงสุดของมนุษย์กลายพันธุ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับ X-men: Dark Phoenixจะเป็นหนังภาคสุดท้ายของมหากาพย์ X-Men ซึ่งแกนหลักของหนังภาคนี้จะเน้นในส่วนเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของตัวละครจีน เกรย์ จากมนุษย์กลายพันธุ์ผู้มีพรสวรรค์สู่การเป็นผู้ที่มีพลังสูงสุดในจักรวาล และอาจจะนำไปสู่ผลกระทบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมนุษย์กลายพันธุ์ที่เธอเคยสั่งสมมา

ชนวนของความเปลี่ยนแปลง

หนังภาคนี้เริ่มต้นที่ภารกิจเสี่ยงตาย ระหว่างที่กลุ่มเอ็กซ์เมนออกไปนอกอวกาศ จีน เกรย์ เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดหลังจากที่เธอได้รับคลื่นรังสีความร้อน ซึ่งร่างกายของเธอดูดซับเอาไว้ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม ส่งผลให้เธอมีพลังงานในตัวเองมากกว่าปกติ เมื่อเธอเดินทางกลับมายังโลก จีนเริ่มรู้สึกถึงร่างกายของตัวเองที่เปลี่ยนแปลงไป เธอรู้สึกได้ว่าพลังงานในร่างกายเธอมีมากเกินกว่าจะควบคุม ส่งผลให้พลังดังกล่าวเริ่มส่งผลร้าย เมื่อเธอเริ่มทำร้ายคนรอบข้างโดยที่ไม่รู้ตัว ความรู้สึกสับสนในตัวเองส่งผลให้กลุ่มเอ็กซ์เมนเริ่มแตกแยก และจีน ก็เริ่มเบนเข็มไปสู่ด้านมืดภายใต้ชื่อว่า “ฟีนิกซ์”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของ “ฟีนิกซ์”

ย้อนกลับไปใน X2: M-Men United ของผู้กำกับ ไบรอัน ซิงเกอร์ ในปี 2003 ในช่วงท้ายเรื่องตัวละครจีน เกรย์ (เฟมเก้ เจนเซ่น) ณ ทะเลสาบอัลคาไลน์ ได้เกิดการปะทะกันระหว่างเอ็กซ์เมนและเหล่าทหารของกลุ่มสไตร์เกอร์ การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดจนกระทั่งการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ของจีน เกรย์ในการยอมให้มวลน้ำมหาศาลจากเขื่อนที่พังถล่มซัดเข้าหาเธอ และจีนใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อรักษาชีวิตของเพื่อนคนอื่นๆ ความหม่นเศร้าจากการจากไปของจีน เกรย์ในหนังภาคนี้ ได้แย้มประเด็นถึงการกลับมาของตัวละครนี้ในฐานะ “ฟีนิกซ์” ในหนังภาคต่อไป

 

ใน X-Men: The Last Stand (2006) ตัวละครจีน เกรย์ได้กลับมาอีกครั้ง แต่เธอไม่ใช่จีน คนเดิมอีกต่อไป ความเปลี่ยนแปลงของจีน เกรย์มาจากผลของการตายแล้วฟื้น ประกอบกับพลังจิตอันแรงกล้าของเธอช่วยได้ห่อหุ้มให้จีนปลอดภัยอยู่ แต่บุคลิกที่แปรปรวนของจีน ได้สร้างความช็อคและน่าตกใจให้กับเหล่าเอ็กซ์เมนเป็นอย่างมาก ในหนังภาคนี้ ยิ่งไปกว่านั้นการแสดงพลังของฟีนิกซ์ ก็เรียกได้ว่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอโชว์พลังจิตในระดับ 5 ซึ่งเป็นพลังขั้นสูงสุด

ทำไมประเด็นฟีนิกซ์ถึงถูกนำกลับมานำเสนออีกครั้ง

ตำนานแห่งดาร์ก ฟีนิกซ์ ถูกเขียนขึ้นโดยคริส แคลร์มองต์และวาดภาพประกอบด้วยศิลปินจอห์น เบิร์น ซึ่งเนื้อหาได้ถ่ายทอดเรื่องราวของเอ็กซ์เมน โดยที่ตัวละครจีน เกรย์จะมีพลังมากขึ้น และตัวเธอเองก็ไม่อาจจะเข้าใจในพลัง เธอกลายเป็นใครที่ไม่มีใครเข้าใจและคนสนิทใกล้ตัวก็ไม่อาจเข้าถึง

เรื่องราวของดาร์ก ฟีนิกซ์ถือเป็นตอนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในซีรีส์เอ็กซ์เมน เพราะเรื่องราวในตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องการปะทะกันระหว่างฮีโร่และวายร้าย แต่มีการเจาะลึกเข้าไปถึงเรื่องราวภายในจิตใจของตัวละคร อันที่จริงหนังในเวอร์ชั่นปี 2006 ได้เคยนำเสนอบางแง่มุมของดาร์ก ฟีนิกซ์เอาไว้แล้ว แต่เวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการนำเสนอเรื่องราวความหดหู่ ความกล้าหาญ และศรัทธา กลับมาอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการเฉลิมฉลองแฟรนชายส์ X-Men ครบรอบกว่า 2 ทศวรรษ นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ตัว ไซมอน คินเบิร์ก ผันตัวจากการเขียนบทมานั่งแท่นกำกับภาพยนตร์เป็นครั้งแรกด้วย

“สิ่งที่ทำให้ผมเกิดความสนใจที่สุดและเป็นเหตุผลที่เรื่องนี้ตรงใจใครหลายคนคือมันมีความเป็นมนุษย์สูงมาก เป็นเรื่องราวของคนที่เรารักเริ่มจะปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงออกมา” คินเบิร์กกล่าว “จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ในชีวิตจริงคือคนที่พวกเขารักและรู้สึกอยากช่วยเขา ซึ่งบางครั้งเราก็ฉุดช่วยพวกเขาอย่างเต็มที่ และก็มีบางคนที่หมดหวังในตัวพวกเขา หนังเรื่องนี้ตั้งคำถามเรื่องนั้นขึ้นมาว่าเราจะยอมปล่อยและหมดหวังในตัวคนที่เรารักเมื่อไหร่”

ถึงเวลาของตัวนำเรื่องจะเป็นผู้หญิงแล้ว!

ย้อนกลับไปมองในประวัติศาสตร์หนังแฟรนชายส์ X-Men จะเห็นได้ว่ามีตัวละครเด่นที่เป็นผู้หญิงและมีความสำคัญต่อเรื่องราวไม่ว่าจะเป็นตัวละครจีน เกรย์ ซึ่งเคยรับบทโดยเฟมเก้ เจนเซ่น สตอร์ม ที่รับบทโดยฮัลลี่ เบอร์รี่ ซึ่งตัวละครเหล่านี้ล้วนมีความซับซ้อน แต่เรื่องราวของพวกเธอไม่ได้ถูกนำเสนอในแง่ของตัวละครเดินเรื่อง

ใน X-men: Dark Phoenix จึงถือได้ว่าเป็นการมุ่งความสนใจไปที่ตัวละครจีน เกรย์ รวมไปถึงผู้หญิงที่อยู่รอบตัวของตัวละครนี้ ไม่ว่าจะเป็น ตัวละครเรเวน (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) ตัวละครสมิธ (เจสสิก้า แชสเทน) ตัวร้ายประจำหนังภาคนี้ที่พยายามชักนำในจีน เกรย์ก้าวเข้าสู่ด้านมืด

การทำงานกับโซฟี เทอร์เนอร์ก่อนก้าวเข้ามารับบทฟีนิกซ์

โซฟี เทอร์เนอร์ เคยรับบทจีน เกรย์มาแล้วในหนังภาค เรื่อง X-Men: Apocalypse แต่สำหรับหนังภาคนี้เธอต้องรับมือกับความดราม่าในบทมากยิ่งขึ้น ไซมอน คินเบิร์ก ต้องพยายามอธิบายว่าตัวละครจีน เกรย์จะต้องเริ่มมีปัญหาสูญเสียความเป็นตัวเอง กลายเป็นคนสองบุคลิก กลายเป็นจีน เกรย์ที่อ่อนแอนและบอบบาง แต่ฟีนิกซ์ในตัวของเธอกลับแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ การแสดงของเธอในหนังภาคนี้จึงต้องเหมือนการทุกข์ทรมาน ราวกับคนเสียสติ เธอฆ่าคนที่เธอรัก ซึ่งเธอต้องแสดงความอ่อนไหวทางด้านอารมณ์ออกมาให้ได้มากที่สุดเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook