รีวิว Always Be My Maybe รักเธอเสมอ (มั้ง)
ความรักในวัยแรกรุ่นมักเป็นช่วงเวลาที่เราจดจำได้และยากจะลืมเลือน Always Be My Maybe เป็นผลงานรัก โรแมนติกจากสตรีมมิ่ง Netflix เลือกจะนำเสนอตัวละครที่มีเชื้อชาติเอเชียเป็นตัวเดินเรื่อง
Always Be My Maybe เล่าเรื่องราวของซาช่า (อาลี หว่อง) เชฟหญิงที่โด่งดัง เพราะฝีมือการทำอาหารอันแสนอร่อย ทำให้เธอมีร้านอาหารชื่อดังหลายร้านอยู่ในนิวยอร์ก ชาซ่ามีหน้ามีตาในสังคม ร่ำรวย มีแฟนหนุ่มสุดฮ็อตและดูจะมีแววแต่งงานกันในเร็วๆนี้ แต่เมื่อเธอจับได้ว่าแฟนตัวเองมีกิ๊ก เธอไม่รีรอที่จะบอกเลิก เรียกได้ว่าตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ซาช่าจึงตัดสินใจเดินทางกลับมาเที่ยวบ้านเกิดที่ซานฟรานซิสโก แต่แล้วหลังจากกลับมาได้ไม่นาน เธอได้มีโอกาสพบกับมาร์คัส (แรนดัล พาร์ค) อดีตเพื่อนสนิทที่เคยเติบโตมาด้วยกันในสมัยเรียนไฮสคูล ช่วงเวลาที่ซาช่าและมาร์คัสได้พบกันทำให้ช่วงเวลาในอดีต ลอยหวนกลับคืนมาในความทรงจำของทั้งคู่อีกครั้ง
หนังเปิดเรื่องราวมาที่ช่วงเวลาสมัยที่ซาช่าและมาร์คัสเป็นเด็ก ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทบ้านติดกัน ซาช่าได้มีโอกาสทำความรู้จักและสนิทสนมกับแม่ของมาร์คัส ทุกครั้งที่เธอเข้าครัวทำอาหาร แม่ของมาร์คัสมักจะสอนเธอในการทำอย่างไรให้อาหารออกมารสชาติอร่อยและกลมกล่อม นอกจากซาช่าและมาร์คัสจะกินข้าวด้วยกันแล้ว ทั้งสองยังมักจะออกไปเที่ยวเล่น ทำกิจกรรมร่วมกันอยู่เสมอ
กระทั่งทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปเมื่อทั้งสองกลายเป็นวัยรุ่น เมื่อแม่ของมาร์คัสประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ช่วงหลังจากงานศพซาช่าพยายามปลอมประโลมมาร์คัสด้วยการออกไปเที่ยว แต่กลายเป็นว่าทั้งสองสองมีเซ็กซ์กันโดยไม่ได้ตั้งตัว ซาช่าและมาร์คัสทะเลาะกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และหลังจากนั้นหนังก็ตัดภาพมาที่เหตุการณ์ปัจจุบันในปี 2019
ช่วงเวลาปัจจุบันที่ซาช่าและมาร์คัสได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เป็นช่วงเวลาที่ทำให้คนดูได้เห็น “วัฒนธรรมของคนเอเชีย” ในประเทศอเมริกา อย่างซานฟรานซิสโก (แน่นอนว่าย่านที่อันโด่งดังที่มีอยู่จริงคือ ไชน่าทาวน์นั่นเอง) ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ถนนหนทาง หรือกระทั่งสถานที่เที่ยวกลางคืน เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการเล่าความสัมพันธ์ของตัวละครแล้วยังเล่าถึงฉากหลัง ที่ทำให้หนังเรื่องนี้เข้าถึง “คนเอเชียที่อาศัยอยู่ในอเมริกา” อีกด้วย
เซอร์ไพรส์ของเรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อคีอานู รีฟฟ์ (รับบทโดยคีอานู รีฟฟ์) เป็นคู่เดทคนใหม่ของซาช่า แถมเขายังแสดงเป็นคนที่ประหลาด กวนประสาทในแบบที่เราคาดไม่ถึง แถมเขายังเล่นจิกกัดตัวเองได้อย่างตลกจนเราเกือบจะเชื่อด้วยซ้ำว่านั่นคือตัวตนจริงๆของเขา
หลังจากที่เรื่องราวในเรื่องเริ่มเข้มข้นมากขึ้น เมื่อมาร์คัสตัดสินใจจะรื้อฟื้นความรู้สึกดีๆที่เขาเคยมีกับซาช่า ทำให้เรามองเห็นว่า แท้ที่จริงแล้วทั้งสองคนคิดถึงกันมากมายแค่ไหน แต่เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับในความรู้สึกของตัวเอง จึงไม่มีโอกาสที่จะสานต่อความสัมพันธ์
แน่นอนว่าหนังแนวรอมคอมจะมีช่วงเวลาที่พระนางตัวจริงต้องเกิดความเข้าใจผิดกันอย่างรุนแรง ก่อนที่จะลงเอยกันในตอนท้าย Always Be My Maybe ก็เลือกที่โยนคำถามใส่ตัวละครฝ่ายชายว่า “จะยอมรับได้ไหมถ้าหากหน้าที่การงาน หน้าตาในสังคมของตัวเองไม่ทัดเทียมฝ่ายหญิง” นี่คือสิ่งที่คุณต้องไปลุ้นกันเอาเองในหนังเรื่องนี้