[รีวิว] Rocketman-หนังมิวสิคัลเปลือยชีวิต เอลตัน จอห์น ที่เขย่าหัวใจเหลือเกิน
จากความสำเร็จของ Bohemian Rhapsody เมื่อปีที่แล้วได้กลายเป็นการเปิดประตูสำหรับหนังเพลงจากชีวประวัติศิลปินชื่อดังที่ประกาศสร้างตามหลังมา และสำหรับ Rocketman เองก็มีจุดเชื่อมโยงกับหนังสุดฮิตอย่าง Bohemian Rhapsody ตรง เด็กซ์เตอร์ เฟลตเชอร์ ผู้กำกับที่มาถ่ายทอดเรื่องราวของเอลตัน จอห์น เคยเป็นโปรดิวเซอร์ฝ่ายบริหารของหนังอีกทั้งยังต้องเป็นผู้กำกับจำเป็นแบบไม่ลงเครดิตเพื่อให้หนังเสร็จทันออกฉายหลังไบรอัน ซิงเกอร์ เทกองถ่ายในช่วงหลังไป ดังนั้น Rocketman จึงเหมือนหนังเพลงที่เขาได้กำกับเองเต็มตัวเรื่องแรก แถมเล่นท่ายากด้วยการนำชีวประวัติศิลปินเพลงพอพฆ่าไม่ตายอย่าง เอลตัน จอห์น มาถ่ายทอดชีวิตสุดพลิกผันด้วยลีลาแบบหนังมิวสิคัล
อาจถือเป็นโชคดีของเฟลตเชอร์ ที่บทเพลงของ เอลตัน จอห์น สามารถนำมาเชื่อมปะติดปะต่อเรื่องราวในชีวิตทั้งช่วงรุ่งโรจน์สุดขีดก็มีเพลงฮิตๆอย่าง Crocodile Rock ช่วงเวลาอันโดดเดี่ยวก็มี Sorry seems to be the hardest word มาคลอไปกับชีวิตช่วงนั้น แต่กระนั้นผู้กำกับก็ยังอุตส่าห์รังสรรค์ซีนมิวสิคัลสุดเซอร์เรียลมานำเสนอเรื่องราวชีวิตของเอลตัน จอห์น ได้อย่างถึงอารมณ์ ช่วงรุ่งโรจน์เราก็ได้ประจักษ์พยานความเบ่งบานในตัวเอลตัน จอห์น รวมถึงช่วงตกอับที่ทุกอย่างดูมืดทึม ผ่านงานออกแบบต่างๆทั้งเสื้อผ้าของจูเลียน เดย์ ที่นอกจากจะอ้างอิงชุดที่เอลตัน จอห์นเคยใส่แล้ว มันยังกลายเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกสภาวะตัวละครได้อย่างชาญฉลาด ไปจนถึงงานอาร์ตไดเรกชั่นของปีเตอร์ ฟรานซิสและมาร์คัส โรว์แลนด์ ที่สามารถจำลองฉากชีวิตสำคัญของเอลตัน จอห์นได้ราวพาเราย้อนเวลากลับไปในยุค 80 ตั้งแต่โชว์เปิดตัวที่ทรูบาดอร์ยันคอนเสิร์ตสำคัญต่างๆ เรื่อยไปถึงงานถ่ายภาพสุดวิจิตรโดย จอร์จ ริชมอนด์ ที่มีการคัดเลือกบทบาทของสีและแสงเพื่อนำพาอารมณ์คนดูได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยส่วนตัวค่อนข้างประทับใจกับงานทุกส่วน และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือในส่วนของเพลงและดนตรีประกอบที่ได้ แมตธิว มาร์เกสัน มาเรียบเรียงใหม่ซึ่งความชาญฉลาดสำคัญคือการนำคณะประสานเสียงในโบสถ์มาร้องคอรัสที่ให้ความรู้สึกใหญ่โตมากๆ โดยเฉพาะ 2 เพลงดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นที่สามารถเขย่าหัวใจผู้ชมได้แม้ไม่ใช่แฟนเพลงเอลตัน จอห์น ก็ตาม
และสำหรับ ทารอน อีเกอร์ตัน ที่โด่งดังจากหนังสายลับสุดเกรียนอย่าง Kingsman ก็พิสูจน์ตัวเองกับบท เอลตัน จอห์น ได้อย่างไม่เสียดายของ เมื่อถึงซีเควนส์ที่ทารอนปรากฎตัว เขาสามารถถ่ายทอดทั้งความขี้อายที่ต่อเนื่องมาจากพาร์ตของนักแสดงเด็กมาได้อย่างไม่ตกหล่น และจำลองช่วงชีวิตทั้งรุ่งโรจน์และตกอับของยอดศิลปินดังได้อย่างน่าปรบมือให้ทุกฉากจริงๆ ยังมิพักพูดถึงเสียงร้องที่สามารถถ่ายทอดเพลงดังๆของเอลตัน จอห์น ในแบบฉบับมิวสิคัลด้วยเอกลักษณ์ของตัวเองได้โดยไม่ต้องเลียนแบบเสียงของศิลปินต้นฉบับด้วยซ้ำ และคงไม่เกินเลยถ้าจะบอกว่าการแสดงของเหล่านักแสดงสมทบเองก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรมองข้ามเช่นเดียวกัน
คนแรกที่แม้บทบาทอาจดูเป็นตัวประกอบ แต่น่าจะสร้างเซอร์ไพร์สให้ใครหลายคนคงหนีไม้พ้น ไบรซ์ ดัลลัส โฮเวิร์ด ที่คราวนี้มาแปลกตาด้วยรูปลักษณ์ดูเจ้าเนื้อและมีอายุในบท ชีล่า แม่ของเอลตัน จอห์น ซึ่งเธอก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเพราะแม้รูปลักษณ์จะห่างไกลจากบทสาวสวยหนีไดโนเสาร์ด้วยส้นสูงจาก Jurassic World แต่เธอก็มอบการแสดงที่น่าจดจำในบทแม่ผู้มีทั้งความรักและความชิงชังในตัวลูกชายแบบสุดขั้ว และทุกซีนที่เธอปรากฎตัวคือทำให้คนดูหัวเราะหรือขมวดคิ้วตามได้ตลอด ด้านเจมี่ เบลล์ ก็ยังให้การแสดงที่หายห่วงได้เสมอในบทนักแต่งเพลงคู่บุญที่เป็นเพื่อนแท้ของเอลตัน รวมไปถึง ริชาร์ด แมดเดน ที่สาวๆต่างหลงไหลจากซีรีส์ Bodyguard ทางเน็ตฟลิกซ์ ก็มารับบทผู้จัดการส่วนตัวของเอลตัน จอห์น ที่ทั้งเย้ายวนและซ่อนความร้ายกาจไว้ได้อย่างมีเสน่ห์ชวนติดตาม และแน่นอนว่าหนังที่มีทีมนักแสดงที่ดีก็่ย่อมทำให้ภาพรวมการแสดงของหนังออกมายอดเยี่ยมและทำผู้ชมคล้อยตามได้ไม่ยาก
คงไม่เกินเลยนักหากจะบอกว่า Rocketman น่าจะเป็นหนังเพลงเปิดปี 2019 ที่พร้อมจะเข้าไปอยู่ลิสต์หนังดีประจำปีได้ไม่ยาก ด้วยบทที่ร้อยเรียงชีวิตได้อย่างสร้างสรรค์ งานดีไซน์ทั้งชุดทั้งฉาก ไปจนถึงเพลงประกอบที่ช่วยยกระดับการคัฟเวอร์เพลงของเอลตัน จอห์น ได้อย่างมีรสนิยมผ่านการกำกับที่แม่นยำ ผลลัพธ์เลยกลายเป็นความประทับใจแบบแทบจะรอดูซ้ำอีกหลายๆรอบไม่ไหวเลยล่ะ
พิเศษสุด! Rocketman จะเปิดรอบพิเศษให้ได้อินก่อนใคร รอบ 2 ทุ่ม วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายนนี้ที่พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เท่านั้น ก่อนฉายจริง 20 มิถุนายนทั่วประเทศ จองตั๋วคลิกที่ภาพด้านล่างนี้ได้เลย