Toy Story 4 ของเล่นก็มี "หัวใจ" การออกเดินทางครั้งใหม่ที่ถวิลหา
"เป็นหนังที่ไม่จำเป็นต้องสร้างภาคต่ออีก แต่ก็กลับปลื้มใจที่ได้เห็นภาคใหม่อีก" เป็นวลีจากคนดูต่างชาติคนหนึ่งที่บังเอิญไปเห็นประโยคนี้หลังจากที่ได้ดู Toy Story 4 จบลงไปพอดี ความคิดเห็นนี้ช่างเป็นความคิดเห็นที่ตรงกันอย่างเหมาะเจาะ การกลับมาอีกครั้งของแก๊งทอยสเตอร์ (Toyster) ยิ่งกลับมากระตุ้นความผูกพันที่มีกับตัวละคร
ถึงแม้ว่าเนื้อหาใน Toy Story 3 จะปิดฉากลงไปอย่างงดงาม พร้อมคราบน้ำตาแห่งความซึ้งใจของคนดูอย่างเราๆ แต่การผจญภัยของแก๊งทอยสเตอร์ก็ยังไม่จบลงอยู่เพียงเท่านั้น สำหรับในภาคใหม่นี้ทิ้งช่วงห่างจากภาคที่แล้วถึง 9 ปีเต็ม และยิ่งห่างจากภาคแรกออกไปไกลกว่าเดิมถึง 24 ปีเต็ม แน่นอนว่ากลุ่มแฟนแอนิเมชั่นของเรื่องนี้ตั้งแต่ภาคแรก ในวันนี้พวกเขากลายเป็นผู้ใหญ่และพาลูกๆ ไปนั่งดูเคียงข้างด้วยแล้ว
ตัวละครหลักชุดเดิมยังกลับมา ไม่ว่าจะเป็น วู้ดดี้, บัซ ไลท์เยียร์, เจสซี่, โบ พี๊ฟ, มิสเตอร์โปเตโต้ เฮด หรือ สลิงกี้ ด็อก เช่นเดียวกับทีมพากย์คนเดิมก็กลับมาเช่นกัน แต่ยังเสริมด้วยตัวละครใหม่ๆ ที่สร้างสีสันได้ไม่แพ้กัน อย่าง ฟอร์กกี้, ดั้คกี้, บันนี่, แก๊บบี้แก๊บบี้ หรือ ดุค คาบูม โดยเฉพาะรายหลังนี้มาเพื่อแย่งซีน เพราะเขาคือ "คีอานู รีฟ" ที่มาให้เสียงพากย์ตัวละครนี้
Toy Story 4 ได้เล่าเรื่องราวต่อจากภาคที่แล้วในทันที เมื่อเหล่าแก๊งทอยสเตอร์ถูกเปลี่ยนมือกลายเป็นของเล่นของ "บอนนี่" เด็กน้อยวัยกำลังเข้าเรียนชั้นอนุบาล พวกเขาทำหน้าที่เป็นเพื่อนเล่นของเธอ ก่อนจะให้การต้อนรับ "ฟอร์กกี้" ของเล่นชิ้นใหม่ที่บอนนี่ผลิตขึ้นมาเองจากเศษขยะ แต่มันกลับไม่คิดว่าตัวเองคือของเล่น ทำให้ วู้ดดี้ ต้องทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ไม่ให้มันหลบหนีไป
เนื้อเรื่องของภาคนี้มีลักษณะเป็นหนังผจญภัย สไตล์โร้ดทริป พร้อมกับขยายโลกของเล่นออกไปให้กว้างขึ้นไปอีก แอนิเมชั่นจากดิสนีย์/พิกซาร์ก็ยังคงช่ำชองในประกอบเรื่องราว สร้างบทภาพยนตร์ออกมาได้ค่อนข้างแข็งแรง หยิบจับเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ มาใส่รายละเอียดและเพิ่มความสำคัญส่งถึงคนดูได้อยู่หมัด
นอกจากความดราม่าสอนชีวิตที่สอดแทรกอยู่ตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะอัดแน่นไปด้วยความสนุกสนานและการผจญภัยอันเป็นเสน่ห์ของตัวละคร ขณะที่ตัวละครดั้งเดิมก็ยังปรากฏตัวให้คิดถึงถวิลหา แต่ตัวละครใหม่ๆ ก็เข้ามาสร้างสีสันและความบันเทิงได้เป็นอย่างดี ทำให้บรรยากาศโดยรวมของแอนิเมชั่นเรื่องนี้ยังทำได้น่าประทับใจเช่นเดิม
ถึงแม้ว่าในภาคนี้ตัวละครดั้งเดิมจะค่อนข้างมีบทบาทที่ลดลง แต่ก็เสริมทัพด้วยตัวละครใหม่ที่เข้ามาเติมเต็มได้เป็นอย่างดี "ฟอร์กกี้" ถึงจะเปิดตัวมาในลักษณะตัวปัญหา แต่กลับขโมยซีนได้อย่างน่ารัก "โบ พี๊ฟ" ที่ขึ้นมาเป็นตัวละครหลักในภาคนี้ กลายเป็นไอคอนิกที่ทรงพลัง ขณะที่คู่หูตัวป่วน "ดั้คกี้" กับ "บันนี่" โผล่เข้าจอมาครั้งใดก็ต้องหัวเราะได้ทุกที
Toy Story 4 เป็นทั้งแอนิเมชั่นสุดหรรษาที่ทำให้เด็กและผู้ใหญ่ได้เพลินเพลิดกับเรื่องราวการผจญภัยที่เดินหน้าต่อไปของแก๊งนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังทำหน้าที่ได้ดีในการแทรกเนื้อหาที่แฝงเอาไว้ด้วยข้อคิดในการใช้ชีวิตและการเปลี่ยนแปลง สามารถขยายความคิดเห็นและเปิดโลกเดิมออกให้กว้างยิ่งขึ้น ไม่ต่างกับการเจริญเติบโตของมนุษย์ที่ยังต้องเดินหน้าไปต่อในทุกๆ วัน พร้อมกับใส่ "หัวใจ" เข้าไปเพิ่มด้วย ทำให้แอนิเมชั่นเรื่องนี้ยังคงส่งสารมาถึงคนดูได้เป็นอย่างดี..