รีวิว Murder Mystery อกาธา คริสตี้รำลึก

Murder Mystery เป็นหนังเรื่องล่าสุดที่ทาง Netflix ปล่อยออกมาสตรีมมิ่งเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมกันทั่วโลก และกลายเป็นหนังที่สามารถทำสถิติมีผู้ชมรับชมหนังเรื่องนี้ใน 3 วันแรก สูงถึง 30 ล้านแอคเคาท์ผู้ใช้งานเลยทีเดียว เมื่อพิจารณาปัจจัยความนิยมดังกล่าวน่าจะมาจากการที่หนังเรื่องนี้มีนักแสดงนำอย่างอดัม แซนเลอร์และเจนนิเฟอร์ อนิสตันนั่นเอง

สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนัง Murder Mysteryนั้นเล่าเรื่องราวของผัวเมียละเหี่ยใจอย่างนิค (อดัม แซนเลอร์) และออเดรย์ (เจนนิเฟอร์ อนิสตัน) โดยฝ่ายชายนั้นทำงานเป็นตำรวจอยู่ในนิวยอร์ก ส่วนออเดรย์เป็นช่างทำผม ทั้งสองตัดสินใจจะเดินทางไปฮันนีมูนกันที่ยุโรป ระหว่างที่โดยสารบนเครื่องบินนั้นเอง ออเดรย์ได้พบกับหนุ่มไฮโซอย่างคาเวนดิช (ลุค อีแวน) ให้ไปร่วมงานปาร์ตี้บนเรือยอร์ชของมหาเศรษฐีอย่างมัลคอล์ม ควินช์ แต่แล้วระหว่างงานก็เกิดไฟดับอย่างกะทันหัน ทันทีที่ไฟติดขึ้นมามัลคอล์มก็กลายเป็นศพไปแล้ว ความซวยตกไปเป็นของนิคและออเดรย์ที่กลายเป็นผู้ต้องสงสัยไปโดยบังเอิญเพราะทั้งสองเป็นเหมือนแขกที่ไม่ได้รับเชิญนั่นเอง

ผลงานการกำกับของไคลด์ เนวาเชค เรื่องนี้ กำหนดโทนของเรื่องให้เป็นหนังเบาสมองที่พ่วงด้วยเหตุการณ์ลึกลับ เพื่อเปิดโอกาสให้คนดูได้ร่วมไขปริศนาค้นหาฆาตกรร่วมไปกับสองพระนาง ที่ดูจะบ้องตื้นมากกว่าดูจะฉลาดจริง

ความ (พยายาม) ตลกของ Murder Mysteryนั้นเราคงต้องเรียกว่ามันเป็นสไตล์ความบันเทิงแบบอดัม แซนเลอร์ นั่นคือการปล่อยมุกตลกหน้าตาย (ที่ส่วนมากก็ไม่ค่อยจะขำสักเท่าไหร่) หรือมุกตลกเจ็บตัว หกล้มหน้าทิ่มหัวคะมำ วิ่งชนกัน หนีตายกันอย่างอลม่าน เป็นต้น

การไขคดีปริศนาว่าใครเป็นฆาตกรตัวจริงนั้น จะว่าไปแล้วหนังก็แทบจะหยิบเอาบรรยากาศตามนวนิยายของอกาธา คริสตี เอามาจำลองไว้ในหนัง ที่ตัวเอกของเรื่องของหลุดเข้าไปพัวพันกับกลุ่มคนที่ต่างมีแรงจูงใจในการจะเป็นฆาตกรด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งใน Murder Mystery ตัวละครที่อยู่แวดล้อมมัลคอล์ม ควินช์ ล้วนแล้วแต่ถูกหักหลังจากการแบ่งมรดกของเขาด้วยกันทั้งสิ้น

น่าเสียดายที่ความเข้มข้นของเรื่องราว ดูจะไม่ค่อยดึงดูดเราให้ตามลุ้นไปกับนักแสดงมากนัก (สารภาพตามตรงว่าตอนดูลุ้นมากกว่าด้วยซ้ำว่าใครจะโดนฆ่าเป็นรายต่อไป) ปัจจัยหนึ่งก็เพราะว่า โทนหนังที่เซทเอาไว้ให้ออกมาดูตลกโปกฮาแบบไม่ต้องคิดถึงตรรกะอะไรมาก เราจึงรู้อยู่แล้วว่าสองพระนางน่าจะอยู่รอดปลอดภัยจนหนังจบ ที่เหลือคือเราก็ได้แต่นั่งดูวีรกรรมบ้าๆบอๆของสองผัวเมีย ซึ่งขำบ้าง ไร้สติบ้าง ก็นับว่าเป็นหนังที่สร้างขึ้นมาเพื่อเหมาะไว้ดูบนจอทีวี คือดูไป เล่นมือถือไป หรือกวาดบ้านไปเช่นกัน