Anna เธอชื่อ "แอนนา" ขอฆ่าไม่เลี้ยง

Anna เธอชื่อ "แอนนา" ขอฆ่าไม่เลี้ยง

Anna เธอชื่อ "แอนนา" ขอฆ่าไม่เลี้ยง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

หนังแนวนักฆ่าสาวสวยอันตราย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพล็อตยอดฮิตของการสร้างหนังแอ็คชั่นที่จะใช้นักแสดงหญิงเพื่อเป็นตัวละครหลักในการขับเคลื่อนเรื่องราว อีกทั้งยังเป็นการใช้เสน่ห์ของนักแสดงนำ ความสามารถด้านการต่อสู้ ประกอบกับการขายฉากแอ็คชั่นที่ชวนลุ้นระทึกอีกด้วย

 

Anna คือหนังแอ็คชั่นนักฆ่าอันเป็นผลงานการกำกับของลุค เบสซง ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ชาวฝรั่งเศสที่มีผลงานหนังฮิตมากมายไม่ว่าจะเป็น Valerian And the city of a thousand planets, Lucy และ Leon The Professional เป็นต้น

 

 

สายลับฉบับ “นางแบบ”

 

ย้อนกลับไปในยุคสมัยสงครามเย็น (ยุคสมัยยอดฮิตของการเป็นนักฆ่าจริงๆ) แอนนา โพเลียโทว่า (ซาช่า ลุสส์) สาวชาวรัสเซียที่ชีวิตล้มเหลวจนถึงขีดสุด จนกระทั่งเธอจับพลัดจับผลูได้รับการติดต่อจากหน่วยงานเคจีบีให้มาทำงานเป็นสายลับ ภายใต้การเป็นนางแบบเป็นอาชีพบังหน้า ด้วยความสะสวยของหน้าตาประกอบกับความสามารถอันโดดเด่น ส่งผลให้เธอกลายเป็นแฟชั่นไอคอนในระดับโลก ภายใต้ความโด่งดังนั้นเธอพร้อมรับงานนักฆ่าจากหัวหน้าของเธออยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าหากเธอทำพลาด อาจจะหมายถึงชีวิตที่เธอต้องแลก

 

 

ลุค เบสซงกับหนังตัวเอกหญิง

 

เมื่อเราย้อนกลับไปตรวจตราผลงานหนังแอ็คชั่นของลุค เบซงแล้ว เราจะพบว่า หนังเรื่องดังจำนวนไม่น้อยที่เขามีส่วนร่วมทั้งในฐานะผู้กำกับหรือโปรดิวเซอร์ก็ตาม เขามักจะนำเสนอตัวเอกของเรื่องเป็น “ผู้หญิงแกร่ง” เฉกเช่นหนังเรื่อง La Femme Nikita ในปี 1990 หรือในชื่อที่คนไทยรู้จักว่า “นิกิต้า” ที่ว่าด้วยเรื่องราวของนิกิต้าหญิงสาวไร้อนาคตที่ใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน มัวสุมกับเพื่อนๆสายพี้ยา จนกระทั่งวันหนึ่งหลังจากที่ตำรวจบุกรังซ่องสุมของเธอและเพื่อนๆ ด้วยความขาดสติทำให้นิกิต้าพลั้งมือฆ่าตำรวจตาย ส่งผลให้เธอถูกทางการตัดสินประหารชีวิต แต่มีอีกหนึ่งทางเลือกที่จะซื้อลมหายใจให้เธอ ด้วยการประกาศอย่างเป็นทางการว่าเธอเสียชีวิตแล้ว เพื่อแลกกับชื่อใหม่และตัวตนใหม่ ในการเป็นมือสังหารของรัฐบาล จะเห็นได้ว่าตัวละครนิกิต้านั้นถูก “อำนาจรัฐ” บงการชีวิตของเธอเพื่อแลกกับลมหายใจ

 

Anna ก็เป็นหนังเรื่องใหม่ที่มีพล็อตคล้ายคลึงกับ La Femme Nikita เพียงแต่เลือกจะหยิบเอาฉากหลังทางประวัติศาสตร์อย่างเหตุการณ์สงครามเย็น มาเป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราวโดยตัวละครแอนนานั้นจะอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งของสองขั้วมหาอำนาจโลก ทำให้เธอต้องอยู่ในสภาวะที่ต้องตัดสินใจอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ชีวิตแบบไร้อนาคต หรือพาตัวเองเข้าไปอยู่ในวงการแฟชั่นที่เต็มไปด้วยความหรูหรา ในมิติของเชื้อชาติระหว่างหน่วยงาน KGB (รัสเซีย) หรือ CIA (อเมริกา) เธอต้องเลือกชายหนุ่มที่หวังดีกับเธอ (แต่อยู่คนละฝ่าย) ในทุกย่างก้าวแอนนาต้องเลือก แต่การตัดสินใจเลือกของเธออาจจะส่งผลถึงสงครามโลก!

 

เมื่ออ่านถึงตรงนี้แล้ว เราก็ยังแทบจะแยกความแตกต่างระหว่างตัวละครแอนนาและนิกิต้าได้ไม่ชัดท่าไหร่ ตัวผู้กำกับอย่าง ลุค เบสซง จึงแสดงความเห็นของเขาว่า “ผมคิดว่าหนังแต่ละเรื่องของผมมันสะท้อนความคิดและความรู้สึกของผมในขณะนั้น และนั่นคือสิ่งที่ผมอยากมอบให้กับผู้ชมด้วยหนังเรื่อง Anna ประกอบกับสังคมในเวลานี้ เรื่องราวของความเชื่อใจได้ขาดหายไปมาก และเราคิดว่าคนในสังคมทุกวันนี้ไม่ค่อยจะมีสิ่งดังกล่าวให้กันอีกแล้ว”

 

 

เธอเป็นใคร ซาชา ลุสส์

 

ตัวละครหลักของเรื่องอย่างแอนนา ได้นักแสดงหน้าใหม่อย่างซาชา ลุสส์ มารับบท ซึ่งตอนแคสติ้งนั้น ซาชา สามารถถ่ายทอดตัวละครแอนนาออกมาได้ทั้งในมุมของความไร้เดียงสา ความเปราะบาง ความแข็งแกร่ง ความอบอุ่นและสามารถลุยแบบไม่หวาดกลัวอันตรายใดๆได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ สิ่งที่เธอยังต้องเพิ่มเติมเข้าไปในการแสดงของตัวเองคือ คือการสร้างบุคลิกความเย้ายวน การใช้จริตและเสน่ห์ของผู้หญิงอันตราย ตามแบบฉบับคาแรกเตอร์ Femme Fatale เข้าไปเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวละคร

 

 

สำหรับซาชา ลุสส์ แล้ว อาจจะกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่า Anna นั้นเป็นผลงานหนังยาวซึ่งเธอรับบทเป็นนักแสดงนำเรื่องแรกอย่างเต็มตัว แม้เธอจะเคยแสดง Valerian and the City of a Thousand Planets ในบทเจ้าหญิงมินนา แต่เมื่อเราดูภาพประกอบแล้ว ผู้ชมคนไหนจะจำได้ว่านี่เธอซาชา!

 

ในแวดวงนางแบบซาชาเรียกได้ว่า เธอมีชื่อเสียงพอตัวเลยทีเดียว เพราะเธอเคยร่วมงานกับแบรนด์ดังอาทิ Chanel, Dior และ Lagerfield แถมเธอยังได้มีโฆษณาของแบรนด์ Dior เป็นของตัวเองในปี 2014 และมีโฆษณาอีกหนึ่งชิ้นกับแบรนด์ Versus Versace by Anthony Vaccarello: Spring Summer 2015 New York

Dior: Dior Addict

 

 

จากสายนางแบบกระโดดมาเป็นนางเอกสายบู๊ก็เรียกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับซาช่า เธอต้องฝึกฝนร่างกายให้แข็งแรงล่วงหน้าเป็นปีๆ ประกอบกับบทบาทแอนนาที่เป็นคาแรกเตอร์แบบเสแสร้งเป็นคนอื่นตลอดเวลายิ่งเพิ่มความยากให้กับการแสดง ช่วงเวลาที่เธอผันตัวเองไปเป็นนางแบบในระดับโลก เธอใช้เวลาหลายปีทีเดียวในการเปลี่ยนสำเนียงรัสเซียให้กลายเป็นสำเนียงอเมริกัน แต่เมื่อเธอกลับมารับบทบาทแอนนา กลายเป็นว่าเธอต้องกลับมาพูดสำเนียงรัสเซียบ้านเกิดอีกครั้ง แต่ข้อดีของการผ่านงานนางแบบมาอย่างโชกโชนทำให้ เธอนำประสบการณ์บนแคทวอล์ค การถ่ายแฟชั่น มาปรับใช้ในงานของเธอได้เป็นอย่างดี

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook