สวัสดี “ชนชั้นปรสิต” ใน Parasite

สวัสดี “ชนชั้นปรสิต” ใน Parasite

สวัสดี “ชนชั้นปรสิต” ใน Parasite
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของผู้กำกับชาวเกาหลีอย่าง บงจุนโฮ” ซึ่งมีผลงานหนังเรื่องดังอาทิ The Host หรือ หนังที่เขาข้ามน้ำ ข้ามทะเลไปกำกับให้กับฝั่งฮอลลีวูดอาทิ Snowpiercer และ Okja เป็นต้น โดยการกลับมาครั้งนี้กับ Parasite ถือเป็นหนังสัญชาติเกาหลีแบบเต็มตัว ที่รับประกันได้ว่า จะทำให้คนดูเหวอตลอดทั้งเรื่องที่รับชม

 

 

 

คำขอร้องจากตัวผู้กำกับ บงจุนโฮ”

 

ในปัจจุบัน เป็นยุคสมัยที่ผู้ชมภาพยนตร์ค่อนข้างตื่นตัวกับเรื่องการโดน “สปอยล์” เรื่องราวในหนังเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ตัวผู้กำกับหลายคน ออกมาร้องขอให้ผู้ชมที่ได้ดูหนังก่อนคนอื่น งดเปิดเผยเรื่องราวที่อยู่ในหนัง โดยกรณีล่าสุด สองพี่น้องรุสโซ่ ได้ส่งจดหมายถึงแฟนหนังมาร์เวลทั่วโลกขอความร่วมมือในการ “งดสปอยล์”หนัง Avengers: Endgame เป็นต้น

 

เช่นเดียวกันกับหนังอย่าง Parasite ที่เรียกได้ว่า ถึงจะไม่มีฉากแอ็คชั่น โครมครามใหญ่โต แต่ตัวผู้กำกับก็บอกเลยว่าในหนังเรื่องนี้จะเล่นกับความคาดหวังของคนดูและพลิกสถานการณ์ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งตัวผู้กำกับก็ออกมาร้องขอแฟนหนัง และสื่อมวลชน ที่กำลังจะเขียนรีวิว หรือบทวิจารณ์ ว่าให้ระวังในการเปิดเผยเรื่องราวในหนังเรื่องนี้ ให้น้อยที่สุด เท่าที่จะทำได้

 

8x10-3

 

แล้วแบบนี้เราจะรับรู้อะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ได้บ้างล่ะ ?

 

เรื่องราวที่คนดูควรรู้แบบพอคร่าวๆก่อนชม Parasite คือหนังเรื่องนี้ได้เล่าเรื่องราวของครอบครัวตระกูลคี อันประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมด 4 คน แม้จะเป็นครอบครัวเล็กๆที่ดูอบอุ่นก็ตาม แต่พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นคนตกงานด้วยกันทั้งสิ้น จนกระทั่งลูกชายคนโตของบ้านได้รับข้อเสนอจากเพื่อนบ้านที่จัดได้ว่าร่ำรวยมีอันจะกิน และศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยชื่อดัง ได้เสนอให้คีวู เข้าไปทำงานเป็นติวเตอร์ซึ่งอาชีพดังกล่าวจะทำเงินให้อย่างมหาศาล การที่คีวูต้องไปทำงานให้กับตระกูลพัคซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอทีที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ได้สร้างแรงกดดันให้กับตัวของเขาเอง และเหมือนกับเขาจะต้องแบกความคาดหวังของครอบครัวเอาไว้บนบ่า และแล้วเมื่อครอบครัวทั้งสองตระกูลได้มาพบกัน เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันและเหนือการคาดเดาก็เริ่มต้นขึ้น

 

 

เปิดตัวแรงจัด จนทั่วโลกจับตามอง

 

หลังจากที่ Parasite ได้ไปเปิดตัวที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ครั้งที่ 72 ประจำปี 2019 และได้คว้ารางวัลสูงสุดของเทศกาลอย่างรางวัลปาล์มทองคำมาครอง (Palme d’Or) หรือภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งการคว้ารางวัลนี้ คือการสร้างประวัติศาสตร์ให้กับภาพยนตร์จากประเทศเกาหลีใต้เรื่องแรกที่สามารถคว้ารางวัลนี้มาครอบครอง นอกจากนี้เสียงตอบรับของหนังเรื่องนี้จากในเทศกาลนี้ พูดไปในทิศทางเดียวกันว่า Parasite นั้น พิเศษกว่าการเป็นหนังเรื่องใหม่ของบงจุนโฮ แต่ยังถือเป็นการเริ่มทิศทางใหม่ในการเป็นผู้กำกับของเขาด้วย

 

อีกทั้งอรรถรสที่ผู้ชมจะได้รับจากหนังเรื่องนี้ คือการที่ผู้ชม “ไม่รู้อะไรมาก่อน” ทำให้คาดเดาไม่ได้เลยว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังประเภทใดกันแน่ มันอาจจะเต็มไปด้วยอารมณ์อันแสนหลากหลายไม่ว่าจะเป็น หนังตลกร้าย การใส่ประเด็นทางสังคมเข้ามาในหนัง การเล่นกับความรู้สึกของผู้ชม ความตื่นเต้น ซึ่งแม้ว่าจะมีความหลากหลายในหนังเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ผู้ชมจะสามารถสัมผัสได้ร่วมกันก็คือ การสะท้อนประเด็นที่ว่าสังคมสมัยปัจจุบันนี้ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ชมในสังคม ยุคสมัยที่สภาพเศรษฐกิจได้สร้างความเหลื่อมล้ำในสังคม ทำให้ช่องว่างระหว่างชนชั้นถูกขยายตัวให้กว้างขึ้นไปทุกที ความไม่เสมอภาคเริ่มทวีความรุนแรง ผู้คนจำนวนมากในโลกเริ่มสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวัง ความพยายามในการกล่าวโทษในสิ่งต่างๆ การหาวิธีการแก้ปัญหาด้วยวิธีการง่ายๆ ซึ่ง  Parasite ต้องการนำเสนอความซับซ้อนอย่างซื่อตรง เป็นความท้าทายที่พวกเราทุกคนทั่วโลกต้องเผชิญ และเป็นเป้าหมายที่ไปถึงได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาเลยผ่านไป

 

 

ทำความรู้จักชนชั้นปรสิตอีกนิดหน่อย

 

กลุ่มตัวละครหลักในหนังเรื่องนี้ จริงๆแล้วพวกเขาจัดได้ว่าเป็นครอบครัวชนชั้นล่างที่อาศัยอยู่ในจุดต่ำสุด นั่นก็คือชั้นใต้ดินของอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ซึ่งเขาคาดหวังแค่ว่า วันหนึ่งจะมีชีวิตที่ดีขึ้นและไม่ได้ต้องการอะไรเป็นพิเศษ แค่ “ความหวังเล็กๆ” ยังเป็นเรื่องจริงได้ยาก เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เมื่อผู้เป็นพ่อที่เป็นหัวหน้าครอบครัวยังประสบความล้มเหลวทางธุรกิจมาหลายครั้ง ผู้เป็นแม่เคยเป็นนักกีฬาที่ฝึกฝนมายาวนานแต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จสักครั้ง เช่นเดียวกันกับบรรดาลูกๆบ้านที่ไม่ค่อยจะฉลาดนักและทำให้สอบตกบ่อยจนไม่มีโอกาสที่จะเข้ามหาวิทยาลัยได้สักที

 

ตรงกันข้ามกับครอบครัวของคุณพัค ที่เป็นถึง CEO บริษัทไอที เป็นคนเก่ง มีความสามารถ ร่ำรวย มีภรรยาหน้าตาดี สวย มีลูกๆที่กำลังน่ารักและอยู่ในวัยเรียน ซึ่งครอบครัวนี้ก็ถูกมองว่าเป็นครอบครัวในอุดมคติท่ามกลางสังคมชั้นสูงด้วยกันเองเช่นกัน

 

 

ความแตกต่างดังกล่าวคือวิธีการสะท้อนความไม่เท่าเทียมกันในสังคมในยุคสมัยแห่งทุนนิยมและไม่มีทางเลือกอื่นใด ซึ่งสภาพสังคมแบบนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นแค่เพียงในประเทศเกาหลีเท่นั้น แต่ทั่วโลกต้องเผชิญกับปัญหานี้ โดยในโลกแห่งความเป็นจริง ตัวละครจากสองครอบครัวจะไม่มีวันมาเจอกันได้อย่างเด็ดขาด สิ่งเดียวที่จะทำให้พวกเขาได้เจอกันมีแค่เพียง “การจ้างงาน” เท่านั้น และจากจุดเล็กๆนี้เอง หนังเรื่อง Parasite ก็เล่นสนุกกับจุดเล็กๆดังกล่าวนั่นเอง

 

เรื่องราวและสิ่งที่หนังต้องการจะสะท้อนออกมานั้นจะดุเดือดแค่ไหน คงต้องไปติดตามกันเอาเองในหนัง ซึ่งจะเข้าฉายในประเทศไทย วันที่ 25 กรกฎาคม 2562 ในเครือโรงภาพยนตร์ชั้นนำ

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook