“นนทรีย์ นิมิบุตร” ความผูกพัน 20 ปีที่มีต่อ “นางนาก” หนังรักที่มีผี จากฝีมือคนไม่กลัวผี

“นนทรีย์ นิมิบุตร” ความผูกพัน 20 ปีที่มีต่อ “นางนาก” หนังรักที่มีผี จากฝีมือคนไม่กลัวผี

“นนทรีย์ นิมิบุตร” ความผูกพัน 20 ปีที่มีต่อ “นางนาก” หนังรักที่มีผี จากฝีมือคนไม่กลัวผี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ย้อนกลับไปเมื่อ พ.ศ. 2542 ปีที่ภาพยนตร์ไทยเรื่อง “นางนาก” ได้สร้างปรากฏการณ์โรงเต็มทุกรอบทุกที่นั่ง ความหลอนจากตำนานความรักแห่งทุ่งพระโขนงได้ลือลั่นไปทั่วผืนแผ่นดินไทย รายได้ 150 ล้านทั่วประเทศเรียกได้ว่าล้นหลามในยุคนั้น เอาชนะ Titanic หนึ่งในห้าภาพยนตร์ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาลแม้จะเป็นการฉายเพียงแค่ในบ้านเรา แต่เท่านั้นก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สร้างประวัติศาสตร์ความสำเร็จที่ได้รับการจารึกตลอดมา

ในปีนั้น ขวบวัยของผู้เขียนเพิ่งอยู่ที่เลข 13 บอกตามตรงว่าจำความอะไรแทบไม่ได้ สิ่งเดียวที่จดจำได้คือเราร้องไห้กระจองอแงอยู่ในโรงหนังด้วยความกลัว ครั้นเวลาล่วงเลย เราได้ดู นางนาก อีกประปรายตามช่องโทรทัศน์ที่นำกลับมาฉายอีกครั้งโดยมีโฆษณาคั่นอยู่เป็นระยะ

25-31 กรกฎาคม นี้ ในวาระครบรอบ 20 ปี นางนาก ซึ่งนำแสดงโดย ทราย เจริญปุระ และ เมฆ-วินัย ไกรบุตร หวนกลับคืนสู่โรงภาพยนตร์อีกครั้ง ตื่นเต้นไม่น้อยที่เด็กยุคใหม่จะได้สัมผัสบรรยากาศที่หล่อเลี้ยงความสะพรึงกลัวเอาไว้ให้มือไม้เราจับพนักเก้าอี้แน่น หายใจไม่ทั่วท้อง ร่างกายเกร็งไปตามจังหวะจะโคน กับความรักอมตะที่ความตายไม่อาจพรากจาก ที่นางนากมอบให้สามีอย่างพ่อมากตราบนิรันดร์

ตื่นเต้นไปมากกว่านั้นเมื่อ Sanook! TV/Movies มีโอกาสได้สนทนากับ นนทรีย์ นิมิบุตร ชายผู้นั่งแท่นผู้กำกับและสร้างปรากฏการณ์ในวงการภาพยนตร์ไทย เราจึงสอบถามถึงความผูกพันตลอด 20 ปีที่ผ่านมาระหว่างเขากับหนังเรื่องนี้ รวมไปถึงความเปลี่ยนแปลงของหนังผีไทยตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา

สิ้นสุดบทสนทนาก็ทำให้เรารู้ว่า นนทรีย์ ผู้ไม่กลัวผีสางนางไม้คนนี้ ก็มีโมเมนต์ไปนั่งรอบางสิ่งบางอย่างที่ท่าน้ำอยู่ทุกวัน ไม่ต่างอะไรจาก นางนาก แม้แต่น้อย

 

ปีนี้ครบรอบ 20 ปีภาพยนตร์เรื่อง “นางนาก” เราอยากทราบว่า “ความผูกพัน” ที่คุณมีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ มีอะไรบ้าง?

สำหรับผม นางนาก คือภาพยนตร์เปลี่ยนชีวิตครับ 2499 อันธพาลครองเมือง อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของอาชีพ แต่ นางนาก คือจุดเปลี่ยนของชีวิต หนังเรื่องนี้นำพาผมไปไกลมาก ในเมืองไทยก็ได้รับการตอบรับอย่างสูงมากๆ สูงที่สุดในชีวิตผมเลย หลังจากนั้นก็นำพาผมไปเทศกาลหนังทั่วโลก คือในรอบ 20 ปีที่ผ่านมานี่ไปไม่หยุดเลยนะครับ พ้นจาก 3-4 ปีแรกที่ไปมาทั่วแล้ว มาถึงตอนนี้ก็ยังมีไปฉายอยู่เรื่อยๆ เหมือนกับว่า นางนาก มันมีความคลาสสิคบางอย่างในตัวหนังเอง หมายถึงว่าเป็นรสชาติที่ใครๆ ก็รับก็เสพได้ ใครๆ ก็เข้าใจมันได้ ไม่ได้ยากเกินไป มันก็เลยเท่ากับว่าผมไม่เคยพลาดที่จะดูหนังเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ (หัวเราะ) ถามว่าผูกพันแค่ไหน ผูกพันไม่ลืมเลย (หัวเราะ) หรือตอนที่หนังเข้าไปอยู่ในสตรีมมิ่งผมก็ยังเปิดดูอยู่ ตอนนี้ครบรอบ 20 ปีก็ได้กลับมาฉายอีกครั้ง ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ไม่เคยห่างหายจากผมไปไหนเลย

นนทรีย์ นิมิบุตร

แน่นอนว่าเด็กยุคใหม่ เจเนอเรชั่นใหม่ คงไม่มีโอกาสได้ชม นางนาก ในโรงภาพยนตร์ นั่นคือสาเหตุที่นำภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวกลับมาฉายในโรงหนังหรือเปล่า?

ผมว่าเนื่องจาก นางนาก เป็นภาพยนตร์ที่เป็นมรดกแห่งชาติด้วย แล้วพอครบ 20 ปี เขาก็คงจะเอาวาระต่างๆ มารวบรวมแล้วก็บอกว่า ทำกันเถอะ ที่สำคัญที่สุดคือหนังได้รับการรีมาสเตอร์จากฟิล์ม สแกนลงไปเป็นดิจิตัล โฟร์เค (Digital 4K) เสียงก็เป็นดิจิตัลทั้งหมด ทำทั้งทีก็น่าเอามาฉายเนอะ สำหรับผมเวลาดู นางนาก ในโรงภาพยนตร์ต่างๆ ทั่วโลก บางที่หลอดไฟก็ไม่สว่างนัก ตรงนั้นตรงนี้มืดไป อาจจะมองไม่เห็น บางทีเสียงก็ไม่ค่อยดัง แต่พอเป็นระบบ 4K ทุกอย่างมันแน่นอนมาก คือทุกคนจะได้เห็นที่เราวางรายละเอียดกันไว้ในหนังทั้งหมดอย่างชัดเจน มันไม่ต้องห่วงเลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมกับทีมงานทุกคนได้รีเสิร์ชกัน 2 ปีเต็มๆ เพื่อเอารายละเอียดทั้งหมดมาไว้ในหนัง มันคงจะเห็นครบถ้วนจากการฉายครั้งนี้แน่นอน รอบไหนโรงไหนก็เหมือนกัน (หัวเราะ) ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เราต้องลุ้นว่า หลอดเสื่อมหรือยัง ลำโพงเปิดดังหรือเปล่า แต่คราวนี้รสชาติจะเป็นหนึ่งเดียว

เด็กเจเนอเรชั่นนี้จะได้อะไรจากการดู นางนาก ในโรงภาพยนตร์?

อย่างน้อยถ้าเขามีข้อมูล เขาอาจจะคิดว่า ทำไมหนังไทยเรื่องหนึ่งในยุคนั้นมันถึงทำเงินมากขนาดนี้ ทำไมคนถึงได้สนใจออกมาดูหนังเรื่องนี้เยอะขนาดนี้ ตั้งแต่เด็ก 10 ขวบไปจนถึงคนแก่อายุ 80-90 นี่คือรีพอร์ตของช่วงเวลานั้นจริงๆ เหมือนกับว่า นางนาก เป็นหนังที่ดูได้ทุกคน ผมว่าเด็กรุ่นนี้อาจจะตั้งข้อสงสัยก็ได้ว่า เฮ้ย 20 ปีที่แล้วมันเกิดอะไรขึ้น หนังไทยเรื่องหนึ่งทำรายได้ในไทยสูงกว่า Titanic มันเป็นเพราะอะไร มันอาจจะเกิดการตั้งคำถาม เกิดความสงสัย หลายคนอาจเคยดูในสตรีมมิ่งบ้าง ในช่องโทรทัศน์ที่เคยเอากลับมาฉายบ้าง แต่ผมว่าประสบการณ์ในการชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์มันแตกต่างแน่นอน

แตกต่างอย่างไรกับการนอนดูอยู่ที่บ้าน?

ในไซส์ขนาดเล็กรายละเอียดมันไม่ถึงครับ ระบบเสียงก็ไม่ถึง เราทำงานใช้เวลา 3 ปีเต็มๆ ถ่ายหนังด้วย ออกเดินทางไปด้วย สำหรับผม นางนาก คือหนังรักที่ถูกบรรยากาศของความน่าสะพรึงกลัวหุ้มหนังเรื่องนี้เอาไว้อยู่ แล้วบรรยากาศต่างๆ เหล่านี้ เราใช้เวลา ใช้การเดินทางมากมายเพื่อไปเก็บมันมา ทั้งหมดทั้งมวลมันไม่ได้เกิดขึ้นในที่ๆ เดียว มันเกิดขึ้นหลากหลายที่ทั่วประเทศ  บรรยากาศค้างคาวเขาว่ากันว่าต้องไปที่เขางู ราชบุรี เอ้า! ไป อยากได้เสียงอีกา ที่นั่นเยอะสุด ก็ไป ไกลแค่ไหนเราก็ไปเพื่อที่จะได้รวบรวมเอาบรรยากาศของความน่าสะพรึงกลัวต่างๆ นี้มาร่วมไว้ใน นางนาก

คุณได้ไอเดียบรรยากาศความน่าสะพรึงต่างๆ เหล่านี้จากไหน?

เราคิดว่าในโบราณกาลมันน่าจะประมาณนี้ เหมือนกับเป็นการบันทึกเรื่องราวเมื่อ 300 ปีที่แล้ว ซึ่งผมก็ไม่เคยเห็นหรอกนะ แต่อนุมานเอาว่า มันน่าจะประมาณนี้แหละ เราไม่ได้รีเสิร์ชเฉพาะในห้องสมุดนะครับ เรารีเสิร์ชไปทั่วเลย ที่ไหนก็ตามที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับแม่นาคพระโขนง เราไปหมด ไปสืบค้นภาพเก่าขาวดำที่ถ่ายจากทางอากาศถึงที่ลอนดอน หรือปูมเรือที่ญี่ปุ่นที่พูดถึงกันว่า เขาเคยขับเรือจะเข้ามาในคลองๆ นี้ แล้วเห็นผู้หญิงยืนอุ้มลูกอยู่ที่ท่าน้ำ แล้วก็หลอกทหารญี่ปุ่นหนีกระเจิงหมด คือมันเป็นเกร็ดก็จริง แต่มันสำคัญนะ แม้กระทั่งเราไปค้นเจอเรื่องของท่านหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ท่านเขียนบันทึกไว้ว่า ตอนเด็กๆ คุณแม่เคยพาท่านไปที่วัดมหาบุศย์ แล้วชี้ให้ดูรอยเท้าของแม่นาคที่อยู่บนเพดานของศาลา มันเลยเกิดไอเดียในการดีไซน์แม่นาคยืนกลับหัวอยู่ เพราะถ้ามีรอยเท้าอยู่ข้างบนนั้นได้ แปลว่าเขาก็ต้องยืนห้อยหัวลงมาถูกไหมครับ แม้กระทั่งเรื่องเข้าทรง เขาว่าที่ไหนมีเข้าทรงแม่นาคพระโขนง ผมก็ไป จริงไม่จริงก็ไม่รู้ แต่เราก็ไปนั่งฟัง เพื่อที่จะไม่ให้พลาดอะไรเลยสักอย่าง ที่ใครอาจจะมาพูดว่าเราอย่างนั้นอย่างนี้ได้ เพราะ 2499 อันธพาลครองเมือง ก็เป็นบทเรียนของผมเหมือนกัน (หัวเราะ) เราพยายามอุดรูรั่วทั้งหมดไม่ให้ใครมาพูดได้ เพราะฉะนั้นรายละเอียดต่างๆ มันต้องการการชมแบบโรงหนัง เราทำหนังเพื่อฉายในโรงภาพยนตร์จริง การดูในโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตไม่ใช่เรื่องผิด แต่... เรียกว่าอะไรดี คือคุณภาพของงานหรือความทรงคุณค่าของมันที่เราวางไว้ทุกกระเบียดนิ้ว เราใช้นิ้วมือคนขัดถูลงไปบนพื้นกระดานข้างฝาไม้ไผ่ ตะไคร่น้ำที่เราไปแซะๆ มาแปะไว้บนสะพานแต่ละขั้น แต่ละขั้นที่พ่อมากจะเดินขึ้นบันไดท่าน้ำ ดูเหมือนจะแค่นั้น แต่เราต้องไปเสาะหาอะไรต่อมิอะไร รายละเอียดเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แล้วมันต้องดูในโรงหนังถึงจะเห็นรายละเอียดแบบนั้น มันเป็นเรื่องของความสุขเวลาทำงาน แล้วเราก็อยากจะส่งความสุขเหล่านั้นต่อให้คนดูเมื่อเขาได้ดูในโรงจอใหญ่

ประเทศไทยมีตำนานเล่าขานมากมาย เหตุใดเมื่อ 20 ปีที่แล้วคุณถึงเลือกตำนานแม่นาคพระโขนงมาเล่า?

นางนาก เวอร์ชั่นปี 2542 เป็นเวอร์ชั่นที่ 21 นะครับ เคยมีคนทำมาแล้ว 20 เวอร์ชั่น ละครก็มีเยอะแยะมาก แต่ว่าใน 20 เวอร์ชั่นนั้น ผมรู้สึกแตกต่าง คือผมไม่ได้กลัวผี ดูแล้วก็ไม่ได้รู้สึกขนาดนั้น โอเคมันก็ให้บรรยากาศของความน่ากลัวแบบหนึ่งในยุคหนึ่ง แต่เรากลับรู้สึกว่า มันมีเท่านี้จริงๆ หรือ เรื่องมันมีแค่ผู้หญิงคนหนึ่งคลอดลูกแล้วตาย ผัวกลับมาจากสงครามแล้วรู้ว่าเมียตาย ก็เลยไปมีเมียใหม่ แล้วผีก็เลยออกอาละวาด แค่นี้น่ะหรือ ทุกครั้งที่เราได้ดู เรากลับรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าสงสาร เขาอาจจะแค่อยากสร้างครอบครัวของเขา แต่มันอาจจะอยู่บนความเชื่อทางวิญญาณของเราด้วยมั้ง เรารู้สึกว่าวิญญาณอาจจะแค่อยากใช้พลังบุญบารมีเท่าที่มีอยู่เพื่อสร้างบ้านหลังนี้ลวงตาขึ้นมา เพื่ออยู่กับสามีที่กลับมาสัก 5 วันวะ แต่มันมีคนไปยุ่งกับเขาไง 5 วันปุ๊บบ้านหลังนี้อาจกลับไปโทรมเหมือนเดิมก็ได้ ฝั่งผัวก็รับรู้ว่า อ้าว เมียกูตายแล้วเหรอ แล้วก็จบไป แต่ในระหว่างทางมันดันมีคนไปยุ่งกับเขา คือเขาคงอยากจะอยู่สงบๆ กับลูกกับผัว สร้างครอบครัวให้สมบูรณ์ในเวลาไม่เท่าไหร่ ทำไมถึงต้องมายุ่งกับกูด้วยวะ เขาก็พูดในหนัง พยายามจะบอกว่า มายุ่งกับกูทำไม ปล่อยกูอยู่ส่วนกูไป มึงก็อยู่ส่วนมึง (หัวเราะ) ผมรู้สึกว่าเรื่องราวของเขามันน่าสงสารมากกว่าการเป็นผีร้ายที่จะออกไปหักคอหรือออกไปทำร้ายใครอีก แล้วผมก็เชื่อในความรักในแบบที่ว่า พอรู้ว่าเมียตาย มันก็ไม่จำเป็นจะต้องไปมีเมียใหม่ก็ได้หรือเปล่า ก็บวชให้เมียเลยก็ได้ (หัวเราะ) คือผมอยากเล่าเรื่องนี้ในมุมของเราน่ะ

คุณมองว่า นางนาก เป็นหนังรัก แล้วคุณคิดว่า “ความรัก” แบบที่แม่นาคมีให้พ่อมาก มันมีอยู่จริงไหม?

เราว่ามีนะ ยิ่งเฉพาะคนโบร่ำโบราณ ต้องเล่าอย่างนี้ก่อนว่า เวลาเราจะทำหนังสักเรื่อง ตัวละครเริ่มต้นอายุ 16-17 แต่เรื่องราวก่อนหน้านั้นของตัวละครก็ถูกเขียนขึ้นมาด้วย ก็อุปโลกน์ขึ้นมาว่าเขาเป็นลูกเต้าเหล่าใคร มีนิสัยอย่างไร ไอ้มากอยู่กับพ่อที่วัด เป็นลูกศิษย์พระ นางนาก เป็นเหมือนคนที่ถูกพ่อสปอยล์ พอแม่ตายก็อยู่กับพ่อที่เป็นนายอำเภอ กว่าสองคนนี้จะมารักกันได้ แล้วถูกไล่ให้ไปอยู่บ้านปลายนา มันยากเย็นแสนเข็ญ พอเจอความยากลำบาก คนมันก็จะยึดมั่นในความรัก แล้วนางนากก็ค่อนข้างจะเห็นแก่ตัวด้วย แบบ... ไม่เอา ยังไงกูก็จะเก็บของกูไว้อย่างนี้ในเวลาเท่าที่มีอยู่ (หัวเราะ) ซึ่งมันก็กลายเป็นประเด็นสำคัญของหนังเรื่องนี้ แล้วเรารู้สึกว่า ประเด็นหนังรักที่เราคิดถึงตั้งแต่แรกเป็นสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้คงความคลาสสิค และยืนยาวมาจนถึงทุกวันนี้ คือถ้าเป็นหนังผีทั่วไป พี่ก็เชื่อว่ามันคงไม่ได้มีใครพูดถึงได้ยืนยาวขนาดนี้ นี่ไม่ใช่หนังผีทั่วไป มันเป็นหนังรักที่มีผีอยู่ในนั้น

ซึ่งความรักในแบบที่ “กว่าจะมารักกันได้” ในยุคสมัยนี้อาจจะมีลดน้อยถอยลงไป?

มันคงเป็นอย่างนั้นนั่นล่ะครับ ไม่ต้องรุ่นไหนหรอก อย่างรุ่นผมเอง แค่ขี่จักรยานไปยืนดูหลังคาบ้านเธอ เราก็มีความสุขแล้ว กว่าจะได้จับมือกันนี่นานมาก นั่งรอจดหมาย บ้านเราติดแม่น้ำ ก็นั่งรอจดหมายมาทางเรือ นั่งอยู่ท่าน้ำทุกวันเพื่อจะรอไอ้จดหมายนี่มา...

คุณก็มานั่งรอที่ท่าน้ำทุกวันเหมือนกัน?

(หัวเราะ) ก็บ้านเราอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา มันก็มีท่าน้ำ แล้วกว่าจะได้เจอกัน กว่าจะคบกัน กว่าจะรักกัน ฝ่าด่านเพื่อน ฝ่าด่านพี่น้อง ฝ่าด่านแม่ ฝ่าด่าพ่อ กว่าจะสำเร็จ มันเป็นเรื่องยากเย็น ทีนี้พอจะมีอุปสรรค มันก็จะคิดถึงความยากลำบากที่เราเคยมีมา ผู้คนเมื่อก่อนแต่งงานช้า เพราะมันต้องผ่านด่าน มันต้องพิสูจน์ตัวเอง สมัยนี้ทุกอย่างอาจจะรวดเร็ว คุยกันในเฟซบุ๊ก ไลน์หากันต่อสักหน่อย อ่ะคบกัน แล้วก็เลิกรากัน แต่สำหรับเราไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องผิดหรือถูกนะ มันเป็นเรื่องของยุคสมัย วัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนไป เดี๋ยวนี้เขาก็ไม่ได้แคร์ว่า ต่างคนต่างเคยมีแฟนกันมาแล้ว แต่เมื่อก่อนคือเรื่องใหญ่ ยิ่งผู้หญิงเขาจะใช้คำว่า มีมลทิน ยากมากในการที่จะหาครอบครัวใหม่ แต่เดี๋ยวนี้มันคงจะเป็นเรื่องธรรมดา ผู้หญิงอยู่ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องมีครอบครัวก็ได้ ไม่มีสามีก็ได้ ผู้ชายก็เหมือนกัน แล้วเพศสภาพก็มีเรื่องแตกต่างออกไปอีก มันไม่ใช่เรื่องใหญ่แล้วกับการที่เราจะไปงานแต่งงานใครสักคนแล้วปีหน้ามันจะเลิกกัน มันไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป (หัวเราะ)

20 ปีผ่านไป คุณมองว่า “หนังผีไทย” เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน?

ในเรื่องเทคนิคเปลี่ยนไปเยอะ อย่างเรื่อง นางนาก ถ้าเมื่อก่อนมีซีจี ทราย เจริญปุระ คงไม่ต้องห้อยหัวจริงๆ หรอก โปรดักชั่นก็ทันสมัยขึ้น อย่างไรก็ตาม เรายังรู้สึกว่าหนังผีไทยยังอาศัยความตกใจ ความสะดุ้งสะเทือนอะไรกันอยู่ แต่ตอนเราทำ นางนาก เราไม่เอาเลยนะ บอกกับตัวเองไว้ตั้งแต่ต้น บอกเพื่อนๆ ที่ทำงานด้วยกันว่า ไม่เอาเลยนะไอ้เสียงปึ้งปั้งทำให้สะดุ้ง เรารู้สึกว่าการที่เราค่อยๆ กล่อมเขาด้วยบรรยากาศไปเรื่อยๆ มันลึกกว่า มันอยู่ได้นานกว่า มันเป็นเรื่องของคนไม่กลัวผีน่ะครับ เวลาทำหนังผีจริงๆ มันทำยากมากนะ เราต้องไปค้นหากับเพื่อน 2-3 คนว่า อะไรที่ทำให้เรากลัว สรุปก็มาคุยกันว่า บรรยากาศนี่แหละที่ทำให้เรากลัว บรรยากาศทำให้เรารู้สึกได้ ยิ่งเป็นบรรยากาศแบบไทยๆ มันยิ่งชวนขนลุก

แล้วที่เขาว่ากันว่า หนังผีที่ทำเงินในยุคนี้ มักจะเป็นหนังผีตลกเสมอ?

(หัวเราะ) จริงๆ เมื่อก่อนก็เป็น หนังที่ตัวละครต้องวิ่งลงตุ่มอะไรแบบนี้ มันก็เหมือนเป็นขนบของหนังผีไทยที่ต้องแทรกความตลกเข้าไป แล้วทำให้รู้สึกว่า เออมันขำด้วย กลัวด้วย ซึ่งถ้าถามเรา เราก็ยังรู้สึกว่า คนไทยก็ยังชอบแบบนั้นอยู่ มันยังไม่หนีหายไปไหนหรอก เพราะว่าพอคนกลัวมากๆ มันต้องการการผ่อนคลาย ใน นางนาก ถามว่ามีไหม เราก็แอบๆ วางไว้นะ อย่างฉากไอ้จ้อยไปถีบหลวงตา เราก็แอบวางไว้เพื่อให้คนดูเขาได้ถอนหายใจบ้าง ขำดี แล้วค่อยไปขยี้กันต่อ เราว่ามันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง หนังผีฝรั่งบางทีเขาก็กดเราไปตลอดจนจบ คงบรรยากาศไว้ตลอด

วงการภาพยนตร์ไทยในอนาคต ในสายตาของนักทำหนังเช่นคุณ?

คงหนีไม่พ้นสตรีมมิ่ง เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า อีกหน่อยมันคงจะไปแต่ทางนั้น ประเทศไทยเองก็คงจะไปในทิศทางนั้นเช่นกัน โรงหนังเองอาจจะต้องรับการเปลี่ยนแปลงอันนี้อย่างฉับพลัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราและเพื่อนๆ กำลังคิดกำลังมอง กำลังช่วยกันทำก็คือ เราพยายามกลับไปที่ต้นเรื่องของการที่คนจะมาดูหนังเลย เดี๋ยวนี้มันมีค่ายหนังตามต่างจังหวัดที่จะไปอบรมเด็กหรือสอนเด็กให้ดูหนัง สิ่งที่เราอยากจะทำก็คือ รถฉายหนังที่สามารถวิ่งไปถึงได้ทุกที่ ไปฉายหนัง ไปนั่งคุยกับคนดู เราพยายามจะปูพื้นฐานของการรักการดูหนังขึ้นมา หรืออาจจัดประกวดทำหนังสั้นในทุกๆ จังหวัด ซึ่งทุกครั้งที่มีอะไรแบบนี้เราจะกระโดดลงไปทำ เพื่อให้มันเป็นรากฐานว่า คนยังชอบดูหนังอยู่ แม้ว่าจะมีเพียงจอเล็กๆ ไปตั้ง แต่เราก็ขอให้มันเป็นจอฉายเถอะ เราไม่อยากให้เขาดูในโทรทัศน์อยู่ดี อยากจะสร้างบรรยากาศของการดูหนังในโรงหนังอยู่ พยายามจะปลูกฝังเขาตั้งแต่เริ่มต้น พอโตขึ้นมา ก็อยากให้เขามีความรู้สึกว่า หนังมันต้องอยู่ในโรงนะ หรือหนังไทยมันดีอย่างไร ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงนะ

คุณทิ้งช่วงในการกำกับหนังมานานพอสมควร ในเร็ววันนี้จะมีผลงานให้แฟนๆ ได้ชมบ้างไหม?

น่าจะเริ่มช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ครับ เรื่องนี้จะยืนพื้นในการเป็นหนังรัก แต่เป็นหนังรักบนบรรยากาศแอ็กชั่น ผมว่ามันหายไปนานนะหนังแบบนี้ ความรักที่ดำเนินเรื่องด้วยการยิงสะบั้นหั่นแหลก

มีตำนานไหนในเมืองไทยที่คุณอยากจะหยิบมาทำเป็นภาพยนตร์อีกไหม?

มีอีกหลายเรื่องเลยนะ จริงๆ เรื่องราวในอดีตของเรามีหลายเรื่องที่ดีมากๆ อย่าง บุญเพ็ง หีบเหล็ก หรือจะเป็น ซีอุย ซึ่งก็มีคนทำอยู่เรื่อยๆ แต่มันก็ไม่ได้แปลกอะไร นางนาก ก็มีคนทำมาแล้ว 20 กว่าครั้ง แต่ถ้าในเรื่องเดียวกัน เราเจอมุมใหม่ วิธีการพูดแบบใหม่ หรือไปเจออะไรที่น่าพูดกว่าสิ่งที่เขาเคยทำกันมา มันก็น่าสนใจที่จะทำ

จริงๆ คำถามสุดท้ายที่เราลิสต์มาคุณตอบไปแล้ว นั่นคือ คุณเป็นคนไม่กลัวผี?

ไม่กลัวครับ แต่บนความไม่กลัวมันมีเหตุผล ซึ่งก็คือ ตั้งแต่เด็กๆ อายุ 6-7 ขวบ คุณปู่ชอบพาไปป่าช้า แล้วที่บ้านก็คุยเรื่องนี้กันเป็นปกติ เจอผีกันทุกคน ปู่ก็จะวิ่งไล่เตะกับผีบ้างอะไรบ้างอยู่ตลอดเวลา ไปเที่ยวที่ไหนก็เอาอีกแล้ว เมื่อคืนมึงเจอหรือเปล่า คุณลุงคุณน้าคุณอาก็นั่งคุยกัน เมื่อคืนมันมาตัวใหญ่เลย เราก็เคยเจอ ที่เราไม่กลัวเพราะเราเจอแล้วเขาก็มีร่างกายเหมือนคุณเลย เขาไม่ได้แตกต่างจากเรา แล้วเขาก็ไม่เคยทำอะไรเรา ในความเชื่อของเรา ถ้าเราเห็นผีตัวขาวๆ แปลว่าเขาบุญไม่ถึง แบตเตอรี่เขาชาร์จไม่เต็ม สำคัญที่สุดคือ เราเชื่อว่าเขาต้องการอะไรบางอย่างจากเรา ต้องการให้เราช่วยเหลือ เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เราเห็น เราจะทำบุญให้เขา คุยกับเขาว่าเป็นอะไรหรือเปล่า มีอะไรให้ช่วยไหม สุดท้ายก็ไม่มีใครคุยกับเรา (หัวเราะ) ไม่ใช่แบบว่าคิดเองเออเองนะ เห็นปุ๊บชี้ได้เลยว่าคนไหน เคยเจอแบบหมู่คณะก็มีนะ ไปเล่นดนตรีกลับมา นั่งอยู่ในรถกัน 6-7 คน อยู่ดีๆ รถก็จอด แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินขึ้นมานั่งบนรถ ก็ถามว่าจะไปไหน พอคุยกันไปได้สักพัก รถก็จอด แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เดินลงจากรถแล้วก็หายไป แล้วรถก็ออก เราถามคนขับว่า อ้าว รถจอดได้ไง มันบอกว่า  อ้าว ก็มีคนบอกให้จอดรถ (หัวเราะ)

 

รับชมภาพยนตร์ตัวอย่างเรื่อง นางนาก ได้ ที่นี่

อัลบั้มภาพ 14 ภาพ

อัลบั้มภาพ 14 ภาพ ของ “นนทรีย์ นิมิบุตร” ความผูกพัน 20 ปีที่มีต่อ “นางนาก” หนังรักที่มีผี จากฝีมือคนไม่กลัวผี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook