The Art of Racing in the rain สุนัขปลงตกกับชีวิตนักแข่งรถ
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้จะเห็นได้ว่ามีภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับสุนัขหลายเรื่องทีเดียว ถ้านับตั้งแต่ต้นปี 2562 ที่ผ่านมา มีทั้งเรื่อง A Dog's Way, A Dog's Journey แอนิเมชั่นอย่าง The Queen’s Corgi และ The Secret Life of Pets 2 เรียกได้ว่าบรรดาคนรักน้องหมา มีหนังให้ดูกันตลอดปี และล่าสุดกับ The Art of Racing in the rain หนังที่เกี่ยวกับน้องหมา ซึ่งดัดแปลงมาจากนิยายของการ์ธ สไตน์ ซึ่งติดอันดับลิสต์เบสเซลเลอร์นานถึงสามปีครึ่งและถูกแปลไปแล้วถึง 38 ภาษา
สายสัมพันธ์อันแสนอบอุ่น
สายสัมพันธ์ระหว่างเอ็นโซ สุนัขผู้ปลงตกกับชีวิตและเจ้าของอย่าง เดนนี สวิทฟ์ นักแข่งรถฟอร์มูลา วัน ทำให้เอ็นโซเข้าใจทะลุปรุโปร่งเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์และเข้าใจดีว่าเทคนิคที่จำเป็นต่อการแข่งรถก็สามารถใช้ในการเดินทางบนเส้นทางชีวิตได้อย่างประสบความสำเร็จเช่นกัน หนังยังถ่ายทอดวิถีชีวิตของเดนนีและสิ่งที่เขารักในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นอีฟ ภรรยาของเขา, โซอี้ ลูกสาวตัวน้อยและเอ็นโซ เพื่อนแท้ที่เขารักที่สุด การที่เจ้าหมาเอ็นโซเคยดูสารคดีที่เกี่ยวกับชีวิตของชาวมองโกเลีย ทำให้มันเชื่อว่าเมื่อสุนัขสิ้นอายุขัยไปแล้ว ในชีวิตหน้ามันอาจจะมีโอกาสเกิดใหม่เป็นมนุษย์ และนั่นคือความฝันของเขา
จากนักแสดงสุดหล่อสู่โปรดิวเซอร์แสนอบอุ่น
แพทริค เดมป์ซีย์ นักแสดงรูปหล่อที่โด่งดังมาจากซีรีส์ยอดฮิตอย่าง Gray’s Anatomy และภาพยนตร์อย่าง Enchanted, Made of Honor และ Sweet Home Alabama มานั่งแท่นเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ ร่วมกับโปรดิวเซอร์คนอื่นๆที่ต่างก็ตกหลุมรักในเรื่องราวความเฉลียวฉลาดของสุนัข และว่าด้วยการแข่งรถ คนส่วนมากจะเชื่อว่าสุนัขนั้นมีความเป็นมนุษย์และมีความคิดแบบเดียวกับมนุษย์ ซึ่งหนังเรื่องนี้จะถ่ายทอดมุมมองดังกล่าวออกมา
ตัวละครเอ็นโซ เป็นตัวละครที่มีความเชื่อในเรื่องของจิตวิญญาณ เขาเรียนรู้ทุกอย่างจากการกลับชาติมาเกิดและศึกษาพฤติกรรมของเดนนี่เจ้าของของเขา จดจำในทุกห้วงความคิด ลึกไปถึงจิตวิญญาณ และเอ็นโซอยากจะจดจำความรู้สึกนั้นเอาไว้ถึงวันหนึ่งที่พวกเขามีโอกาสได้พบกันในฐานะของมนุษย์และมีโอกาสจับมือกันอย่างจริงๆ ได้พูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน
ความรักที่ไร้เงื่อนไขระหว่างคนและสุนัข
การ์ธ สไตน์ ผู้เขียนนิยาย The Art of Racing in the rain เล่าว่า ในเวอร์ชั่นหนังสือนิยายนั้น หน้าปกหนังสือ สำหรับฉบับปกแข็งและปกอ่อน และในการแปล 38 ภาษา ทุกภาษาต่างก็ใช้หมาแตกต่างกันไปบนหน้าปก ทุกวัฒนธรรมต่างก็มีตัวแทนเอ็นโซในแบบของตัวเอง ในหนังสือ มันเป็นการพูดคุยระหว่างผมกับผู้อ่าน และผู้อ่านก็จะได้วาดภาพหมาของเขาหรือเธอไปกับมัน เพราะทุกคนมีจินตนาการสุนัขเป็นของตัวเอง
สำหรับการ์ธ สไตน์ แล้ว เขามองความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับหมา เป็นเรื่องราวของความรักแบบไม่มีเงื่อนไข เนื่องจากสุนัขไม่ได้เรียกร้องอะไรจากมนุษย์ เช่นเดียวกันกับมนุษย์ที่ไม่ได้เรียกร้องอะไรจากสุนัขเช่นกัน เว้นเสียแต่เรื่องของ “ความรัก”
น้องหมาสี่ขาผู้มารับบทเป็นเจ้าเอ็นโซ
ในขณะที่เควิน คอสท์เนอร์ พากย์เสียงเอ็นโซเอ็นโซบนหน้าจอจะรับบทโดยปาร์คเกอร์ สุนัขพันธุ์โกลเดน รีทรีฟเวอร์วัยสองขวบและบัตเลอร์ วัยแปดขวบ ผู้รับบทเป็นเขาที่โตเป็นผู้ใหญ่
ถึงแม้ว่าไซมอน เคอร์ติส ผู้กำกับของเรื่องจะเคยทำงานกับสัตว์มาก่อนแล้วก็ตาม ซึ่งเขาเคยให้ความเห็นว่า “มันคือหายนะ” แต่สำหรับการร่วมงานกับเจ้าตูบสองตัวนี้ เขากลับแปลกใจในความสามารถของพวกมัน เนื่องจากทีมงานได้เลือกหมาที่เหมาะสมและได้รับการฝึกฝนมาแล้วเป็นอย่างดี
สิ่งที่ยากที่สุดในการฝึกสุนัข คือการฝึกน้องหมาให้อยู่นิ่งที่สุด เพื่อที่จะได้มาซึ่งฉากที่ทำให้คนดูเข้าใจว่าสุนัขกำลังคิดอะไรอยู่ (ในขั้นตอนโพสต์โปรดักชั่น คือการใส่เสียงพากย์ตามไป) ประการถัดมาคือการฝึกสุนัขที่ให้มีเคมีและเข้าขากับนักแสดง ไซมอน ต้องการสัตว์ที่เมื่อคนดูมองผ่านตาพวกมันเข้าไปแล้วจะต้องมีความรู้สึกบางอย่าง
สำหรับไมโล เวน ทิมิเกลีย พระเอกสุดหล่อผู้รับบทเดนนี ใช้เวลาในการทำความรู้จักกับนักแสดงสี่ขา โดยเฉพาะเจ้าปาร์คเกอร์ เขาได้เรียนรู้อะไรมากมายจากมัน ระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์ แค่เขาได้โน้มตัวกระซิบข้างหูของเจ้าปาร์คเกอร์และบอกว่าเรากำลังจะทำอะไร เขาก็สามารถตอบสนองสิ่งที่ทีมงานต้องการได้ในเวลาต่อมา แสดงให้เห็นว่าเขามีจิตวิญญาณไม่ต่างอะไรจากมนุษย์อย่างเราเลย
ทีมผู้ฝึกสุนัขเล่าหลังกองถ่ายว่า เจ้าหมาปาร์คเกอร์เป็น สุนัขสายพันธุ์ โกลเดน รีทรีฟเวอร์ ทีมีความเป็นผู้ใหญ่มาก และหมาสายพันธุ์นี้มีพลังงานในตัวสูง พวกเขาจะชอบทำกิจกรรมเยอะแยะไปหมด ไม่ว่าจะว่ายน้ำ เก็บของ หรืออะไรก็แล้วแต่ สำหรับเจ้าหมาอีกตัวอย่างบัตเลอร์ในวัยแปดขวบ ที่ทีมงานบอกอย่างเอกฉันท์ว่ามันเป็นหมาติงต๊อง ขี้เล่น แต่ด้วยวัยที่ค่อนข้างมาก มันจึงเคลื่อนไหวช้าลง มีท่าทีที่นิ่งๆ ทำตัวสง่างาม ซึ่งบัตเลอร์เป็นน้องหมาที่มีอายุและบุคลิกใกล้เคียงกับเอ็นโซในหนังสือมากที่สุด
สิ่งที่เซอร์ไพรส์ที่สุดสำหรับสุนัขสองตัวนี้ก็คือทั้งปาร์คเกอร์และบัตเลอร์ สองดารานำที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีของเรื่อง ต่างก็เป็นสุนัขที่ได้รับการอุปการะทั้งคู่ เพราะเจ้าของคนก่อนหน้ารู้สึกว่า การรับมือกับสุนัขโกลเดน รีทรีฟเวอร์ นั้นเป็นงานที่หนักเกินไปสำหรับพวกเขา