10 ไฮไลท์ไม่ควรพลาดจากมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 21

10 ไฮไลท์ไม่ควรพลาดจากมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 21

10 ไฮไลท์ไม่ควรพลาดจากมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 21
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ กำลังจะกลับมาสร้างความสุขให้กับผู้ชม และจุดประกายให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครที่เปี่ยมไปด้วยสีสันและความรื่นรมย์อีกครั้ง ด้วยทัพศิลปินมากกว่า 1,000 คนจาก 16 ประเทศ นำเสนอสุดยอดการแสดงและดนตรี รวม 13 โชว์ 19 รอบการแสดง เป็นช่วงเวลา 6 สัปดาห์แห่งความบันเทิงหลากรส

นับเป็นปีที่ 21 ของมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ โดยในปีนี้การแสดงและดนตรีหลากหลายทั้งโอเปรา บัลเลต์ ดนตรี การเต้นรำ กายกรรม และอีกมากมายโดยสุดยอดศิลปินระดับตำนานและชื่อดังระดับนานาชาติถูกคัดสรรสู่เวทีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 11 กันยายน ถึง 23 ตุลาคม 2562 และ 10 ไฮไลท์เด็ดที่เราอยากจะนำเสนอ ก็มีดังต่อไปนี้

01 Turandot (11 กันยายน)

เปิดม่านเทศกาลด้วยการแสดงโอเปราคลาสสิก เรื่อง ตูรันโด (Turandot) ผลงานการประพันธ์ของเกียโคโม ปุชชินี ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในโอเปราที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลก โดยคณะเอคาเตอรินเบิร์ก (Ekaterinburg Opera Theatre) คณะโอเปราชั้นนำที่เก่าแก่ที่สุดของรัสเซีย การันตีคุณภาพด้วย 15 รางวัล “หน้ากากทองคำ” หรือ Golden Mask Awards มีชื่อเสียงเทียบเท่ากับรางวัลออสการ์ของวงการภาพยนตร์ ซึ่งได้รับการยอมรับและยกย่องจากแวดวงโอเปราเป็นอย่างสูง ห้ามพลาดโอกาสที่จะได้ฟังบทเพลงโอเปราที่โด่งดังที่สุด “NESSUN DORMA” แบบสดๆ

02 Rusalka (13 กันยายน)

ยังอยู่ที่คณะเอคาเตอรินเบิร์ก โอเปรา เธียเตอร์ แต่จะเป็นการนำเสนอการแสดงโอเปราจากผลงานการประพันธ์ของ อันโตนิน ดโวชาค เรื่อง รูซัลกา (Rusalka) พรายน้ำแสนสวยผู้เป็นอมตะเกิดตกหลุมรักเจ้าชายรูปงาม จึงเกิดความปรารถนาที่จะเป็นมนุษย์ ความรักต้องห้ามนี้ได้เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล ถ้าคุณชื่นชอบ Little Mermaid คุณจะหลงรัก Rusalka

โดยดนตรีประกอบโอเปราทั้งสองเรื่องเป็นผลงานการบรรเลงโดยวงออร์เคสตรา ภายใต้การควบคุมวงของ คอนสแตนติน ชูดอฟสกี วาทยกรเจ้าของรางวัลมากมาย และยังได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Financial Times ให้เป็นหนึ่งใน 25 ชาวรัสเซียที่น่าจับตาในฐานะหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนและสร้างความสั่นสะเทือนให้กับประเทศ

Rusalka

03 Swan Lake, Pas de Deux, Nightcrawlers, Dying Swan & Paquita และ Swan Lake, Pas de Deux, Go for Barocco, Dying Swan & Walpurgis Night (16-17 กันยายน)

เปลี่ยนโหมดสู่การแสดงบัลเลต์ที่ฉีกขนบ โดยคณะ เลส์ บัลเลต์ ทร็อคคาเดโร เดอ มอนติ คาร์โล (Les Ballets Trockadero de Monte Carlo) หรือ เดอะ ทร็อคส (The Trocks) จากนิวยอร์ก คณะนักบัลเลต์ชายล้วนจะคัดสรรชุดการแสดงที่บิดสมการบัลเลต์คลาสสิกอย่างไม่ซ้ำใคร สร้างร้อยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความประทับใจให้แก่ผู้ชมทุกครั้งที่เปิดการแสดง ที่สำคัญกว่า 40 ปีที่ “เดอะทร๊อค” สร้างปรากฏการณ์บัตรจำหน่ายหมดเกลี้ยงทุกรอบจากการแสดงทั่วโลก 

คณะ The Trocks

04 La Verità (21-22 กันยายน)

พบกับความลุ้น ระทึก เสี่ยงตายที่ประณีตชนิดแทบลืมกระพริบตา ในการแสดงชุด ลา เวอริตา (La Verità) ของคณะกอมปาเญีย ฟินซี ปัสกา (Compagnia Finzi Pasca) จากสวิตเซอร์แลนด์ นำเสนอความเหนือจริงที่มีแรงบันดาลมาจาก ภาพวาด Tristan Fou ของ ซาลวาดอร์ ดาลี ให้สัมผัสได้ผ่านการแสดงกายกรรม ละคร ระบำ และดนตรี ด้วยความสามารถของเหล่านักร้อง นักเต้น และนักกายกรรมที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ ยืนยันด้วยฝีมือที่ฝากไว้ในผลงานการออกแบบการแสดงสำหรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกมาแล้วถึง 3 ครั้ง 

La Verità

05 Swan Lake on Ice (26-27 กันยายน) และ Cinderella on Ice (28-29 กันยายน)

ได้เวลาเปิดโลกแห่งจินตนาการกับเทพนิยายสองชุดการแสดง จากคณะ ดิ อิมพิเรียล ไอซ์ สตาร์ส (The Imperial Ice Stars) จากสหราชอาณาจักร ซึ่งจะเนรมิตเวทีของหอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยให้กลายเป็นลานน้ำแข็งขนาดยักษ์ 14 ตัน เพื่อนำพาผู้ชมสู่ความเพลิดเพลินของการแสดง “สวอน เลค ออน ไอซ์ - Swan Lake on Ice” ในวันที่ 26 และ 27 กันยายน  และ “ซินเดอเรลลา ออน ไอซ์ - Cinderella on Ice” ในวันที่ 28 และ 29 กันยายน นักสเก็ตมากกว่า 35 คน ซึ่งล้วนเป็นแชมเปียนกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตทั้งระดับประเทศ ระดับยุโรป และระดับโลกมี 250 เหรียญรางวัลการแข่งขันระดับโลกการันตี จะทำให้เทพนิยายมีชีวิตอีกครั้งด้วยลีลาการแสดง การโบยบินที่พลิ้วไหว ซึ่งเพิ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นชนิดที่ยังไม่มีชื่อเรียกเสียด้วยซ้ำ

06 Lady Zhaojun (5-6 ตุลาคม)

ความละเมียดละไมของศิลปะการแสดงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนชุด “หวัง จ้าวจวิน” (Lady Zhaojun) เป็นการตีความเรื่องราวคลาสสิกของหนึ่งในสี่ตำนานสตรีผู้เลอโฉมที่สุดในประวัติศาสตร์จีนให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น ถ่ายทอดโดย หลีอวี้กัง (Li Yugang) ซูเปอร์สตาร์แห่งทศวรรษของจีนเจ้าของตำแหน่งรางวัล “ศิลปินยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย” โดยมีแฟนคลับผู้ติดตามทั้งในจีนและประเทศต่างๆ ในเอเชียนับล้านคน บนเวทีนี้ หลีอวี้กัง มาพร้อมกับนักร้อง นักแสดง และนักเต้นอีก 70 ชีวิต เครื่องแต่งกายสุดอลังการ ฉากโปรดักชันสุดยิ่งใหญ่ นับเป็นการนำโปรดักชันชุดนี้ออกนอกประเทศจีนเป็นครั้งแรก ในค่ำคืนของวันที่ 5 และ 6 ตุลาคม   

Lady Zhaojun

07 Introdans (11 ตุลาคม)

ช่วงเวลาแห่งความน่าประทับใจของการแสดงร่วมสมัย โดยคณะอินโทรดันส (Introdans) คณะบัลเลต์ร่วมสมัยที่โด่งดังที่สุดของเนเธอร์แลนด์และยอดเยี่ยมที่สุดในทวีปยุโรป คณะอินโทรดันสมีชื่อเสียงทั้งในเรื่องของพรสวรรค์และทักษะชั้นสูงของนักเต้น ความสร้างสรรค์ในการออกแบบท่าเต้น และการแสดงที่ท้าทายต่อแรงโน้มถ่วง กลายเป็นการเต้นที่มีเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ในงานมหกรรมฯ ครั้งนี้ คณะอินโทรดันสจะนำเสนอการแสดง ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบท่าเต้นของสามนักออกแบบท่าเต้นชื่อดัง คือ “Polish Pieces และ Black Cake” โดย ฮันส์ ฟาน มาเนน, “Ella” พร้อมดนตรีประกอบของ เอลลา ฟิตซ์เจอรัลด์ โดย โรเบิร์ต แบทเทิล และ “In Memoriam” โดย ซีดิ ลาร์บิ เชอร์ครัวอี

08 Concerto Budapest Symphony Orchestra (13 ตุลาคม)

ช่วงเวลาแห่งมนต์ขลังของดนตรีคลาสสิกในคอนเสิร์ต คอนแชร์โต บูดาเปสต์ ซิมโฟนี ออร์เคสตรา (Concerto Budapest Symphony Orchestra) คณะซิมโฟนีออร์เคสตราชั้นที่มีอายุเก่าแก่ถึง 112 ปีจากฮังการี การแสดงของวงแต่ละครั้งเต็มไปด้วยเสน่ห์ พลัง และความเป็นเอกภาพ โดยมี อันดราส เคลเลอร์ ศิลปินผู้มากความสามารถทั้งในฐานะวาทยกร นักไวโอลินผู้มีชื่อเสียง และครูผู้ประสิทธิ์ประสาท รับหน้าที่ควบคุมวง ในค่ำคืนอันน่าประทับใจนี้ คณะ Concerto Budapest Symphony Orchestra จะนำเสนอผลงานคลาสสิกที่หาฟังและชมได้ยาก ผลงานของนักประพันธ์ชื่อดัง ทั้ง Les Preludes ผลงานของฟรานซ์ ลิตซ์, Symphonic Fantasy - Francesca da Rimini ผลงานของปีเตอร์ ไชคอฟสกี และ Concerto for Orchestra ผลงานของเบลา บาต็อก

Concerto Budapest Symphony Orchestra

09 Kremlin Ballet (15, 17, 19 ตุลาคม)

ต่อด้วยความตระการตาของการแสดงบัลเลต์คลาสสิก จากคณะเครมลิน บัลเลต์ (Kremlin Ballet) คณะบัลเลต์ซึ่งถือกำเนิด ณ พระราชวังเครมลินเมื่อเกือบสามทศวรรษก่อน และได้กลายเป็นคณะที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในความสำเร็จของวงการบัลเลต์รัสเซียนับจากนั้นเป็นต้นมา โดยบนเวทีมหกรรมฯ ครั้งนี้ คณะ Kremlin Ballet จะนำเสนอสามบัลเลต์เรื่องดัง ได้แก่ The Hunchback of Notre Dame หรือ Esmerlada (15 ตุลาคม), A Thousand and One Nights หรือ พันหนึ่งราตรี (17 ตุลาคม) และ Swan Lake (19 ตุลาคม) ดนตรีประกอบการแสดงสด เป็นผลงานการบรรเลงของวงออร์เคสตรา ภายใต้การอำนวยเพลงโดย เยฟเกนี โวลินสกี  

A Thousand and One Nights

10 José Carreras: Farewell Concert (23 ตุลาคม)

ปิดม่านงานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 21 ด้วยคอนเสิร์ต Farewell Bangkok อำลากรุงเทพมหานคร โดย โฆเซ การ์เรรัส (José Carreras) นักร้องเสียงเทเนอร์ผู้ยิ่งใหญ่เจ้าของหนึ่งรางวัลแกรมมี หนึ่งในสามนักร้องผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคผู้สร้างปรากฏการณ์ Three Tenors โดยมีดาวรุ่งแห่งยุคร่วมเวที นั่นคือ เซลิน ไบร์น (Celine Byrne) นักร้องเสียงโซปราโนรุ่นใหม่ ภายใต้การควบคุมและกำกับวงโดย เดวิด กิมิเนซ วาทยกรผู้มีความเข้าใจในเรื่องเสียงร้องอย่างถ่องแท้  

José Carreras: Farewell Concert

เพียงปีละครั้งเท่านั้นกับมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีระดับโลกที่หาชมได้ยาก ซึ่งได้รับการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในสุนทรีย์และความรื่นรมย์ของศิลปะการแสดงและดนตรีทุกเพศและทุกวัย บัตรเข้าชมทุกการแสดง

เริ่มจำหน่ายแล้วที่ Thai Ticket Major: www.thaiticketmajor.com 

สายด่วนโทร​ 02 262 3191

และเคาน์เตอร์ Thai Ticket Major ทุกสาขา

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ www.bangkokfestivals.com

https://www.facebook.com/bangkoksInternationalFestivalofDanceMusic/

  

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ 10 ไฮไลท์ไม่ควรพลาดจากมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 21

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook