[รีวิว] แก้วกลางดง กลับมารอบนี้ดีเกินคาด

 

แก้วกลางดงเป็นละครรีเมคที่ รีแล้วรีอีก เวอร์ชันแรกที่สร้างเป็นละครโทรทัศน์ ออกอากาศในปี 2523 ทางช่อง 9 นำแสดงโดย คุณมยุรา ธนะบุตรคู่กับคุณอนุสรณ์ เดชะปัญญา

แน่นอนค่ะ ดิฉันไม่ได้ดูเวอร์ชันนี้ (ใครจะไปดูทันคะตอนนั้นเพิ่งจะกี่ขวบเอง) มาทันดูแก้วกลางดงตอนที่เอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ของไฟว์สตาร์โปรดักชั่นในปี 2528

ข้อความในใบปิดตอนนั้นเขียนไว้ว่า “เมียวดี” สาวชาวป่าคนนี้ จะหยุดความว้าวุ่นของคุณได้ ตั้งแต่นาทีแรกที่พบ”

เห็นปุ๊บก็รู้เลย มันต้องเป็นหนังตลกแน่ ๆ ประเภทนางเอกแก่นเซี้ยว แสนซน ไรงี้ ซึ่งกระแสหนังไทยในสมัยนั้น ไม่บู๊ก็ฮา ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่นอน

แล้วแก้วกลางก็ดันเป็นหนังที่ทั้งบู๊ ทั้งฮา ตรงจริตประชากรในตลาดของยุคนั้นเป็นที่สุด จริง ๆ ยุคนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่อ่ะแหละเนอะ

พอช่อง 7สีทีวีเพื่อคุณนำกลับมาทำเป็นละครอีกครั้งในปี 2530 ก็ดังเปรี้ยงปร้าง เพราะได้ซูโม่แป๊ปซี่มาเรียกเสียงฮาในบทฟ้าลั่น

ได้นางเอกฟันกระต่ายที่คาเรคเตอร์เมียวดีชัดแจ๋วอย่าง พี่นิด–อรพรรณ พานทอง บวกด้วยพระเอกมาดเซอร์ ตรงคอนเซปต์หนุ่มเมืองรักป่าอย่าง พี่ออฟ–พงษ์พัฒน์

ทำให้แก้วกลางดงเวอร์ชันนี้ติดหูติดตาแฟนละครมาจนถึงทุกวันนี้ชนิดที่ต่อให้ทำมาอีก 2เวอร์ชัน ก็ไม่สามารถลบภาพความป่วนความฮาและน่ารักของเวอร์ชันพี่นิดอรพรรณไปได้

ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ??

ก็ละครรีเมคอ่ะ ถ้าผู้จัดจับจุดพลาดไปหน่อยเดียวบอกเลยว่าจบเห่กันเลยนะคะ เชื่อว่าเวอร์ชันพี่นิดอรพรรณได้ทีมเขียนบทที่ดีบวกกับฝีมือการสร้างของดาราวีดีโอ

ที่ไม่ว่าจะทำละครเรื่องไหนก็ดังติดลมบนอยู่ตลอดในสมัยนั้น ดิฉันยังจำเพลงประกอบละครของเวอร์ชันนี้ได้อยู่เลยนะคะ

“…สวยเอยสวยจริงแก้วตาอยู่กลางดง ทั้งแก่นทั้งเก่งทั้งกล้าน่ารักจริง…”

สำหรับเวอร์ชันล่าสุดที่ออกอากาศทางช่อง 3 ได้ค่ายรักละครของผู้จัด อาร์ต พลังธรรม กล่อมทองสุข

หยิบ “แก้วกลางดง” ออกมาปัดฝุ่นใหม่โดยได้ทีมเขียนบทอย่าง ภัทรนันท์ อิศรางกูร ณ อยุธยา/ณัฐพล เกษบุญชู ที่เขียนบทให้แก้วกลางดงทันยุคทันสมัยมากยิ่งขึ้น

ได้ผู้กำกับฯหน้าใหม่ไฟแรง “อั๋น–กรพจน์ สืบชมภู” มากำกับจนเรียกได้ว่าเป็นแก้วกลางดงที่มีอยู่จริง ไม่ประดักประเดิด

คงความเป็นธรรมชาติและทันยุคทันสมัยกับสังคมในประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป โดยได้พระเอกมาดเท่ “ไม้–วฤษฎิ์ ศิริสันธนะ” รับบทเป็น “ทรงเผ่า” 

“อุ้ม–อิษยา ฮอสุวรรณ” หนึ่งในนักแสดงจากเรื่อง ฉลาดเกมส์โกง มารับบทเป็น “เมียวดี” และอีกคนที่จะขาดไปไม่ได้คือ

ตัวชูโรงสร้างเสียงฮาอย่าง “แจ๊ค–แฟนฉัน มารับบทเป็น ฟ้าลั่น”

แก้วกลางดงเป็นบทประพันธ์ของทมยันตี เล่าเรื่องราวของ เมียวดี (อุ้ม อิษยา)สาวชาวป่าวัย 19 ที่มีพ่อเป็นนายพราน เมียวดีฝันอยากเป็นพรานเหมือนพ่อ เก่งแบบพ่อ

อยากทำให้พ่อภูมิใจ ตามธรรมดาของเด็กสาวที่อยู่กับพ่อเลี้ยงเดี่ยว แถมยังอยู่ในป่าในเขาที่จะต้องแก่นเซี้ยวแสนซน แต่เมียวดีก็เป็นเด็กที่ฉลาด ทันคน

แถมยังมีความเจ้าเล่ห์ตามประสาผู้หญิงขี้เล่น ขี้แกล้ง ตรงนี้ก็เป็นเสน่ห์ของเมียวดีที่จะทำให้ทรงเผ่า (ไม้ วฤษฏ์) ตกหลุมรักได้ไม่ยาก

 

วันหนึ่งเมื่อพรานจั่น (กลด อรรถเสรี) เข้าป่าไปกับทรงเผ่า หนุ่มเมืองกรุงที่รักธรรมชาติ จนต้องมาเสียชีวิตอย่างกระทันหันเพราะช่วยชีวิตทรงเผ่าจาก “ไอ้ลาย”

เสือลำบากที่โดนยิงบาดเจ็บจนโมโหร้าย ทำให้เมียวดีตัดสินใจเข้าป่าไปตามล่าหาไอ้ลายไม่ยอมเข้ากรุงเทพฯไปกับทรงเผ่าตามคำฝากฝังของพรานจั่นที่ฝากลูกสาวคนเดียวของเขาไว้ให้ทรงเผ่าดูแล

(จริง ๆ เป็นเรา เราก็ไม่อยากไปด้วยอ่ะนะ เป็นต้นเหตุให้พ่อเราตายแล้วยังจะเสนอหน้ามาดูแลเราอีก บ้าบอออ)

ทรงเผ่าเป็นห่วงที่เด็กผู้หญิงตัวกะเปี๊ยกจะเข้าป่าไปล่าเสือคนเดียว โดยหารู้ไม่ว่า เฮ้ย!!! นั่นเค้าลูกสาวนายพราน !!!!!

จึงขอร้องให้ ฟ้าลั่น (แจ๊ค แฟนฉัน)จัดทีมพรานที่มี จาด และ อั้น เข้าป่าไปตามล่าไอ้ลายแข่งกับเมียวดีทันที (ผู้ชาย 4คน แข่งกับผู้หญิงคนเดียวอ่ะ แมนมาก ๆ)

 

การตามล่าหาไอ้ลายในครั้งนี้ทีมล่าเสือยังต้องพบเจอเรื่องราวอีกมากมายในป่าที่คาดไม่ถึง ทั้งพวกที่ลักลอบล่าสัตว์ แก๊งค้ายา ต้องพบเจอกับอันตรายจนเกือบถึงชีวิตอย่างเลี่ยงไม่ได้

จนทำให้ในที่สุด เมียวดีก็ต้องตามทรงเผ่ามาอยู่ที่กรุงเทพฯจนได้ การหลวมตัวเข้ากรุงเทพฯทำให้เมียวดีต้องปรับตัวเข้ากับสภาพสังคมคนเมือง ที่ในยุคสมัยนี้กลายเป็นยุคของสังคมก้มหน้า

มีความทันสมัยมากมายชนิดที่คนละฟ้าคนละเหวกับบ้านป่าที่เธอเคยชิน เรียกได้ว่าเวอร์ชันนี้มีการปรับบทให้ทันยุคทันสมัยได้อย่างไม่เคอะเขิน

อีกทั้งนักแสดงทุกตัวแสดงก็อวดฝีมือกันออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ อาจจะมีติดขัดอยู่บ้างในเรื่องของภาษา ที่ตัวละครเกินครึ่งเรื่องต้องพูดภาษาเหนือ แต่ก็อยู่ในระดับที่ให้อภัยได้สำหรับตัวละครที่อู้บ่จ้างเท่าไหร่นัก

ในส่วนของตัวอิจฉาที่ละครไทยจะลืมใส่ไปไม่ได้เลย เหมือนผงชูรสถ้าขาดไปแล้วมันจะไม่อูมามิ ในเวอร์ชันนี้ต้องขอเอ่ยปากชมว่าในบทของ “หวาน” (สเตฟานี่ เลอร์ช)

 

สาวสวยที่แอบรักทรงเผ่ามาเนิ่นนานตั้งแต่เด็ก ๆ ถือเป็นนางอิจฉาที่น่ารักน่าให้อภัย ดูมีเหตุผลของความเป็นมนุษย์ที่สุดตั้งแต่ละครเรื่องนี้รีเมคมา ของรักของหวงอ่ะนะ

เราเฝ้าเชยชมรอคอยของเรามานานแสนนาน อยู่ ๆ มีเด็กสาวตาซื่อหน้าใสแถมยังไม่ชอบอาบน้ำโผล่เข้ามาในชีวิต ใครมันจะอดเอาไว้ได้ อะไรวะเราสวยกว่าตั้งเยอะ

ดูเหมาะสมกว่าตั้งไหน ๆ ก็ต้องแก้เผ็ดกลับไปบ้างให้สาแก่ใจ แต่มันก็เป็นความอิจฉา ความรังเกียจแบบเหม็นขี้หน้าที่เข้าใจได้ในบทที่เธอแสดง

อาจทำรุนแรงไปบ้างแต่ในความเป็นมนุษย์ที่ไม่ได้เป็นคนเลวอะไรก็กลับตัวได้ทัน อีกทั้งทีมเขียนบทยังใส่ความป่วยเล็ก ๆ ลงไปในตัวละครตัวนี้คือให้เธอเป็นโรคซึมเศร้า

ที่เก็บกดมาจากความคาดหวังที่มากเกินไปของแม่เธอเอง ถือเป็นเหตุเป็นผลให้กับบทนี้อย่างไม่เคยมีขึ้นในเวอร์ชันไหน ๆ

เอาใจไปเลยค่ะกับเวอร์ชันนี้ อุ้ม เป็นเมียวดีที่คือเมียวดีได้จริง ๆ เป็นเมียวดี 2526 ที่น่ารักน่ามองจนสามารถฉีกยิ้มเคียงคู่กับเมียวดี 2530 ได้ดีเลยทีเดียว

และไม้ ก็เป็นทรงเผ่าที่อบอุ่น สมเป็นคนเมืองที่รักป่าห่วงใยธรรมชาติ เป็นทรงเผ่าที่เท่สมยุค ไม่ขัดตา รวมถึงนักแสดงคนอื่น ๆ ก็แสดงได้สมบทบาทที่ได้รับกันทุกคน

ชอบค่ะ…ไม่เสียเวลาที่ได้ดู มียิ้ม มีเขิน ไม่จิกหมอนแต่ฮาเบา ๆ