รีวิว Weathering with you อยากอธิษฐาน ให้ปาฏิหาริย์วันนั้นกลับมาได้ไหม
สิ่งที่ทำให้ Weathering with you ได้รับการจับตามองอย่างมาก นั่นก็เพราะนี่คือผลงานเรื่องใหม่ของผู้กำกับมาโกโตะ ชินไค ที่สามารถสร้างปรากฏการณ์จากแอนิเมชั่นเรื่อง Your Name ในระดับโลก
เรื่องราวใน Weathering with you อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวมาจากชีวิตจริง (บางส่วน) ของตัวผู้กำกับเอง ไปสู่ตัวละครโฮดากะ โมริชิมะ (โคทาโร่ ไดโกะ) ซึ่งเป็นตัวละครวัยรุ่นมัธยมปลายที่ตัดสินใจหนีออกจากบ้านเพื่อเดินทางมายังเมืองใหญ่อย่างโตเกียว เพียงเพราะเขาต้องการแสวงหาความหมายบางอย่างของชีวิต แต่แค่เพียงครั้งแรกในการเดินทางด้วย “ตัวคนเดียว” ทำให้เขาสัมผัสกับความอันตรายของสังคมเมืองและไม่คุ้นชินผู้คน
หนังเผยให้เห็นว่าย่านแรกที่ตัวละครโฮดากะเดินทางไปก็คือ ย่านคาบุกิโจ ชิบูยะ ซึ่งเป็นย่านที่เต็มไปด้วยคลับและบาร์ของผู้ใหญ่ จนเราอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นโซนด้านมืดของโตเกียว ที่รายล้อมไปด้วยแสงสีเลยก็ว่าได้ แม้เขาพยายามจะหางานทำมากแค่ไหน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเด็กม.ปลายที่แทบไม่มีความสามารถอะไร จนกระทั่งเขาได้พบกับเคย์สุเกะ ซูกะ (ชุน โอกุริ) เจ้าของเอเจนซี่ที่พยายามจะขายเรื่องราวเหนือธรรมชาติในเมืองโตเกียวผ่านนิตยสาร ได้ชักชวนให้โฮดากะมาร่วมงาน แลกกับการให้ที่พัก อาหารและเงินเดือนเล็กๆน้อยๆ
ในเวลาดังกล่าวนั้นเอง เมืองโตเกียวที่กำลังเผชิญกับสภาพฟ้าฝนที่วิกฤติ มีคำร่ำลือถึง “เด็กสาวฟ้าใส” ผู้มีพลังพิเศษที่จะทำให้ท้องฟ้าเปิดเมื่อเธออธิษฐานขอพร เมื่อสืบไปเรื่อย โฮดากะจึงได้พบกับฮินะ อานาโมะ (นานะ โมริ) เด็กสาวคนดังกล่าว
สองหนุ่มสาวได้กลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักพวกเขาจึงเริ่มทำกิจการร่วมกัน นั่นคือธุรกิจไล่ฝนและทำให้ฟ้าเปิด ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกันกับความสัมพันธ์ของทั้งสองที่พัฒนาไปเป็นความห่วงใยกันทีละเล็กทีละน้อย อันนำไปสู่ความรัก
สิ่งที่น่าชื่นชมอย่างมากสำหรับ Weathering with you คืองานออกแบบด้านภาพ โดยเฉพาะฉากหลังซึ่งจำลองบรรดาสถานที่จริงในประเทศญี่ปุ่นมาอย่างละเอียด ซึ่งถ้าใครเคยเดินทางไปเที่ยวที่โตเกียวมาจะรู้ทันทีว่าหนังเรื่องนี้แถบจะยกเอาทุกอย่างในเมือง เอามาใส่ไว้ในแอนิเมชั่น ความโดดเด่นดังกล่าวนี่เอง ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกได้เลยว่า โตเกียวในหนังเรื่องนี้ เป็นเมืองจริงๆที่จำลองไปอยู่ในหนัง
สำหรับส่วนบทภาพยนตร์ อาจจะยังไม่อิ่มเอมใจเท่ากับบทใน Your Name เมื่อแรงขับด้านการใช้ชีวิตของตัวเอกอย่างโฮดากะเมื่อเราพิจารณาถึงสาเหตุที่เขาหนีออกจากบ้านเพื่อเดินทางมาโตเกียว ยังดูไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไหร่ ส่วนความพยายามทำให้เรารู้สึกอินไปกับความรักของหนุ่มสาวในหนังเรื่องนี้ก็ยังค่อนข้างเบาบาง อย่างเดียวที่เราสัมผัสได้อย่างชัดเจนคือกลิ่นอายของความเป็นวัยรุ่นหัวขบถ ที่พยายามทำในทุกวิถีทางเพื่อรักษาความรักของตัวเองไว้ โดยไม่สนใจบริบทแวดล้อม ซึ่งก็ตอบโจทย์ความเป็นหนังแอนิเมชั่นความรัก “วัยรุ่น” ที่ขับเคลื่อนชีวิตจาก “อารมณ์” มากกว่า “เหตุผล” ได้ดีทีเดียว